เทียบเชิญทีมชาติไทยบู๊บอลอาหรับที่ยูเออี-ส.บอลฯรอคุยสโมสร

 สืบเนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียตะวันตก หรือ (WAFF) เตรียมจัดศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก 2023 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ โดยจะบรรเลงเพลงแข้งกันในช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์ เดือน มี.ค. 2566

 โดยการแข่งขันรายการดังกล่าวจะมี 12 ชาติร่วมโม่แข้ง ประกอบด้วย ยูเออี (เจ้าภาพ), จอร์แดน, ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต, บาห์เรน, เลบานอน, ปาเลสไตน์, อิรัก, โอมาน, ซีเรีย, เยเมน นอกจากนี้ยังส่งหนังสือเชิญทีมชาติไทย ทีมจากภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอยู่นอกโซนเข้าร่วมฟาดขันรายการนี้ด้วย

 ล่าสุด "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้แล้วว่า "สมาคมฯ ได้รับเชิญไปร่วมแข่งขันจริง และเป็นชาติเดียวที่ไม่ได้อยู่ในเอเชียตะวันตกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมรายการนี้ เราเองชสนใจที่จะเข้าร่วมแข่งขัน เพราะทีมชาติไทยจะได้เล่นกับทีมที่มีแรงกิ้งฟีฟ่าดีกว่า ซึ่งจะทำให้คะแนนสะสมในอันดับโลกของไทยขยับสูงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย"

  เลขา ส.บอลไทย กล่าวต่ออีกว่า "ช่วงฟีฟ่าเดย์เดือน มี.ค. อยู่ระหว่างวันที่ 20-28 แต่ฟุตบอลรายการนี้มีช่วงเวลาแข่งขันนานกว่านั้น ทำให้มีผลกระทบต่อโปรแกรมฟุตบอลไทยลีก ที่จะต้องขยับหลบไม่ให้ชนกับช่วงที่ไทยไปแข่ง ซึ่งถ้าขยับก็จะมีเกมกลางสัปดาห์เพิ่มขึ้น ตรงจุดนี้ต้องหารือกับสโมสรต่างๆ กันก่อน"

     "แน่นอนครับว่าโอกาสเช่นนี้ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ ที่ทีมชาติไทยจะได้เล่นกับทีมที่มีแรงกิ้งสูงกว่าหลายทีม ที่แน่ๆ เราต้องได้เล่นอย่างน้อย 3 นัด ซึ่งจะทำให้อันดับโลกเราขยับขึ้นแน่ และจะมีผลต่อการจัดอันดับทีมวางในการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย รวมทั้ง ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ด้วย"

  สำหรับสาเหตุที่ WAFF เชิญทัพ "ช้างศึก" เข้าร่วมรายการนี้ เพราะได้มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้แล้วก่อนจะเชิญเราอย่างเป็นทางการ แต่ ส.ลูกหนังไทยฯ ยังไม่ได้ตอบกลับไปเนื่องจากต้องหารือกับสโมสรกันก่อน ถึงผลกระทบที่จะตามมาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะต้องไปเล่นยูเออี