อับดูโกดีร์ คูซานอฟ 'ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นทั้งเอเชีย'

- คุณพ่อคือ 'ครู' คนแรก

    คุณพ่อของ อับดูโกดีร์ เป็นอดีตนักเตะ มันจึงทำให้ครอบครัว คูซานอฟ ทุกคนมีกีฬาลูกหนังเป็นอันดับหนึ่งในดวงใจ เพราะไม่ว่าจะตัวเขาเอง, พี่ชายหรือญาติๆ แต่ละรายล้วนแล้วแต่หลงใหลในฟุตบอลทั้งนั้น

    สมาชิกใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยให้สัมภาษณ์กับ กาเซต้า (Gazeta) สื่อยักษ์ใหญ่ของอุซเบกิสถาน เมื่อกลางปี 2024 ว่า "พ่อของผม (อัตกีร์ โคชิมอฟ) เคยเป็นนักเตะมาก่อน คนในครอบครัวของเราจึงชอบกีฬานี้มากๆ แน่นอนว่าผมเองก็ด้วย ผมเริ่มเล่นตอนอายุ 5 ขวบ กับสโมสรในละแวกบ้านเกิด ทอชคุช (Toshkuch) และหลังจากนั้นคุณลุงก็พาผมไปคัดตัวที่ บุนยอดกอร์"

   "เขา (คุณพ่อของ อับดูโกดีร์) บอกกับผม ณ ตอนนั้นว่า "อย่าไปกลัว ถ้าใครจะมองเราไม่ดี อย่าไปสนใจ" นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของผมกับฟุตบอล" 

   "คุณพ่อคือครูคนแรกในโลกของฟุตบอล คำชมจากเขาคือแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชื่นชมผมบ่อยนักก็ตาม (ยิ้ม) ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะต้องการให้ผมไม่ทระนงตัว เขาจะใช้การแนะนำข้อผิดพลาดเพื่อให้ผมพัฒนาขึ้น"

- เข้าสู่รั้ว บุนยอดกอร์

   ปี 2011 แรกเริ่มในรั้ว มิลลี่ย์ สเตเดี้ยม - อับดูโกดีร์ ในวัยเพียง 7 ขวบ ต้องฝึกซ้อมกับรุ่นพี่ เนื่องจากตนเองเกิดในปี 2004 แต่ถูกจับไปลงทีมกับเยาวชนที่เกิดในปี 2002 ซึ่งนั่นเองที่ทำให้ฝีเท้าของเขาถูกขัดเกลาแบบเชี่ยวกรากนั่นเอง

   "เมื่อผมโตขึ้น ผมจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ" นี่คือสิ่งที่เขาตั้งเป้ามาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าคนในครอบครัวต่างก็สนับสนุนเป็นอย่างดี แม้กระทั่งคุณปู่, คุณย่า, คุณตาและคุณยายต่างก็พร้อมไปเป็นกำลังใจให้ในวันที่ทีมเยาวชน บุนยอดกอร์ ลงสนาม

   ก่อนจะมาเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟอาชีพ อับดูโกดีร์ หาใช่ปราการหลังมาก่อน หากแต่ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า แต่พอได้แรงบันดาลใจจากคุณพ่อ เขาก็ค่อยๆ ศึกษาวิธีการเล่นของบิดา กระทั่งเปลี่ยนตำแหน่งในภายหลัง

- เริ่มติดทีมชาติชุดเยาวชน

    อับดูโกดีร์ มีชื่อเสียงพอสมควรในระดับเยาวชน เนื่องจากเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟรูปร่างดี แถมยังมีความแข็งแกร่งที่สามารถสกัดกั้นแนวรุกได้ด้วยมันสมองอันปราดเปรื่อง แน่นอนว่าเขาย่อมถูกเรียกไปติดทีมชาติอุซเบกิสถาน ชุดเล็กในเวลาต่อมา

   เด็กหนุ่มจากทาชเคนต์ เป็นตัวหลักให้ทัพหมาป่าแห่งทูราเนียนส์ชุดยู-17 ก่อนจะขยับสู่รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี, 20 ปี และ 23 ปี 

   ณ ห้วงเวลานั้นเขายังอยู่ในอะคาเดมี่ของ บุนยอดกอร์ แต่ก็เริ่มเป็นที่จับตาของแมวมองทั่วทั้งยุโรป และเอเชีย กับผลงานพาอุซเบกิสถาน ชุดยู-20 คว้าแชมป์ เอเชียน คัพ เมื่อปี 2023 ต่อด้วยชุดยู-23 ที่ได้แรงแชมป์ทวีป 2024

- ไม่ได้รับโอกาสจึงออกผจญภัย

   ในช่วงที่เขายังอยู่ในสถาบันเยาวชนของ บุนยอดกอร์ - อับดูโกดีร์ ถูกเรียกตัวขึ้นไปฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่อยู่บ่อยๆ และก็ได้ลงทีมอยู่บ้าง จนเขาเริ่มคิดว่าตัวเองน่าจะพอมีแววเข้าตาเฮดโค้ชอยู่เหมือนกัน เนื่องจากในห้วงเวลานั้น ปราการหลังตัวกลางต่างก็บาดเจ็บหลายราย

   "ตอนนั้นผมอายุ 16 ปี ได้ขึ้นไปเล่นทีมสำรองของสโมสร บวกกับการที่รุ่นพี่หลายๆ คนได้รับบาดเจ็บ ผมจึงคิดในใจว่าบางทีโอกาสน่าจะมาถึงแล้ว เพราะผมฝันจะเล่นให้ บุนยอดกอร์ มาเสมอ"

   สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงตรงกันข้ามเลย เนื่องจากผู้บริหารมีความเห็นว่า อับดูโกดีร์ ยังไม่พร้อม ว่าแล้วเลยส่งเขาไปเล่นให้ทีมชุดยู-18 แทน

   แน่นอนว่ามันย่อมสร้างความเจ็บปวดให้เด็กหนุ่มที่กำลังห้าวเป้งสุดขีด แต่เขาไม่ย่อท้อ เพราะรู้ดีว่าเส้นทางลูกหนังยังยาวไกลยิ่งนัก

- ห้วงเวลาอันยากลำบากที่เบลารุส

    อับดูโกดีร์ อยู่กับ บุนยอดกอร์ จนอายุ 17 ปี และด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในนามทีมชาติชุดเยาวชน เขาจึงถูก เอเนอร์เจติก-บีจียู สโมสรในลีกเบลารุส มาทุ่มซื้อตัวไปในราคาถึง 800,000 ยูโร (ประมาณ 28 ล้านบาท, ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.transfermarkt.com)

   "ตอนผมย้ายไปเบลารุส ผมยากลำบากมากทีเดียว โดยเฉพาะฤดูหนาวนี่บอกเลยว่ารุนแรงสุดๆ หิมะตกหนัก อุณหภูมิเย็นจัด บ้านก็คิดถึง แล้วยิ่งมาเจอสนามซ้อมตอนเข้าที่แทบจะต้องขุดหิมะแทนการฝึก มันยิ่งทำให้ผมเหนื่อยกว่าเดิมหลายเท่าตัว"

   "เท่านั้นไม่พอ ในเกมอุ่นเครื่อง ผมดันได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องใส่เฝือก เลยต้องพัก 2-3 เดือน นั่นคือช่วงเวลาที่ทรมานสำหรับผมจริงๆ"

   อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกเริ่มกับ อะเนอร์เจติก-บีจียู เขายังไม่สามารถลงสนามได้ เนื่องจากอายุยังไม่ครบ 18 ปี บริบูรณ์ อันเนื่องมาจากกฎของสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ ฟีฟ่า แถมในตอนนั้นก็ดันมีสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก มันจึงทำให้กว่าที่ อับดูโกดีร์ จะได้เฉิดฉาย ก็รอไปนานพอสมควร

- โยกสู่ ล็องส์ พร้อมแจ้งเกิดเต็มตัว

   จากผลงานอันเอกอุที่เบลารุส บวกด้วยฟอร์มอันเปล่งประกายในฐานะทีมชาติรุ่นเยาวชน - ล็องส์ หนึ่งในทีมดังแห่ง ลีกเอิง จึงมาสู่ขอ อับดูโกดีร์ ไปร่วมทัพเมื่อช่วงกรกฎาคม  2023 ด้วยสัญญายาว 4 ปี 

   เขากลายเป็นนักเตะอุซเบกิสถาน คนแรกในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังฝรั่งเศส

   อับดูโกดีร์ ประเดิมสนามให้ ล็องส์ ในวัย 19 ปี ก่อนจะค่อยๆ แทรกซึมสู่การเป็นตัวจริงในเวลาต่อมา เพราะมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดนั่นเอง จนมีสถิติลงเล่นให้สโมสรรวมทั้งสิ้น 31 เกม พร้อมทั้งยังมีส่วนสำคัญกับ 12 คลีนชีตอีกด้วย

   โรแนน คารอฟฟ์ ผู้จัดการพื้นที่ฝรั่งเศส ของเว็บไซต์ทรานส์เฟอร์มาร์เคที (www.transfermarkt.com) ที่ติดตามผลงานของเซนเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่งคนนี้อย่างใกล้ชิด ก่อนจะให้ข้อมูลว่า "เขา (อับดูโกดีร์) เป็นกองหลังที่แข็งแกร่งมาก และเป็นเรื่องแปลกเหมือนกันที่รูปร่าง 1.86 เมตร แต่กลับมีความว่องไวในการตามสกัดกั้นแนวรุกของคู่แข่ง"

   "เขาชื่นชอบการเข้าปะทะ โดยเฉพาะสถานการณ์ 1 ต่อ 1 ผู้คนต่างก็ทึ่งในฝีเท้าของ อับดูโกดีร์ จริงๆ เพราะอายุเพียงเท่านี้ แต่กลับเล่นราวกับว่าตนเองผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน"

   แสงสปอตไลต์สาดส่องไปที่แนวรับอนาคตไกล ซึ่งมาจากผลงานที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ จนมีหลายสโมสรทั่วทั้งยุโรป ให้ความสนใจ 

-เผชิญหน้าทีมชาติไทย ใน เอเชียน คัพ 2023

   อับดูโกดีร์ ประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ในเดือนมิถุนายน 2023 และก็แทบจะกลายเป็นตัวหลักของอุซเบกิสถาน ในทันที เพราะฟอร์มอันเจิดจรัส ซึ่งแน่นอนว่าเขาถูก สเร็คโก้ ตาตาเน็ช เฮดโค้ช (ณ ตอนนั้น) เรียกใช้อย่างต่อเนื่อง

   เช่นกันกับ เอเชียน คัพ 2023 ที่เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก ล็องส์ จองตำแหน่ง 11 คนแรกอย่างมั่นคง

   ในรอบ 16 ทีม สุดท้าย เขาลงสนามเผชิญหน้าทีมชาติไทย ก่อนจะมีส่วนสำคัญในการป้องกันแดนหลังให้ทัพหมาป่าแห่งทูราเนียนส์เฉือนช้างศึก 2-1 

   "วันนั้นพวกเขา (อุซเบกิสถาน) เล่นระบบกองหลัง 3 คน โดยมี อับดูโกดีร์ คูซานอฟ เป็นหนึ่งในนั้น" วีระเทพ ป้อมพันธ์ มิดฟิลด์ แบงค็อก ยูไนเต็ด ย้อนความหลังให้ฟัง

   "การเล่นของเขา (อับดูโกดีร์ คูซานอฟ) คล้ายๆ คิม มิน-แจ ของเกาหลีใต้ คือแข็งแกร่ง, สูงใหญ่, ชัวร์และผ่านยาก ซึ่งเราเองก็พยายามสู้ด้วยแท็กติก ก่อนจะแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย"

- ซิตี้ และแรงบันดาลใจ

   ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม 2025 ชื่อของ อับดูโกดีร์ คูซานอฟ ถูกค้นหาบนหน้าอินเทอร์เน็ตอย่างล้นหลาม โทษฐานที่เป็นนักเตะอุซเบกิสถาน คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก แถมยังได้อยู่กับสโมสรอันดับหนึ่ง ณ ปัจจุบัน อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกต่างหาก

   ก่อนหน้านี้ชื่อของเขาแทบจะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แม้กระทั่งมหานครทาชเคนท์ เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเอง 

   มีรายงานจากเว็บไซต์ อาร์เอฟอีอาร์แอล (www.rferl.org) ว่านักข่าวสายกีฬาแท้ๆ บางรายยังไม่รู้จัก อับดูโกดีร์ เลยสักนิด

   ดังนั้นการย้ายสู่ ซิตี้ จึงเป็น 'แรงบันดาลใจ' อันยิ่งใหญ่สำหรับเด็กๆ ในอุซเบกิสถาน โดยแท้จริง เพราะเมื่อมองย้อนกลับไป แทบไม่คอลูกหนังบนทั่วทุกมุมโลกสนใจฟุตบอลเอเชียกลาง  เท่าที่ควร

   โอตาเบค ยูราเยฟ ผู้สื่อข่าวกีฬาของ อาร์เอฟอีอาร์แอล (www.rferl.org) ที่ทำหน้าที่อยู่ ณ อุซเบกิสถาน บรรยายถึงความตื่นเต้นของผู้คนที่นั่นกับการที่ อับดูโกดีร์ ได้ย้ายสู่มหานครลูกหนังว่า "สำหรับนักเตะอายุน้อยของอุซเบกิสถาน และรวมไปถึงคนอื่นๆ ในเอเชียกลาง นี่คือแรงบันดาลใจมหาศาลของพวกเขาเลยทีเดียว"

   "คุณลองจินตนาการดูเอาว่านักเตะอายุ 20 เท่านั้น แถมยังมาจากอุซเบกิสถาน แต่กลับได้ไปเล่นในลีกอันดับหนึ่งของโลก ได้เล่นกับสโมสรชั้นนำของโลก ดังนั้นมันจะสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้คนจากประเทศอื่นๆ หันมาสนใจเอเชียกลาง เพิ่มมากขึ้น"

   ณ วินาทีนี้ ค่าตัว 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) ที่ ซิตี้ ประเคนให้ ล็องส์ นั้นดูน้อยไปถนัดตา เพราะในแง่การตลาด ถือว่าทีมเรือใบสีฟ้าสามารถเดินเกมได้สุดชาญฉลาด เนื่องจากเป็นการขยายฐานแฟนคลับ แถมยังยึดพื้นที่สื่อในเอเชีย รวมถึงทวีปอื่นๆ ได้นานนับสัปดาห์

   แต่สิ่งที่ผู้คนต่างรอคอยคือการได้เห็นเด็กหนุ่มวัยใกล้ 21 ปี โลดแล่นใน พรีเมียร์ลีก ต่อหน้าแฟนๆ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

    ความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ - ทำสำเร็จแล้ว

   ความใฝ่ฝันที่จะติดทีมชาติชุดใหญ่ - ทำสำเร็จแล้ว

   ในวัยเพียงเท่านี้เส้นทางแห่งความสำเร็จยังอีกยาวไกล และการอยู่กับสโมสรชั้นนำของโลกอย่าง ซิตี้ ย่อมทำให้เจ้าตัวต้องทุ่มทุกสิ่งอย่างเพื่อก้าวข้ามคำว่า 'ดาวรุ่ง' สู่การเป็นปราการหลังชั้นยอดให้จงได้

   ช่องว่างของ 'ความใฝ่ฝัน' เกิดขึ้นอีกหนึ่งอย่างแล้ว

   อับดูโกดีร์ คูซานอฟ 'ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นทั้งเอเชีย'