เหงียนตีข่าว สื่ออิเหนา จวกแหลก VAR"เปาโค้ช" เกม อินโดนีเซีย U23พ่ายอุซเบฯ

 โดย นสพ.Pojoksatu ได้ใช้คำพาดหัวว่า VAR WON หมายถึง VAR ชนะ โดยขยายความว่า VAR ในเกมนี้ได้ทำให้เกิดการตัดสินใจหลายครั้งที่ทำให้อินโดนีเซียเสียเปรียบ บางทีหากไม่มี VAR และเทคโนโลยี โกลไลน์ อุซเบฯก็ไม่สามารถชนะเกมนี้ได้ ซึ่ง VAR มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ตัดสินจีนในเกมนี้ เสิ่น หยิน ห่าว และจุดอ่อนของ VAR กลายมาเป็นหัวข้อของการสนทนาหลังจบแมตช์

 ศิวกร ในวัย 37 ปี ประสบการณ์ 11 ปีในฐานะผู้ตัดสินฟีฟ่า และเคยเป็นผู้ตัดสิน VAR 5 เกมในเอเชี่ยนคัพ 2023 เมื่อต้นปี และขยายความว่า ศิวกรเป็นผู้ตัดสิน VAR ในเกมที่อินโดนีเซีย แพ้ “เจ้าภาพ”กาตาร์ ในยู23 ปีเอเชี่ยนคัพที่ผ่านมา ซึ่งทำให้อินโดนีเซียเสียจุดโทษและ จัสติน ฮับเนอร์ กองหลังถูกไล่ออก จนทำให้ทีมอินโดนีเซียร้องเรียนการทำหน้าที่ของทีมผู้ตัดสินในเกมนั้น

 ขณะที่ เว็บไซต์กีฬาอินโดฯ ZQ Score ได้ตีข่าวว่า แม้อุซเบฯ จะชนะ 2-0 แต่จุดสนใจของการแข่งขันอยู่ที่การตัดสินที่ขัดแย้งกัน 3 ครั้งโดย VAR อินโดฯไม่เพียงล้มเหลวเพราะผลงาน แต่เป็นเพราะความไม่เสถียรในการใช้ VAR โดยผู้ตัดสิน ซึ่งจำเป็นต้องมีการประเมิน VAR ในเชิงลึก เพื่อให้แน่ใจว่าการแข่งขันในนัดสำคัญแบบนี้มีความยุติธรรม

 ส่วนสำนักข่าว CNN อินโดนีเซีย ชี้ให้เห็นว่า การตัดสินใจที่ขัดแย้งที่เกิดขึ้นจาก VAR มี 3 เหตุการณ์คือ จังหวะแรก น.27 วิตาน สุไลมาน โดน อับดูโคดี้ คูชานอก สกัดที่ริมเขตโทษอุซเบฯ ตอนแรกผู้ตัดสิน เสิ่น หยิน ห่าว ให้จุดโทษ แต่ VAR แทรกแซง ก่อนผู้ตัดสินจะไปตรวจสอบ และยกเลิกจุดโทษ แถมไม่ให้ฟรีคิกกับอินโดฯ 

 เหตุการณ์ที่สอง ประตูที่อินโดนีเซียยิงได้จากกองหลังอย่าง มูฮัมหมัด เฟอร์รารี่ ที่ยิงเข้าไป แต่ VAR ชี้ว่า รามาห์ดาน ซานานต้า กองหน้าอินโดฯ ที่ขึ้นโหม่งล้ำหน้า และผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู ก่อนที่เหตุการณ์สุดท้ายคือ ใบแดงของ ริซกี้ ริดโฮ กองหลังอินโดฯ ที่เคลียร์บอลแล้วเหวี่ยงเท้าต่อเนื่องไปตามโมเมนตั้มไปโดนพื้นที่อ่อนไหวของ ยาซูเบ็ค จาโลลิดดินอฟ ซึ่งถือเป็นฟาล์วอันตราย ขอบคุณ VAR ที่ทำให้เป็นใบแดง ริดโฮ โดยตรง

 จากนั้นสื่อเวียดนามก็ปิดท้ายด้วยสถิติในเกมนี้ว่า อุซเบฯมีโอกาสยิง 28 ครั้ง มากกว่าอินโดนีเซียถึง 7 เท่า และอินโดนีเซียยิงไม่ตรงกรอบแม้แต่ลูกเดียวหากไม่นับลูกยิงที่ล้ำหน้า