ส.ฟุตบอลทีมชาติไทยจัดศึกชิงถ้วยในหลวง 8ทีมร่วมฟาดแข้ง

ส.ฟุตบอลทีมชาติไทยจัดศึกชิงถ้วยในหลวง 8ทีมร่วมฟาดแข้ง
ดร.พิทักษ์ ศิลป์ประสิทธิ์ นายกสมาคมฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมด้วย กนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กร และ กิจการสังคม บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน), นายมนตรี ไชยพันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต และ นายนลธวัช รุ่งเจริญ ผู้แทนบริษัท ไอมาเน่ ไทยแลนด์ จำกัด ร่วมแถลงข่าว จัดการแข่งขันฟุตบอลชาย รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไป ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายการ "เอทีเอฟ ซีเนียร์ไทยแลนด์ คัพ 2023" ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 5 ประจำปี 2566 ชิงเงินรางวัลรวม 200,000 บาท ที่ห้องชมัยมรุเชษฐ์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้มีการคัดเลือกตัวแทนทีมตัวแทนจาก 8 กลุ่มทุกภาคทั่วประเทศผ่านเข้าร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย 8 ทีมสุดท้ายเข้าชิงชัย โดยตัวแทนทีมที่ผ่านเข้ารอบนี้ทั้ง 8 ทีม ประกอบด้วย หนองคาย, ร้อยเอ็ด, เชียงราย, สุพรรณบุรี, ชลบุรี, ภูเก็ต, ปทุมธานี และ มหาสารคาม 

ทั้งนี้การแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะใช้ระบบแข่งขันแบ่งเป็น 2 สาย แข่งแบบพบกันหมดในสาย โดยจะแข่งขันวันที่ 26-28 เม.ย.นี้ ที่สนามฟุตบอลหนองจอก เพื่อคัดเลือกทีมอันดับ 1-2 ของสายเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย หรือ รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งขันวันที่ 29 เม.ย.นี้ที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต และ 2 ทีมที่ดีที่สุดจะเข้าไปชิงชนะเลิศ วันที่ 30 เม.ย.นี้ ที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิตเช่นกัน โดยผลการจับสลากแบ่งสายรอบ 8 ทีมสุดท้าย มีดังนี้ สาย เอ ประกอบด้วย สุพรรณบุรี, เชียงราย, ปทุมธานี และ ชลบุรี ขณะที่ สาย บี ประกอบด้วย ภูเก็ต, มหาสารคาม, หนองคาย และ ร้อยเอ็ด

ดร.พิทักษ์ ศิลป์ประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย เผยว่า การแข่งขัน 4 ครั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทีมนักกีฬาจังหวัดต่างไปรวมถึงบรรดานักฟุตบอลอดีตทีมชาติที่ยังไม่ทิ้งกีฬาฟุตบอล ยังคงฟิตร่างกายและกลับมาลงสนามแข่งขันได้อีกซึ่งถือเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันที่ต้องการให้นักฟุตบอลรุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไปได้ออกกำลังกาย ดูแลร่างกาย และ ลงแข่งขันมาใช้เทคนิคฟุตบอลโชว์ศักยภาพสร้างเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย และ พบปะเพื่อนพ้องในวงการ ทำให้ปีนี้มีทีมเข้าแข่งขันมากขึ้น


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport