จตุรมิตรสามัคคีมีความสวยงามเชื่อมเอาไว้ระหว่างเรา

จตุรมิตรสามัคคีมีความสวยงามเชื่อมเอาไว้ระหว่างเรา
หรืออันที่จริงมันก็เป็นอย่างนี้มาตลอด เพียงแต่ก่อนหน้านี้เราไม่มีโอกาสได้คุยกัน..

จตุรมิตรสามัคคีมีความสวยงามเชื่อมเอาไว้ระหว่างเรา

ผมยิ่งสัมผัสกับมันได้ชัดเจนในคราวที่แล้ว เสียงเชียร์จากกองเชียร์อัสสัมชัญและสวนกุหลาบมากมายส่งมาที่เราเทพศิรินทร์ก่อนนัดชิงกับกรุงเทพคริสเตียน

"เป็นแชมป์ให้ได้นะ ปีนี้ขอเชียร์เทพ"

"รอมานานแล้ว คราวนี้หวังว่าพวกนายคงสมหวัง"

"นัดชิงขอเชียร์เทพเพื่อนรัก เล่นก็ดี กองเชียร์ก็เชียร์สนุก"

"ปีนี้เทพพร้อมจริงๆ เอาใจช่วยนะ แล้วคราวหน้าขอเป็นทีของเราบ้าง"

ได้เห็น ได้อ่าน ได้ซึมซับทุกถ้อยคำมันก็ชวนอบอุ่น รู้สึกว่าใจกระชุ่มกระชวย ซาบซึ้งจนอยากขอบคุณเสียงเหล่านั้นที่ทำให้โลกของจตุรมิตรเรากว้างขึ้น

เป็นบรรยากาศที่ดี.. ดีต่อกัน

ผมคิดว่าในอีกทางหนึ่ง เด็กสวนฯ กับเด็กอัสสัมฯ อีกส่วนก็ส่งกำลังใจให้นักเตะคริสเตียนก่อนนัดชิงครั้งนั้นด้วย ทั้งด้วยน้ำใจนักกีฬาและด้วยความชื่นชมการต่อสู้ของทีมชงโคสีม่วงที่แม้จะมีอุปสรรครบกวนก่อนทัวร์นาเมนต์ก็ยังผ่านเข้าชิงได้อีกสมัยสมฐานะขาประจำ

เป็นความรู้สึกที่ชัดเจนในแบบเพื่อนผู้หวังดีมีให้กัน ไม่ต้องพูดมาก ไม่ต้องแสดงออกเยอะ ลุยเว้ยไอ้น้อง พวกพี่ไม่มีลุ้นอะไรแล้วแต่ขอส่งใจให้ ถ้าเทพฯ เป็นแชมป์ก็ดีใจด้วย พวกเอ็งรอมันมานาน แต่หากเป็นคริสเตียนได้แชมป์ก็ยินดีด้วยเหมือนกัน ได้เจอกับเรื่องดีๆ สักทีในปีอันวุ่นวาย

เราได้รับทราบความหวังดีจากเพื่อน พี่ น้อง ต่างสถาบันเหล่านี้ชัดเจนมากจากโลกโซเชียล จากคอมเมนต์ในโพสต์ จากความคิดเห็นในเพจ จากการแสดงความรู้สึกผ่านช่องทางต่างๆ

มันทำให้เรารู้ว่าจตุรมิตรเชื่อมพวกเราทุกคนไว้เป็นครอบครัวใหญ่จริงๆ การได้เห็นความหวังดีต่อกัน อวยพรกันและกัน แสดงน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ ให้อภัยกันมันก็ทำให้รู้สึกว่ารายการนี้ทรงคุณค่าสมกับที่มันควรจะเป็น

ผมคิดว่าการเข้ามาของโซเชียลทำให้เราทุกคนเปิดกว้างขึ้น ได้รับรู้มุมมองและแบ่งปันความคิดเห็นกับเพื่อนต่างสถาบันมากขึ้น มันมีด้านดีๆ อยู่มากท่ามกลางการแข่งขันอันเป็นศักดิ์ศรียอมกันไม่ได้

สมัยก่อน อย่างน้อยก็ในยุคผมที่ยังไม่มีโลกโซเชียล เราแทบไม่รู้ความคิดของเด็กสวนฯ เลย รู้แต่ว่าสำหรับฟุตบอลเทพศิรินทร์แล้วแพ้ใครแพ้ได้แต่ห้ามแพ้สวนกุหลาบ แต่ละเกมที่หวดกันจึงไฟแลบ ดุทั้งในสนาม เดือดทั้งนอกสนาม

ความรู้สึกแบบนี้น่าจะเป็นเหมือนกันสำหรับเด็กสวนฯ เด็กอัสสัมฯ และเด็กคริสเตียนนะครับ มันจะมีเกมที่ยอมกันไม่ได้อยู่ ก็โอลด์เฟิร์มดาร์บี้ทั้งวัดฝรั่งและวัดไทยนั่นแหละ

ในวันนี้ความรู้สึกกับสวนกุหลาบก็ยังเป็นแบบเดิมนั่นแหละ นั่นคือเรื่องฟุตบอลแพ้ใครแพ้ได้แต่ห้ามแพ้สวนกุหลาบ เพียงแต่ความชิงชังเดิมๆ เหมือนสมัยวัยรุ่นมอต้นมอปลายหายไปแล้ว กลายเป็นความเข้าใจมากกว่าว่าสุดท้ายแล้วไอ้เด็กสวนฯ กับไอ้เด็กเทพฯ มันก็เพื่อนสนิทกัน เชื่อมต่อกันง่ายคล้ายมีสายใยที่มองไม่เห็นผูกโยงกันอยู่ แค่มันอยู่กันคนละโรงเรียน รอเวลาที่จะได้เจอกัน ได้มารู้จักกันเท่านั้นเอง

อาจไม่ใช่ทุกคู่ แต่หลายคู่หลายคนและหลายกลุ่มเป็นอย่างนั้น เพื่อนสนิทในรั้วมหาวิทยาลัยของเด็กเทพฯ ก็คือเด็กสวนฯ เพื่อนสนิทในที่ทำงานของเด็กอัสสัมฯ คือเด็กคริสเตียน

ผมเข้าใจมันตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้รู้จักเด็กสวนฯ ในรั้วมหาวิทยาลัย เรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันมาจนถึงวันนี้ เชื่อว่าเด็กเทพฯ เด็กสวนฯ เด็กอัสสัมฯ เด็กคริสเตียน อีกมากมายเป็นอย่างนั้น

ข่าวคราวการทะเลาะวิวาท ไล่ตีกัน หรือภาพด้านลบที่เคยมีต่อจตุรมิตรในอดีตที่ผ่านมาเลือนหายไปสิ้น เด็กจตุฯ ยุคปัจจุบันเขาไม่ตีกันแล้ว ไม่ทะเลาะวิ่งไล่ถีบกันที่สยาม มาบุญครอง หรือโรงเรียนกวดวิชากันแล้ว แต่ตบบ่าตบไหล่กัน ให้กำลังใจกัน สนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน

ยังเชียร์กันหนักๆ เหมือนเดิมในยามแข่ง แต่หลังจบเกมทุกคนล้วนยืนขึ้นปรบมือให้กำลังใจน้องๆ นักเตะต่างโรงเรียนที่เดินมายกมือไหว้ขอโทษและขอบคุณเรา

นอกสนาม เพื่อนเก่าๆ ได้เจอกัน กลุ่มเด็กสวนฯ ถ่ายรูปเซลฟี่กับเด็กอัสสัมฯ แก๊งเพื่อนเทพฯ นั่งกินข้าวกับเพื่อนคริสเตียน อัพรูปลงโซเชียล ฝากถ้อยคำดีๆ ให้กันไว้ แล้วเจอกันที่ทำงาน ที่มหาลัย ที่สนามฟุตบอล..

ผมคิดว่าจตุรมิตรเราพัฒนามาไกลในแง่การมองอีกฝ่ายเป็นมิตรไม่ใช่ศัตรู แต่ก็นั่นแหละครับมันอาจจะเป็นของมันอย่างนี้มาตลอดก็ได้เพียงแต่ในวันวานเราไม่เคยรู้ หรือไม่ได้มีช่องทางมากมายให้ได้รู้

ดูจตุรมิตรในวันนี้ได้ความอบอุ่นจากการสนับสนุนกันและกันของเพื่อนต่างสถาบันเข้ามาเติมเต็มอารมณ์ เป็นภาพดีๆ ที่จรรโลงใจ

การเชียร์ของกองเชียร์ที่เป็นอีกสีสันหนึ่งซึ่งไม่เคยขาดหายไปจากจตุรมิตรก็เช่นกันครับ ผมคิดว่ามันพัฒนาขึ้น

อันนี้ว่ากันในมุมมองของเด็กเทพฯ ที่ผ่านการเชียร์ทีมลูกแม่รำเพยมาตั้งแต่ปี 2530 ที่เข้าไปเป็นเด็ก ม.1 วันนี้ผมสังเกตเห็นการเชียร์ของเทพศิรินทร์แทบไม่ได้ยินการให้กล้วยกันแล้ว เพราะมันจะมีเสียงกลองกระหึ่มหูจากกลุ่มรำเพยพาวเวอร์ตีกลบขึ้นมาทุกครั้งที่มีใครเริ่มตะโกนให้กล้วยฝ่ายตรงข้าม

นั่นคือสิ่งที่ผมชื่นชม การปรากฏตัวของรำเพยพาวเวอร์ยกระดับการเชียร์ของเราขึ้นไปอีกขั้น ทุกคนได้เห็นและรับรู้มันด้วยตัวเองในจตุรมิตรครั้งที่แล้ว เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในรายการนี้

กับกลุ่มผู้นำเชียร์ที่มีอิทธิพลต่อทิศทางการเชียร์นั้น ทัศนคติและแนวทางของผู้นำกลุ่มสำคัญมาก ถ้านำไปในทางที่ดีมันย่อมดี หากนำไปในทางที่แย่มันก็แย่ ผมคิดว่าเทพศิรินทร์โชคดีที่มีผู้นำเชียร์ที่เป็นสุภาพบุรุษ ตั้งหน้าตั้งตาเชียร์เพราะเรามีหน้าที่เชียร์ ไม่ใช่เข้าสนามมาเพื่อตะโกนด่าคู่แข่ง ด่ากรรมการ ด่ากองเชียร์ฝ่ายตรงข้าม ด่าใครทุกคนที่ไม่ใช่พวกเดียวกัน หรือด่ากราดทุกสิ่งอย่างที่ไม่เป็นดั่งใจ

อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้ชื่นชมน้องๆ รำเพยพาวเวอร์ที่นำเชียร์ด้วยความสร้างสรรค์ มีความเป็นสุภาพบุรุษเทพศิรินทร์ทุกกระเบียด

ทุกครั้งที่เริ่มมีใครตะโกนให้กล้วย เสียงกลองจากกลุ่มรำเพยพาวเวอร์จะดังตู้มๆๆ ขึ้นมากลบทันทีพร้อมเสียงตะโกนร้องเพลงเชียร์ เราใช้เพลงเชียร์ที่มีมากมายของเราเอาชนะความไม่พอใจสิ ใช้บูมเทพของเราสิ ใช้เทพเผด็จศึกของเราสิ ใช้เราเทพศิรินทร์ ดอกรำเพย นักกีฬาเทพ เทพไม่สิ้น ของเราสิ ยังมีอะไรดีๆ อีกมากมายที่จะนำมากลบอารมณ์ขุ่นมัว ความหยาบคายได้แค่สะใจ แต่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

ผมรู้สึกและอยากเห็นอะไรแบบนี้มานาน แต่แน่นอนครับเด็กผู้ชายเลือดร้อนคึกคะนองการให้กล้วยคู่แข่ง ให้กล้วยกรรมการมันสะใจดี สมกับอารมณ์เดือดพล่านในตอนนั้น และมันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราวในโอกาสพิเศษนี้ ไม่ใช่ถาวร ตัวจริงเราไม่ได้ให้กล้วยใครบ่อยๆ หรอก เราเรียบร้อยจะตายไป (ฮา)

ในวันนี้ การเชียร์ของเทพศิรินทร์เป็นแบบนั้นแล้ว น่าภูมิใจจนอยากจะชวนให้ทุกคนมาลองนั่งเชียร์ไปด้วยกัน ผมคิดว่าบรรยากาศปลุกเร้าในการเชียร์ บวกกับฟุตบอลในสนามที่เล่นสนุกได้ลุ้นความสำเร็จ และความเป็นจตุรมิตรในตัวของมันเองคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราได้เห็นภาพศรัทธาแห่งกองเชียร์สีเขียวเหลืองที่มากันจนล้นอัฒจันทร์หลักตีโค้งยาวเต็มเหยียดไปจนสุดอัฒจันทร์ฝั่งหลังประตูในคราวที่แล้ว

จตุรมิตรครั้งนี้ได้ยินว่าสวนกุหลาบก็จะมีกลุ่มนำเชียร์ในชื่อสวนฯ เผด็จศึก น่าตื่นเต้นและน่าติดตามไปด้วยว่าการเชียร์ของชาวชมพูฟ้าจะยิ่งอึกทึกคึกคักขึ้นไปแค่ไหน อยากเห็นฝั่งอัสสัมฯ และคริสเตียนที่ปกติก็เชียร์กันสะเด็ดสะเด่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเหมือนกัน มันคงจะยิ่งทำให้บรรยากาศกองเชียร์สนุกเร้าใจเหมือนฟุตบอลอาชีพ

จตุรมิตรสามัคคีครั้งที่ 30 จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ ผมเองเสร็จสิ้นจากภารกิจการงานแล้วก็จะรีบเดินทางไปสนามศุภชลาศัยเหมือนเช่นเคย

สี่ปีแล้ว คิดถึงจะแย่

จตุรมิตรมาถึงเมื่อไหร่หัวใจสูบฉีดทุกครั้ง ในวันนี้ผมดีใจที่เห็นมันเติบโตขึ้นไปในทางที่ดี มีเรื่องน่าประทับใจมากมายตลอดรายทางของมันตั้งแต่วันแรกไปจนถึงวันสุดท้าย

ขอให้ทุกคนได้พบกับจตุรมิตรแห่งความทรงจำที่ดี แล้วเจอกันที่สนามครับ

ตังกุย


ที่มาของภาพ : จตุรมิตรสามัคคี
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport