"ฮาจิเมะ โมริยาสุ" โค้ชทีมชาติญี่ปุ่น ผู้พาเข้ารอบฟุตบอลโลก 8 สมัยติด

"ฮาจิเมะ โมริยาสุ" โค้ชทีมชาติญี่ปุ่น ผู้พาเข้ารอบฟุตบอลโลก 8 สมัยติด
ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือวัย 56 ปี ผู้พาทีมชาติญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จ และกลายเป็นโค้ชที่คุมทีมชาตินานที่สุดในประวัติศาสตร์ ลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัย เส้นทางชีวิตจากเด็กที่เคยฝันอยากเป็นนักเบสบอล สู่การเป็นหัวเรือใหญ่ของทีมชาติญี่ปุ่นในยุคที่ฟุตบอลเอเชียยกระดับสู่เวทีโลกอย่างเต็มตัว

ทีมชาติญี่ปุ่นผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จ นับเป็นการเข้าเล่นรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน สะท้อนถึงระบบการพัฒนาอย่างเป็นระบบและยั่งยืนของวงการลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัย ที่วางรากฐานตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่

หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของความสำเร็จนี้คือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ เฮดโค้ชวัย 56 ปี ผู้คร่ำหวอดในทีมชาติญี่ปุ่นยาวนานที่สุดถึง 8 ปี และถือเป็นกุนซือที่คุมทีมชาติมากที่สุดตลอดกาลของประเทศ วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเส้นทางชีวิตของ "โค้ชจอมจด" ผู้เปลี่ยนชีวิตจากความฝันนักเบสบอลมาเป็นกุนซือแถวหน้าของเอเชีย

จุดเริ่มต้นของโมริยาสุ

ฮาจิเมะ โมริยาสุ เกิดที่เมืองคาเกกาวะ จังหวัดชิซูโอกะ พ่อของเขาทำงานในอุตสาหกรรมต่อเรือ ทำให้ครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานอยู่บ่อยครั้งในวัยเด็ก ก่อนจะปักหลักเติบโตที่นางาซากิและฮิโรชิม่า

เดิมทีโมริยาสุหลงใหลในกีฬาเบสบอลและเคยตั้งเป้าจะเป็นนักเบสบอลอาชีพ หลังเคยลงแข่งขันในระดับเยาวชนมาก่อน แต่ในช่วงชั้นประถมปีที่ 6 เขาเริ่มหันมาเอาดีกับฟุตบอล โดยเริ่มต้นจากตำแหน่งผู้รักษาประตู

จากนักเตะโนเนมสู่ทีมชาติ

เส้นทางลูกหนังของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ถูกเพื่อนแกล้งอยู่บ่อยครั้ง จนพ่อต้องช่วยกันตั้งสโมสรฟุตบอลประจำโรงเรียนเพื่อให้เขาเล่นต่อ

โมริยาสุเปลี่ยนจากผู้รักษาประตูมาเล่นในตำแหน่งกองกลางสมัยมัธยม และได้รับโอกาสจากสโมสรซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า (เดิมคือ มาสด้า เอสซี) โดยเซ็นสัญญาในปี 1987 ตอนที่ยังเป็นเพียงระบบฟุตบอลกึ่งอาชีพ

เขาทำงานในเครือบริษัทมาสด้าไปด้วยและเล่นฟุตบอลไปด้วย ก่อนจะพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดและได้รับสัญญาอาชีพเต็มตัวในปี 1991

ในปี 1992 โมริยาสุถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมอุ่นเครื่องกับอาร์เจนตินา และเป็นกำลังหลักคว้าแชมป์เอเชียนคัพในปีเดียวกัน

อำลาสนาม สู่บทบาทโค้ช

โมริยาสุลงเล่นให้ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ครบ 200 นัด ก่อนย้ายไปเกียวโต ซังงะ และเวกัลตะ เซนได ช่วงปลายอาชีพ

เขาประกาศเลิกเล่นในปี 2004 หลังมีอาการบาดเจ็บสะสม โดยเฉพาะข้อเท้าหักตั้งแต่ปี 1995

จากผู้ช่วยสู่เฮดโค้ชทีมชาติ

หลังแขวนสตั๊ด โมริยาสุเริ่มบทบาทโค้ชกับฮิโรชิม่าในฐานะผู้ช่วย ก่อนจะคุมทีมชาติญี่ปุ่นรุ่น U20 ในปี 2006 และพาทีมคว้ารองแชมป์เอเชียพร้อมตั๋วไปชิงแชมป์โลก

ในช่วงปี 2012-2017 เขาคุมซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า พาทีมคว้าแชมป์เจลีก 3 สมัย (2012, 2013, 2015)

ความสำเร็จนี้ทำให้เขาถูกเรียกเข้ามาร่วมทีมงานของ อากิระ นิชิโนะ ในฟุตบอลโลก 2018 และหลังจบทัวร์นาเมนต์ก็รับไม้ต่อคุมทีมชาติชุดใหญ่เต็มตัว

ผลงานในนามทีมชาติ

โมริยาสุนำทีมชาติญี่ปุ่นเข้าชิงเอเชียนคัพ 2019 และคว้าอันดับ 4 โอลิมปิก 2020 (แข่งขันจริงในปี 2021)

พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลเอเชียตะวันออก 2022 และผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกได้ 2 สมัยติดต่อกัน (2022 และ 2026)

นอกจากนี้ยังมีผลงานในระดับเยาวชน เช่น แชมป์ U20 เอเชีย 2006 และรองแชมป์เอเชียนเกมส์ 2018

โมริยาสุ: สัญลักษณ์ของความสม่ำเสมอ

จากโค้ชโนเนม สู่กุนซือระดับทีมชาติที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น ฮาจิเมะ โมริยาสุ กลายเป็นบุคคลสำคัญของวงการลูกหนังญี่ปุ่น ด้วยแนวคิดที่เป็นระบบ การจดบันทึกทุกความเคลื่อนไหว และการพัฒนาผู้เล่นอย่างยั่งยืน เขาคือหนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จของทีมชาติญี่ปุ่นยุคใหม่อย่างแท้จริง

ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport