ชิน แต ยอง กุนซือชาวเกาหลีใต้กลายเป็นผู้พัฒนาฟุตบอลทีมชาติอินโดนีเซียอย่างแท้จริง แม้โดนครหาใช้แข้งลูกครึ่ง+โอนสัญชาติแต่ตัวเขาควรได้รับการยกย่องจากการวางแนวทางทำทีม
แม้ว่าทีมชาติอินโดนีเซียที่ประเดิมสนามได้ดีในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม ด้วยการบุกเสมอซาอุดิอาระเบีย 1-1 จะถูกพูดในแง่ความสำเร็จคือเรื่องของการจัดหาสรรหาผู้เล่นที่มีเชื้อสายอินโดนีเซีย,ลูกครึ่งรวมไปถึงการโอนสัญชาติ แต่ในอีกมุมที่น่าสนใจคือการทำงานที่ต่อเนื่องของ ชิน แต ยอง กุนซือชาวเกาหลีใต้
จุดเริ่มต้นปี 2020 ที่มีการเจรจาตั้งแต่ปี 2019 ช่วงที่โควิดบุกโลกการทำงาน จากจุดเริ่มต้นครั้งนั้น ชิน แต ยอง ได้รับมอบหมายให้คุมทีมชาติชุดใหญ่ ,23 ปีและ 20 ปี เป็นจุดเริ่มต้นการเปิดโหมดอินโดนีเซียสไตล์เกาหลีใต้แบบผสมผสานอย่างเต็มตัว
การประกาศรายชื่อผู้เล่นทีมชาติชุดใหญ่ในครั้งแรกๆกุนซือชาวเกาหลีใต้รายนี้เรียกนักเตะเข้ามากลุ่มใหญ่ราวๆ 50 คนโดยมีอายุน้อยสุด 18 ปี มาทำการฝึกซ้อมเพื่อปรับความเข้าใจและเป็นการโคเวอร์ ผู้เล่นที่มีอยู่ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ช่วงแรกๆที่กุนซือรายนี้เน้นเป็นพิเศษคือเรื่องของระเบียบวินัยการอยู่ด้วยกันเป็นทีมและแรงจูงใจในการเล่นเพื่อทีมชาติ
หลายครั้งในช่วงแรกที่มีข่าวออกมาเกี่ยวกับการลงโทษนักเตะในช่วงก่อนรับประทานอาหารและการเรียกตัวมาสู่ทีมชาติแล้วติดต่อไม่ได้หรือมาช้ากว่าวันรายงานตัวจะถูกตัดชื่อออกทันทีนี่คือส่วนหนึ่งเท่านั้นที่กุนซือรายนี้ปรับเปลี่ยนแนวความคิดของผู้เล่นอินโดนีเซีย นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายและความรับผิดชอบต่อการรับใช้ชาติ ช่วยสรรหาแสวงหานักเตะเชื้อสายอินโดนีเซียร่วมไปถึงการร่วมสร้างโอกาสในการเล่นฟุตบอลอาชีพต่างแดนของเหล่าบรรดานักเตะอินโดนีเซียรุ่นใหม่ ชิน แต ยอง กลายเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จสุดๆคนหนึ่งของวงการลูกหนังอินโดนีเซียหลังจากพาทีมชาติ 3 ชุดที่อยู่ในสัญญาการคุมทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเอเชียทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น 20 ปี, 23 ปี และชุดใหญ่
ผลงาน ชิน แต ยอง ทีมชาติอินโดนีเซีย
ผลงาน ชิน แต ยอง ทีมชาติ ยู-23 อินโดนีเซีย
ผลงาน ชิน แต ยอง ทีมชาติ ยู-20 อินโดนีเซีย