"ช้างศึก" คัมแบ็กซ้อมอีกครั้งในวันส่งท้ายปีเก่าหลังได้พัก 1 วันเต็ม ด้าน "โค้ชมาโน่" จัดสูตรซ้อมพิเศษใส่เทคบอลระหว่างซ้อมให้ลูกทีมผ่อนคลาย พร้อมแบ่งเป็น 2 ชุด โดยชุดตัวจริงที่ลงเตะกับอินโดนีเซีย ฟื้นฟูร่างกาย ส่วนที่เหลือซ้อมรูปแบบการเล่นร่วมกัน ก่อนเกมสำคัญส่งท้ายกลุ่ม เอ เปิดรังซด กัมพูชา วันจันทร์ที่ 2 ม.ค.2566
ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ หลังจากลงสนามในศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ มาแล้ว 3 นัด ยังคงรั้งจ่าฝูงของกลุ่มเก็บไป 7 แต้ม จาก 3 นัด โดยเกมล่าสุดบุกไปเสมอ อินโดนีเซีย 1-1 ที่สนามเกโลรา บุง การ์โน่ สเตเดี้ยม (เสนายัน) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค.65 ทางด้าน มาโน่ โพลกิ้ง นำลูกทีมทัพ "ช้างศึก" คัมแบ็กซ้อมอีกครั้งที่สนามยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมี่ หลังได้พักเมื่อวานนี้เนื่องจากเดินทางจากอินโดนีเซียกลับเมืองไทย เพื่อรักษาสภาพร่างกายและความสดเอาไว้ก่อนเกมสำคัญในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ เฮดโค้ชวัย 46 ปี ได้แบ่งนักเตะเป็นสองชุด ชุดแรก ประกอบด้วย 11 ผู้เล่นตัวจริงจากเกมที่แล้วได้ฟื้นฟูร่างกาย ส่วนผู้เล่นที่เหลือฝึกซ้อมรูปแบบการเล่นร่วมกัน นอกจากนี้ยังจัดซ้อมแบบเทคบอล (teqball) ให้ลูกทีมได้ผ่อนคลายกันอีกด้วยซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีในการฝึกซ้อม
ทั้งนี้ เงื่อนไขและสถานการณ์เข้ารอบชนะเลิศของทีมชาติไทย มี 2 ทางเลือกคือ 1. เสมอ หรือ ชนะ กัมพูชา ไทยจะ เข้ารอบทันที หากจบด้วยผลเสมอต้องลุ้นผลคู่ ฟิลิปปินส์- อินโดนีเซีย ว่าออกมาเป็นแบบไหน เพื่อเช็กสถานะการเข้ารอบอันดับ 1 หรือ 2 ของกลุ่ม
ขณะที่ทางเลือกที่ 2 กรณีเดียวที่ไทยจะไม่ได้ไปต่อคือเปิดบ้านแพ้ให้กัมพูชา จะทำให้กัมพูชามี 9 แต้ม ไทยมี 7 แต้ม และ อินโดนีเซีย บุกมีแต้มเหนือฟิลิปปินส์ ไม่ว่าจะเสมอหรือชนะ อินโดนีเซีย จะเข้ารอบด้วยการมี 8 หรือ 10 แต้ม
สำหรับโปรแกรมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย เปิดบ้านพบกับ กัมพูชา ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม ในวันจันทร์ที่ 2 ม.ค.66 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง MCOT HD 30 และช่อง T-Sports 7