โยทาโร่ นากิจิมะ แข้งทีเด็ด ทีมชาติญี่ปุ่นU20 ชุดชิงแชมป์เอเชีย

โยทาโร่ นากิจิมะ แข้งทีเด็ด ทีมชาติญี่ปุ่นU20 ชุดชิงแชมป์เอเชีย
ทีมชาติญี่ปุ่นU20 ที่กำลังร่วมลงทำการแข่งขันฟุตบอล 20 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2025 เพื่อคัดเอา 4 ทีม ของทวีปเอเชียไปแข่งขันชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศชิลี โดย ญี่ปุ่น อยู่ร่วมสายกับ เกาหลีใต้,ไทย และ ซีเรีย แน่นอนว่าด้วยระบบโครงสร้างของญี่ปุ่นและการผ่านเข้ารอบสุดท้ายต่อเนื่องคว้าตั๋วเวิลด์คัพ บ่อยๆ ถือว่าพวกเขาคือตัวเต็งในกลุ่มนี้

แน่นอนว่าขุมกำลังหลักประจำทีมนับว่าสำคัญในการยกระดับทีมให้ประสบความสำเร็จ หนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองมากๆในทีมชาติ 20 ปี ญี่ปุ่น ชุดนี้ต้องยกให้กับ โยทาโร่ นากิจิมะ นักเตะกองกลางวัย 18 ปี  ของสโมสรฟุตบอลซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ที่ผ่านเกมระดับเจลีก 1 และ เกมระดับชิงแชมป์สโมสรเอเชียที่ยิงไปถึง 2 ประตู ในเวทีฟุตบอลเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ทู 2024-25 จนพาทีมผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์

- ข้อมูล โยทาโร่ นากิจิมะ พอสังเขป -

- โยทาโร่ นากาจิมะ เกิดที่  ฮิโรชิม่า  เป็นลูกชายของ โคจิ นากาจิมะ อดีตนักเตะซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ช่วงปี 2009-13 

- ความสามารถในเรื่องของฟุตบอลเฉิดฉายตั้งแต่เด็ก ผ่านการทดสอบเข้าระบบเยาวชนสโมสรฮิโรชิม่าตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา 3 สมัยเรียนอยู่โรงเรียนอูชิตะ ชินมาจิ  พร้อมกับยืนระยะยต่อเนื่องยาวนานในระดับเยาวชนจนก้าวไปติดทีมชาติระดับเยาวชนของญี่ปุ่น ตั้งแต่รุ่น 17 ปี,18 ปี,19 ปี  ร่วมคว้าแชมป์เอเชีย 17 ปี กับทีมชาติญี่ปุ่น พร้อมได้สิทธิ์ไปลุยเวทีชิงแชมป์โลก 

- โยทาโร่ นากาจิมะ ได้รับสัญญาอาชีพ กับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า  ด้วยวัยเพียง 17 ปี 4 เดือน  ในปี 2023 กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของสโมสรที่มีการเซ็นสัญญาอาชีพ  ประตูแรกที่ยิงให้กับสโมสรในนามชุดใหญ่คือการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องนัดพิเศษพบกับ สตุทการ์ท(เยอรมัน) พร้อมกับจารึกชื่อเกมแรกกับฮิโรชิม่าชุดใหญ่

- ในเวทีฟุตบอลระดับเยาวชน รายการ ทาคามาโดะ ยู 18  ลงเล่น 33 เกม ยิง 8 ประตู  ขณะที่ทีมชุดใหญ่ลงเล่นให้ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า 23 เกม ยิง 2 ประตู (เจลีก 1 2 นัด,เอ็มเพอเรอร์ 3 นัด ,ลีกคัพ 2 นัด ,เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ทู 6 นัด 2 ประตู 

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล 20 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบแรกของทีมชาติ ญี่ปุ่น ประกอบ ไปด้วย 14 ก.พ.68 พบ ไทย,17 ก.พ.68 พบ ซีเรีย และ 20 ก.พ.68 พบ เกาหลีใต้



ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport