"แบงค็อกฟุตซอลไรซิ่งสตาร์" บันไดพาเจ้าหนูสู่ดวงดาว

"แบงค็อกฟุตซอลไรซิ่งสตาร์" บันไดพาเจ้าหนูสู่ดวงดาว
การเปิดโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชนถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับสังคมไทยในทุกวันนี้ เนื่องด้วยชนชั้นในสังคมไม่ว่าจะประเทศใดๆ ต่างมีระดับชั้นและความเท่าเทียมที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นการได้รับโอกาสของเด็กและเยาวชนแต่ละครอบครัวจึงย่อมไม่เท่ากัน ซึ่งใครจะรู้ได้ว่าในบรรดาเด็กที่โอกาสน้อยกว่าเด็กทั่วไป พวกเขาอาจจะสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติในอนาคตได้เช่นกันหรือมากกว่าก็เป็นได้

"ครูพรีมมี่" นรเสฎฐ์ เธียรประสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญประจำตัววุฒิสภา ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ใหญ่ในบ้านเราที่เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้แล้วพร้อมที่จะเดินหน้าสร้างฝันเด็กๆ ให้เป็นจริง โดยครูพรีมมี่ได้รวบรวมกำลังและผู้สนับสนุนเท่าที่จะทำได้ผลักดันจนเกิดโครงการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตซอล "แบงค็อก ฟุตซอล ไรซิ่ง สตาร์ คัพ" ขึ้นมา ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22-23 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม เขตดุสิต กรุงเทพฯ การแข่งขันก็ได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ท่ามกลางกระแสตอบรับจากบรรดาผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่ของเด็กๆอย่างล้นหลาม

สำหรับการแข่งขันรายการ "แบงค็อก ฟุตซอล ไรซิ่ง สตาร์ คัพ" ตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้น้องๆ ยุวชน-เยาวชน รุ่นอายุตั้งแต่ 12, 13 และ 15 ปี ได้เข้ามาร่วมชิงชัยรวมกว่า 16 ทีม จากหลากหลายพื้นที่เขตทั่วกรุงเทพมหานคร แข่งขันเพื่อเฟ้นหาแชมป์ที่จะคว้าถ้วยรางวัลสมาชิกวุฒิสภา “กมล รอดคล้าย” และเงินรางวัลทุนการศึกษา นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายเปิดเวทีให้น้องๆ แสดงความสามารถเพื่อโอกาสที่จะมีแมวมองมาดึงไปคัดตัวเข้าร่วมโรงเรียนมัธยมดังๆ ที่โดดเด่นเรื่องการแข่งขันฟุตซอลสร้างอนาคตที่ดีให้กับตัวเด็กเองต่อไป

หัวเรือใหญ่ที่เป็นโต้โผลุกขึ้นมารังสรรค์สร้างโอกาสให้เด็กๆ ในครั้งนี้อย่าง "ครูพรีมมี่" นรเสฎฐ์ เธียรประสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญประจำตัววุฒิสภา เปิดเผยว่า จุดแรกเริ่มของการเกิดโครงการนี้คือตนเองอยู่ในเขตพญาไท แล้วได้ไปเห็นทีมฟุตบอลเล็กๆ ทีมหนึ่งที่ชื่อว่า "เด็กเลี้ยงแกะ" เตะบอลกันอยู่ในชุมชนแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วได้มีโอกาสพูดคุยกับทางผู้จัดการทีมถึงความเป็นไปได้ที่อยากจะให้เด็กๆ ในชุมชนได้มีเวทีแข่งขันฟุตบอล ซึ่งตอนแรกพูดคุยแค่อยากให้มีมาร่วมแข่งขันไม่กี่ทีม แต่พอเริ่มทำจริงจังกลับมีทีมเข้ามาร่วมสมัครมากกว่าที่คิด และก็ได้เกิดรายการขึ้นสำเร็จ โดยในการจัดครั้งแรกได้มีขึ้นที่ลานอเนกประสงค์แถวเขตดินแดง ส่วนครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่บริเวณลานกีฬาใต้ทางด่วนแถวเขตพญาไทยใกล้อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และครั้ง 3 นี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ให้มาจัดที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม เขตดุสิต

"ครูพรีมมี่" กล่าวต่อว่าวัตถุประสงค์หลักของโครงการครั้งนี้ก็เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนในกรุงเทพมหานครได้มีพื้นที่แสดงศักยภาพในกีฬาฟุตซอลและฟุตบอลที่เป็นกีฬามหานิยมของโลก โดยชุมชนในแต่ละสังคมทุกวันนี้เขาจะมีพื้นที่เตะบอลเล่นกันหลังเลิกเรียน อาทิ ใต้ทางด่วนบ้าง ใต้สะพานลอยบ้าง แต่วันนี้เราพยายามสร้างเป็นรายการแข่งขันให้พวกเขาอย่างจริงจังแทนที่จะไปเล่นในพื้นที่ตามท้องถนนทั่วไป

นอกจากนี้ "ครูพรีมมี่" ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าการนำกีฬาเข้าไปหาเด็กๆ ในชุมชนยังเป็นการลดการเกิดโอกาสที่เด็กจะเอาเวลาไปใช้กับการพบปะกับอบายมุขต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงในระดับเยาวชน และที่สำคัญที่สุดเลยคือความหวังที่เด็กๆ เหล่านี้ที่อยู่ในวัยประถมปลาย-มัธยมต้นจะนำทักษะที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันไปเป็นใบเบิกทางสร้างอนาคตให้กับตัวเองต่อไป

"ในฐานะผู้จัดงานต้องขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ปกครองของเด็กๆ ทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยสนับสนุนพาลูกๆ หลานๆ มาร่วมการแข่งขันของเรา ผมเชื่อเสมอว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจให้กับเด็กๆ และยังเป็นใบเบิกทางให้แก่เด็กๆ ในอนาคตด้วย ก็อยากเชิญชวนให้ท่านผู้ปกครองบอกต่อๆ กัน หรือติดตามเพจการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อโอกาสที่จะมีน้องๆ มาร่วมกันสร้างอนาคตให้กับตัวเองเพิ่มมากขึ้น เพราะผมตั้งใจว่าจะจัดการแข่งขันต่อไปในทุกๆ ปี ปีละ 2 ครั้ง ขณะที่ในส่วนของภาครัฐและเอกชนนั้น ผมก็ต้องขอขอบพระคุณในหลายๆ ส่วนที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันของเรามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้านคำแนะนำหรือการช่วยเป็นสปอนเซอร์ด้านต่างๆ ในอนาคตก็อยากให้มีการสนับสนุนในเรื่องของพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศ สร้างความท้าทายให้กับตัวเองในการไปแข่งขันสนามใหม่ๆ ในที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้นครับผม" ครูพรีมมี่ กล่าว

ด้าน ดร.เทพฤทธิ์ ยอดใส ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตมัธยม กล่าวถึงจุดเริ่มที่ได้มามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดแข่งขัน "แบงค็อก ฟุตซอล ไรซิ่ง สตาร์ คัพ" ว่า เนื่องด้วยตนได้มีส่วนร่วมกับการแข่งขันครั้งที่ 2 ที่จัดบริเวณใต้ทางด่วนแถวอนุสาวรีย์ แล้วจึงมีความคิดว่าหากจะจัดครั้งที่ 3 ก็อยากให้จัดแข่งขันในที่ที่ดีมากขึ้น ซึ่งทางโรงเรียนนั้นมีสนามที่รองรับการแข่งขันได้อยู่แล้ว โดยตนมองว่ารายการนี้เป็นรายการที่ดี ดูแล้วหากจัดเรื่อยๆ ต่อไปก็มีแนวโน้มที่จะมีผู้สนับสนุนเข้ามาช่วยผลักดันเพิ่มมากขึ้น ที่นี้เมื่อคนพร้อมจะสนับสนุนก็อยู่ที่ความสามารถของน้องๆ แล้วว่าจะงัดของออกมาสร้างความประทับใจให้กับผู้หลักผู้ใหญ่แค่ไหนในการมองหาดาวดวงใหม่ขึ้นมาสร้างชื่อเสียง โดยทางโรงเรียนราชวินิตมัธยมมีชื่อเสียงในด้านกีฬาอยู่แล้ว เราพร้อมจะผลักดันเต็มที่หากเด็กคนไหนแจ้งเกิด เพราะฉะนั้นก็อยากให้น้องๆ หนูๆ ตั้งใจหมั่นฝึกซ้อมแล้วพร้อมที่จะโชว์ความสามารถอันน่าประทับใจของตนเองให้ออกมาอยู่เสมอ บางคนอาจจะยังไม่เห็นความสำคัญของกีฬา แต่กีฬานี่แหละที่จะเป็นตัวสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของเยาวชนเองได้ในอนาคตต่อไป

"สุดท้ายนี้ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตมัธยมอยากเรียนบรรดาท่านผู้ปกครองว่า เด็กทุกคนมีความสามารถที่ไม่เหมือนกัน ท่านต้องรู้จักลูกของท่านให้ดีว่าเขาถนัดอะไร ถ้าเขาเก่งปิงปอง ก็สนับสนุนด้านกีฬาปิงปอง เก่งเรียนก็ผลักดันเรื่องเรียนให้เต็มที่ ถ้าเก่งฟุตซอลก็สนับสนุนด้านฟุตซอลให้เต็มที่ เพราะฉะนั้นผมเชื่อมั่นว่าถ้าท่านผู้ปกครองเข้าใจและไม่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานแทนลูก ก็สามารถทำให้ลูกของท่านก้าวหน้าได้ถูกทางแน่นอน และอยากฝากทางภาครัฐว่าอยากให้ช่วยสนับสนุนเรื่องของอาชีพให้มากที่สุด เช่น ความเป็นไปได้ที่จะบรรจุแผนการเรียนการสอนในวิชากีฬา ทุกโรงเรียน เพื่อที่เด็กจะสามารถมีเส้นทางติดทีมชาติหรือเป็นนักกีฬาอาชีพได้สะดวกมากขึ้นครับ" ดร.เทพฤทธิ์ ยอดใส ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิตมัธยม กล่าว

ขณะที่ "โค้ชเล็ก" ภาณุวัฒน์ หาญพานิชกิจ ผู้จัดการทีมเด็กเลี้ยงแกะ x ครูพรีมมี่ ที่ช่วยกันผลักดันรายการนี้ร่วมกับครูพรีมมี่ตั้งแต่ยังไม่ได้นับ 1 กล่าวว่า จุดมุ่งหวังสำคัญที่ร่วมมือกับครูพรีมมี่ให้เกิดรายการนี้ขึ้นก็คืออยากให้เด็กออกกำลังกายเป็นลำดับแรก เพราะชุมชนรอบตัวที่ตนอยู่นั้นมียาเสพติดค่อนข้างเยอะ การที่ดึงเด็กๆ ออกมาเตะฟุตบอลได้ มันเป็นส่วนช่วยสำคัญที่จะทำให้พวกเขาห่างจากยาเสพติดและการเล่นโทรศัพท์มือถือ ส่วนรองลงมาคือการสร้างโอกาสให้เด็กได้ไปเข้าเรียนสถานศึกษาต่างๆ ได้ เพื่อยกระดับจากที่พวกเขาเป็นเด็กในชุมชนพัฒนาให้เด็กได้ไปเล่นในรั้วของโรงเรียน ซึ่งในส่วนนี้ก็จะเป็นการช่วยทุ่นแรงค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองด้วย และที่ผ่านมากับการจัด 2 ครั้งก็ได้มีเด็กหลายคนประสบความสำเร็จได้ใบเบิกทางไปศึกษาต่อยังโรงเรียนต่างๆ จากทักษะฝีเท้าฟุตบอลของตัวเองแล้วด้วย

"ถ้าผู้ปกครองท่านใดสนใจที่อยากจะนำน้องๆ มาร่วมทีมฟุตบอลเด็กเลี้ยงแกะ พวกเรายินดีต้อนรับน้องๆ ตั้งแต่ 5 ขวบไปจนถึง 15 ปี โดยสามารถติดต่อผ่านเฟซบุ๊คเพจเด็กเลี้ยงแกะได้ตลอดเวลา และผมต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและไม่เคยทิ้งทีมเล็กๆ อย่างเด็กเลี้ยงแกะ และถ้ามีโอกาสก็อยากให้ช่วยสนับสนุนพวกเราเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ เพราะการจัดการแข่งขันแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง รวมทั้งสถานที่การจัดด้วยครับ จริงๆ แล้วรายการนี้ครูพรีมมี่จะไม่เก็บค่าสมัครเข้าร่วมด้วยซ้ำ แต่ว่าเราจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้จ่ายจัดงานจริงๆ ก็ขอเชิญชวนผู้สนับสนุนที่อยากจะมาช่วยสร้างอนาคตให้น้องๆ ด้วยกันครับผม" โค้ชเล็กกล่าวทิ้งท้าย

ส่วนของบรรยากาศการแข่งขันตลอด 2 วัน เมื่อวันที่ 22-23 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ และสร้างรอยยิ้มให้กับน้องๆ หนูๆ นักกีฬาและผู้ปกครองกันได้อย่างถ้วนหน้า โดย "น้องสแน็ก" ปุณณภา ดวงดี สาวน้อยที่กำลังศึกษาจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เป็นนักเตะร่วมทีมเด็กเลี้ยงแกะ x ครูพรีมมี่ ลงสนามโชว์ความสามารถไม่เกรงกลัวต่อนักกีฬาผู้ชายแม้แต่อย่างใด เผยความรู้สึกว่า ส่วนใหญ่ในสนามตนเองจะอยู่ทางปีกขวา มีหน้าที่คอยต่อบอลเดินเกมกับเพื่อน แต่ถ้ามีโอกาสหลุดกองหลังก็จะเข้าไปช่วยยิงประตูให้กับทีม ส่วนตัวแล้วเตะฟุตซอลมาได้ประมาณหนึ่งแล้วก็เกิดความชอบ จึงพยายามหมั่นฝึกซ้อมมาเรื่อยๆ และไม่กลัวที่จะต้องลงสนามแข่งกับผู้ชาย ซึ่งล่าสุดตนเองก็ได้ใช้ความสามารถทางกีฬาเข้าไปสอบคัดเลือกจนสามารถได้โควต้าเข้าโรงเรียนนนท์ประสิทธิ์วิทยา ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรีได้ แล้วตนก็ได้ใช้ความสามารถทางกีฬาฟุตซอลไปคัดในโครงการกีฬาของโรงเรียนจนได้โควต้าเรียนฟรี โดยจะจ่ายค่าเทอมปีแรกแค่ปีเดียว อีกทั้งยังได้รองเท้าฟรีและได้รับการเลือกให้ไปถ่ายเป็นพรีเซ็นเตอร์ของรองเท้าอีกด้วย ส่วนรายการไรซิ่งสตาร์รายการนี้เป็นรายการที่สนุกมากๆ เลยค่ะ เด็กๆ ได้มาสนุกร่วมกัน ได้มิตรภาพ ได้เพื่อนใหม่ หวังว่าเด็กๆ ทุกคนจะได้กลับมาเจอกันได้เตะฟุตซอลด้วยกันในรายการนี้ไปทุกๆ ปีค่ะ

ทางด้านพาร์ทของเกมการแข่งขันนั้น "แบงค็อก ฟุตซอล ไรซิ่ง สตาร์ คัพ" ครั้งที่ 3 นี้มี 16 ทีมเข้าร่วมชิงชัยในรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี ประกอบด้วย ทีมเด็กเลี้ยงแกะXครูพรีมมี่, ทีมสิงห์พระราม3, ทีมเหมาะเหมาะXยาน้ำระดมพล, ทีมอินทรีย์สายฟ้า, ทีมขุนพลปีศาจ, ทีมโคลีเซี่ยม, ทีมปทุมคงคา X IMANE (ไอมาเน่), ทีมเรารักบางพลัด, ทีมD ARENA MAHACHAI (ดี อารีน่า มหาชัย), ทีมสุคันจูเนียร์, ทีมFc.SIM (เอฟซี เอสไอเอ็ม), ทีมKs Futsal (เคเอสฟุตซอล), ทีมโรงเรียนวัดสังเวช,  ทีมสิงห์ลุมพินี, ทีมพ่อกล้าท้ายบ้านxน้ำปั่น4ยอดกุมาร และ ทีมMADGOAT JR X J&J (แมดโกท เจอาร์ เอ็กซ์ เจแอนด์เจ)

เกมรอบชิงชนะเลิศเป็นการโคจรมาปะทะกันระหว่าง ปทุมคงคา X IMANE (ไอมาเน่) ดวลกับ ทีมอินทรีย์สายฟ้า ซึ่งรูปเกมสมกับเป็นนัดชิง ยิงกันไฟแล่บ ก่อนจะเป็น ปทุมคงคา X IMANE เฉือนชัยไปสนุก 4-3 คว้าแชมป์ประจำรายการครั้งที่ 3 นี้ไปครอง ฝั่งอินทรีย์สายฟ้าได้ตำแหน่งรองแชมป์ และอันดับ 3 ร่วมได้แก่ ทีม KS. Futsal (เคเอสฟุตซอล) กับ ทีม DArena Mahachai (ดี อารีน่า มหาชัย) ด้านผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ได้แก่ อนุวัตร์ มะโนกาศ จากทีมอินทรีย์สายฟ้า

ทั้งนี้ "แบงค็อก ฟุตซอล ไรซิ่ง สตาร์ คัพ" ครั้งที่ 4 จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2568 โดยครูพรีมมี่และทีมงานยังเดินหน้าต่อเนื่องที่จะสร้างอนาคตให้เด็กๆ ซึ่งจากการจัดแข่งขัน 2 ครั้งที่ผ่านมาก็สามารถได้เด็กๆ ที่เป็นผลผลิตจากการมาพัฒนาทักษะร่วมแข่งขันรายการนี้นำความสามารถไปใช้คัดตัวเข้าโรงเรียนศึกษาต่อในชั้นมัธยมปีที่ 1 มากมาย อาทิ ด.ช.ฐีรวัฒน์ อาสว่าง ได้โควต้าเข้าโรงเรียนวัดสังเวช เขตพระนคร กรุงเทพฯ, ด.ช.สรวิชญ์ สันทัศน์ ได้โควต้าเข้าโรงเรียนวัดสังเวช เขตพระนคร กรุงเทพฯ, ด.ญ.ปุณณภา ดวงดี ได้โควตาเข้าโรงเรียนนนท์ประสิทธิ์วิทยา บางบัวทอง จ.นนทบุรี, ด.ช.กรวุฒิ อินทร ได้โควตาเข้าโรงเรียนวัดบวรมงคล จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ, ด.ช.คุณากร ขาวสําอางค์ ได้โควตาเข้าโรงเรียนวัดบวรมงคล จรัญสนิทวงศ์ กรุงเทพฯ และ ด.ช.กรภัทร นิลศิริ ได้โควตาเข้าโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพฯ





ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport