แบงค็อก - บุรีรัมย์ คู่ชิง ช้าง เอฟเอ คัพ ในฝัน

ช้าง เอฟเอ คัพ 2022-23 ได้คู่ชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย และก็ไม่ผิดคาด เมื่อเป็น แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ได้เผชิญหน้ากับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-รังสิต

   มันคือการเจอกันเป็นหนแรกในรอบชิงดำของรายการนี้ เพราะก่อนหน้าทั้งคู่ไม่เคยโคจรมาพบกันเลย

   แบงค็อก ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยฟอร์มที่ดุดันกับการไล่ถล่ม โปลิศ เทโร เอฟซี ไปเละเทะ 4-0 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นหลายฝ่ายคิดว่าทีมมังกรโล่เงินอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้

   ทว่ากลายเป็นรูปเกมทั้ง 90 นาที ที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี กลายเป็นทัพบียูที่ไล่โขยกคู่แข่งแทบจะฝั่งเดียว ก่อนจะเช็คบิลล์ไปได้ง่ายดาย

   ข้อแตกต่างของ แบงค็อก กับ โปลิศ เทโร คือโควตาต่างชาติที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ทันที ซึ่งฝั่งแข้งเทพนั้นมีนักเตะประเภท 'แมตช์ วินเนอร์' หลายคน และก็ดันมาท็อปฟอร์มพร้อมๆ กัน จนเป็นฝ่ายยำใหญ่ใส่ทีมมังกรโล่เงินไป

   ส่วนอีกฟากฝั่ง บุรีรัมย์ ต้องเผชิญหน้ากับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานกำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนะในลีกมา 5 นัดติดต่อกัน แถมก่อนเกมที่ ดราก้อน โซล่าร์ พาร์ค จังหวัดราชบุรี พวกเขายังรั้งอันดับ 3 ของตารางอย่างเหนียวแน่น

   นี่คือเกมที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าผลการแข่งขันจะออกมาในรูปแบบใด

   มันคือการพบกันของ 2 สโมสรที่อุดมไปด้วยนักเตะทีมชาติ - บุรีรัมย์ นำโดย ธีราทร บุญมาทัน,  ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา แต่ละชื่อคือแกนหลักของทัพช้างศึกทั้งนั้น

   ขณะที่สิงห์เจ้าท่าก็หาใช่น้อยหน้า พวกเขามี ธนบูรณ์ เกษารัตน์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, เอเลียส ดอเลาะ, บดินทร์ ผาลา, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, เควิน ดีรมรัมย์ และรวมไปถึง สมพร ยศ

   แม้ว่าฝั่ง การท่าเรือ จะไม่ใช่แกนหลักของทีมชาติไทย แต่ดีกรีของแต่ละคนก็พอฟัด-พอเหวี่ยงกัน

   เท่านั้นไม่พอ โควตาต่างชาติของทั้งคู่ก็จัดว่าโหดไม่แพ้กัน ฮาริส วูชคิช, โกรัน เคาซิช, เรบิน ซูลาก้า, ดิออน คูลส์, ลอนซาน่า ดูมบูญ่า ปะทะ แฮมิลตอน โซอาเรส, เนเกบา, แอร์ตอน และ ฟรานส์ ปูโตรส

   พอหลายๆ อย่างสูสี รูปเกมของคู่ บุรีรัมย์ - การท่าเรือ จึงออกมาค่อนข้างอึดอัด 

   ยอดทีมจากย่านคลองเตย รู้ดีว่าพวกเขาเป็นรองอยู่นิดๆ จึงใช้แท็กติกเข้าสู้ โดยหวังใช้จังหวะสวนกลับเล่นงานปราสาทสายฟ้า แต่เพราะความยอดเยี่ยมของลูกทีม มาซาทาดะ อิชิอิ นั่นแหละที่ทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายคว้าชัยในบั้นปลาย

   นักเตะที่ต้องชื่นชมเลยคือ ศิวรักษ์ ในวัยใกล้จะ 39 ปี (20 เมษายนนี้) แสดงให้เห็นว่าเขายังสามารถลงเฝ้าเสาในแมตช์ระดับสูงได้สบายๆ การอ่านเกมเฉียบขาด, ยืนตำแหน่งเยี่ยม และที่สำคัญคือ 'ความชัวร์' ไม่ผิดพลาดในลูกง่ายๆ

   ช็อตเซฟลูกยิงของ  ธีรศักดิ์ นั้นช่วยทำให้ บุรีรัมย์ ไม่เสียประตู ซึ่งถ้าบอลตุงตาข่าย สกอร์จะกลับมาเท่ากันที่ 1-1 และมันย่อมส่งผลต่อรูปเกมที่จะเปลี่ยนไป

   ดิออน คูลส์ คืออีกคนที่ต้องชื่นชมอย่างแรง เพราะเขาสามารถดักเก็บจังหวะเกมบุกของ การท่าเรือ ได้แทบทุกครั้ง นี่คือ 'แคนดิเดต' ของดีลที่คุ้มค่าของซีซั่นอย่างแท้จริง เพราะเพิ่งมาเล่นในเลกที่สอง แต่ปรับตัวได้ไวมาก แถมผลงานก็โดดเด่นเหลือเกิน

   คนต่อมาคือ ศุภชัย ที่อาจจะต้องถูกขยับไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย แต่คุณประโยชน์ของศูนย์หน้าชาวปัตตานี นั้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพักบอลหรือสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และประตูแรกที่ปราสาทสายฟ้าได้มา นั่นก็จากแอสซิสต์ของแนวรุกวัย 24 ปี คนนี้นี่เอง

   ปิดท้ายที่ ศุภณัฎฐ์ ผู้มีส่วนกับทั้ง 2 ประตู ในเกมชนะ การท่าเรือ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ดาวยิงชาวศรีสะเกษ พิสูจน์ให้เห็นว่า ไทยลีก เล็กเกินไปสำหรับเขาเสียแล้ว

   แม้จะมีโอกาสมากมาย แต่ได้มาประตูเดียว ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าจังหวะต่างๆ ของเด็กหนุ่มคนนี้นั้นฉลาดเกินวัย

   การผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ 2022-23 ระหว่าง แบงค็อก กับ บุรีรัมย์ จึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และคงจะคาดเดาได้ยากยิ่งว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ได้รับการชูมือในบั้นปลาย

   ปราสาทสายฟ้าอยู่ในฐานะแชมป์เก่าที่ครองถ้วยใบนี้มาแล้ว 5 สมัย ขณะที่บียูมาในฐานะผู้ท้าชิง ซึ่งเคยผ่านถึงรอบนี้แล้ว 1 หน แต่ก็อกหักไปในปี 2017

   การห้ำหั่นกันของ 2 สโมสรที่ดีที่สุดในสยามประเทศ ณ ชั่วโมงนี้ โดยที่มีโทรฟี่เป็นเดิมพัน จะจบลงเช่นไร วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ คำตอบรอคุณอยู่ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-รังสิต

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport