บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี เปิดศึกการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ระดับเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี และ 12 ปี รายการ "Sansiri Youth Festival 2023" (แสนสิริ ยูธ เฟสติวัล 2023) เวทีบ่มเพาะเยาวชนที่ ไม่ใช่เด็กช้างเผือกได้มีโอกาสแข่งขันในสนามจริง พร้อมมุ่งยกระดับเวทีผลิตนักเตะเยาวชน ระดับชาติ เพื่อพัฒนาทักษะฟุตบอลและความพร้อมในการแข่งขันระดับสโมสร ระดับอาชีพ และระดับทีมชาติ
นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) "รายการนี้เรา สานต่อแนวคิดของคุณโต้ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง และคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่อยากเปิดโอกาสให้เด็กที่เรียน ฟุตบอลฟรีกับแสนสิริ อะคาเดมี่ รวมถึงเด็กที่ไม่ได้อยู่ในโครงการช้างเผือกของโรงเรียน ได้มีโอกาสแสดง ฝีเท้าในทัวนาเมนต์ใหญ่ๆ โดยเน้นไปที่เด็กที่ไม่ได้เป็นนักฟุตบอลช้างเผือกโรงเรียนเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อ กำหนดฝีมือการแข่งขันที่ไม่ห่างกันมาก "Sansiri Youth Festival 2023" เป็นรายการที่สนับสนุนให้ เยาวชนทั่วประเทศได้มีโอกาสพัฒนาทักษะและเสริมสร้างความมีวินัย รวมถึงใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ผ่านกีฬาฟุตบอลที่เด็กๆ ชื่นชอบซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมของแสนสิริ เราหวังว่า เวทีนี้จะเป็นอีก หนึ่งเวทีที่สามารถสานฝันให้กับเด็กๆสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพได้" นายสมัชชา กล่าว
ด้านนายณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการช้างเผือกโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี กล่าวว่า นับเป็น ปีที่ 8 ที่อัสสัมชัญธนบุรีร่วมมือกับแสนสิริ จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการ "Sansiri Youth Festival 2023 ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของเด็กๆ ที่ได้มาร่วมแข่งขันและหาประสบการณ์ ทีมที่เข้าร่วมแข่งขันปีนี้ค่อนข้าง หลากหลายมีทั้งจากเกาหลี ญี่ปุ่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สุพรรณบุรี มาร่วมแข่งขันด้วย และการที่ เด็กได้มาแข่งที่สนามโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี สถานที่ที่ผลิตทีมชาติมาแล้วทุกรุ่น หวังว่าจะเป็นแรงบันดาล ใจให้น้องๆ อยากเข้ามาอยู่ในโครงการช้างเผือกของเรามากขึ้น หากคนไหนฝีมือดีมีแววก็อาจจะได้ร่วมงาน กันในอนาคตก็ได้
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน "Sansiri Youth Festival 2023" เปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วประเทศที่มีความ สนใจกีฬาฟุตบอลและมุ่งมั่นสานฝันเส้นทางสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ เข้าร่วมแข่งขัน แบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปีหากเป็นน้องผู้หญิงจะบวกอายุให้หนึ่งปีในแต่ละรุ่น ทุกคนที่มาเข้าร่วมแข่งขันจะต้องไม่เป็นผู้เล่นที่เคยได้รับทุนการศึกษาจากการเล่นฟุตบอล อยู่ในโครงการ ช้างเผือก หรือผู้เล่นที่เคยติดทีมชาติ
การแข่งขันทั้งหมดจะมีรุ่นละ 24 ทีม ประกอบด้วย ทีมจากค่ายอัสสัมชัญ ได้แก่ ทีมอัสสัมชัญ ธนบุรี, ทีมอัสสัมชัญ สมุทรปราการ, ทีมจากแสนสิริ อะคาเดมี่ (Sansiri Academy) จำนวน 4 ทีม ได้แก่ ทีมแสนสิริ อะคาเดมี่ รามอินทรา, ทีมแสนสิริ อะคาเดมี่ ประชาชื่น, ทีมแสนสิริ อะคาเดมี่ อ่อนนุช และ ทีม แสนสิริอะคาเดมี่ นนทบุรี, ทีมจากประเทศเกาหลี 2 ทีม ทีมจากเชียงใหม่ 2 ทีม ได้แก่ Chiangmai FA และ SIB-SAN F.C. รวมถึงอะคาเดมีต่างๆ อีกมากมายจากทั่วประเทศ ได้แก่ Six6 Academy ของสารัช อยู่เย็น , Yuki Football Academy อะคาเดมี่เด็กญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทย, Risingstar Academy จากสุพรรณบุรี, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, เยาวชน TBFA, YS Academy Football Club, Classic Soccer Academy, สโมสรฟุตบอลบางกะปิ, BDG Academy, KT Bull United, TacTeam Academy, โรงเรียนรุ่งอรุณ, Prime Nuanchan, First Touch Academy, The Six, Assumption United Academy และสองตัวแทน จากภาคใต้ ได้แก่ Republic Phuket และ Tapat Academy จากสุราษฎร์ธานี
โดยการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์นี้มีรูปแบบการแข่งขันที่ให้ทุกทีมได้มีจำนวนแมตช์แข่งขันเท่ากันทุกทีม โดยจะเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่มเพื่อนำคะแนนไปจัด Division และในรอบสองเป็นระบบตัดเชือกนำทีมชนะไป เล่นถ้วยบน (Cup) ส่วนทีมแพ้จะไปเล่นถ้วยล่าง (Plate) เพื่อหาผู้ชนะต่อไป โดยจะทำการแข่งขันรุ่นละ 2 วัน ซึ่งจะแบ่งการแข่งขันเป็นสองรุ่นอายุได้แก่ รุ่นอายุ 10 ปี (พ.ศ. 2556) และรุ่นอายุ 12 ปี (พ.ศ. 2554) เน้นให้เด็กทุกคนที่มีชื่อเข้าร่วมแข่งขันได้ลงเล่นครบทุกคน การแข่งขันรุ่น 10 ปี จะจัดขึ้นในวันที่ 28-29 ตุลาคม 2566 ส่วนรุ่น 12 ปี จะจัดขึ้นวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ที่สนามหญ้าเทียมโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี