ไม่หวั่นเสียงเชียร์! "มาโน่" โวเป้าวางกลยุทธ์เปลี่ยนเสียงเชียร์แฟนบอลอิเหนาให้เป็นพลังบวก

เมื่อวันพุธที่ 28 ธ.ค.65 เวลา 12.30 น. ที่ห้องแถลงข่าว สนามเกโลรา บุง การ์โน (เสนายัน) ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 จัดการแถลงข่าวก่อนเกมรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่ 3 คู่ระหว่าง ทีมชาติอินโดนีเซีย เปิดบ้านพบกับ ทีมชาติไทย โดยมี มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ พร้อมด้วย สารัช อยู่เย็น กองกลางตัวเก่ง มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้

เฮดโค้ชทัพ "ช้างศึก" เผยว่า "เราพร้อมเต็มที่สำหรับเกมนี้ ผมเชื่อว่าจะเป็นเกมที่ดี แฟนบอลจะเข้ามาเต็มสนาม สำหรับเกมฟุตบอลแล้ว การมีแฟนบอลเข้ามาเต็มสนาม แม้จะมาเชียร์ฝั่งตรงข้าม หรือเชียร์ทีมตัวเอง ทำให้บรรยากาศฟุตบอลมันดี เราเองมีเวลาได้พักไม่ได้มาก หากเทียบกับ อินโดนีเซีย ที่ได้พักนักเตะหลายคนในเกมที่แล้ว และเราเพิ่งเดินทางมาถึง โดยรวมถือได้พักว่าน้อย แต่ว่าทุกคนก็พร้อมสำหรับเกมนี้"

"แน่นอน ชิน แต ยอง เป็นโค้ชที่ มีโปรไฟล์ที่ดี จากผลงานที่ผ่านมาพาเกาหลีใต้ชนะทีมอย่างเยอรมัน ได้คุมทีมในฟุตบอลโลก สำหรับผม เขาพัฒนาฟุตบอลอินโดนีเซียไปในทางที่ดี และเขาก็เป็นโค้ชที่มีคุณภาพ"

"เป้าหมายปีนี้ของเราในการเจอกับอินโดนีเซีย ไม่ได้ต่างจากเดิม ปีที่แล้วเราชนะมาแล้ว แม้พวกเขาจะเป็นทีมที่ดี แต่เราก็มีคุณภาพ แม้ทีมชุดนี้จะขาดตัวหลักจากปีที่แล้วมากมาย แต่นักเตะหน้าใหม่ที่เข้ามาก็มีคุณภาพพอกัน และมากพอที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายในรายการนี้ ในมุมมองผม ในทัวร์นาเมนต์นี้มี อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ เวียดนามที่เป็นทีมที่แข็งแกร่งสำหรับรายการนี้ และรวมเราแล้วเป็นสี่ทีมที่ดีที่สุดในอาเซียน"

"เราเจอพวกเขามาแล้วสองรอบ และเจออีกครั้งในซีเกมส์ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาเยือนอินโดนีเซีย ผมคิดว่าแฟนบอลน่าจะมากันเต็มสนาม และทำให้เกมนี้เป็นเกมที่สนุก ทั้งสองทีมต่างมีคุณภาพ พร้อมแสดงให้แฟนบอลเห็น สำหรับเราเป้าหมายยังเหมือนเดิมคือเอาชนะให้ได้ การเล่นต่อหน้าแฟนบอล เราจะใช้มันเป็นแรงจูงใจมากกว่า ในทีมเรามีนักเตะที่มีประสบการณ์มากมาย อย่าง สารัช, ธีรศิลป์ ,ธีราทร ที่มีคุณภาพ ผ่านเกมแบบนี้มาแล้ว จะช่วยทีมในสถานการณ์นี้ ผมคิดว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา และเกมนี้น่าจะออกมาสนุก"

"นักเตะอินโดนีเซีย ชุดนี้เป็นชุดเดียวกับที่เราเจอในรอบชิงชนะเลิศ หลายคนได้ไปเล่นในซีเกมส์ หลายคนยังอายุน้อยแแต่เล่นด้วยกันมานาน ผมรู้จักทีมชุดนี้ดี คนที่เคยไปเล่นเบลเยียม หรือ สเปน ก็สามารถช่วยทีมได้ เราเองก็ทำไปแล้ว 9 ประตู และยังไม่เสียประตู ก็ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจ แต่ต้องการสานต่อผลงานที่ดีต่อไป เหมือนกับสองเกมแรก นี่คือเรื่องที่ชัดเจน" กุนซือวัย 46 ปี กล่าว

สำหรับเกมระหว่าง ทีมชาติไทย แชมป์เก่าและเจ้าของแชมป์อาเซียน 6 สมัย มีคิวบุกเยือน อินโดนีเซีย รองแชมป์อาเซียน 6 สมัย ที่ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์สักครั้งเดียว จะแข่งขันในวันพฤหัสบดีที่ 29 ธ.ค.65 เวลา 16.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง MCOT HD หมายเลข 30 และช่อง T-Sport 7