การตกรอบของ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ยืนยันกับเราว่าฟุตบอลระดับเอเชียน คัพ นั้นเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ยอมกันไม่ได้
คุณจะเจ๋งจะแน่มาจากไหนหรือได้รับคำสรรเสริญจากผลงานเยี่ยมยอดเพียงใดก็ใช่ว่าคุณจะมาไล่ตบเพื่อนร่วมทวีปทีมอื่นๆ แบบง่ายๆ
คุณอาจจะฮึกเหิมมาเต็มที่หรือนอบน้อมถ่อมตัวมีสมาธิเต็มเปี่ยม จริงจังกับมัน เน้นกับมัน แต่มันก็จะยังคงเป็นภารกิจที่หนักหนาสาหัสสำหรับคุณอยู่ดี
ปากกาเซียนพร้อมจะหักสะบั้นได้ทุกเมื่อ
แล้วความกระเสือกกระสนของทั้งทีมซามูไรและโสมขาวตลอดทัวร์นาเม้นต์ กาตาร์ 2023 ก็ฉายภาพให้เห็นถึงความยากของรายการออกมาจริงๆ
ขึ้นชื่อว่าศึกแห่งศักดิ์ศรี แต่ละทีมลงสนามโดยมีศักดิ์ศรีของประเทศชาติเป็นเดิมพัน ต่อให้เป็นรองสุดกู่ก็จะหาวิธีการและช่องทางสู้อย่างสุดความสามารถ เล่นแบบถวายหัวเพื่อเพื่อนร่วมชาติ
เราได้เห็นความอึดอัดของญี่ปุ่นในการเจอกับทีมระดับอาเซียนทั้งเวียดนามและอินโดนีเซีย เจอคู่ปรับแข็งๆ จากตะวันออกกลางถึงขั้นแพ้เลย แพ้ทั้งอิรัก แพ้ทั้งอิหร่าน ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านตั้งแต่ยังไม่ถึงรอบตัดเชือก
ผิดราคาเต็งหนึ่งและเต็งจ๋าของทัวร์นาเม้นต์
ได้เห็นการต้องฮึดไขก๊อกสองก๊อกสามรีดพลังออกมาจนหมดในการเอาตัวรอดของเกาหลีใต้ ทั้งในเกมเจอจอร์แดนรอบแรก ซาอุดีอาระเบียรอบสอง และออสเตรเลียรอบ 8 ทีมสุดท้าย
สามเกมที่ว่าขุนพลโสมขาวต้องเร่งเฮือกสุดท้ายตีเสมอในช่วงทดเวลาทั้งหมด ยิงจอร์แดน 2-2 นาที 90+1 ยิงซาอุฯ 1-1 นาที 90+9 ยิงออสเตรเลีย 1-1 นาที 90+6 ขณะที่เกมสุดท้ายของรอบแรกก็ยังโดนมาเลเซียตีเสมอ 3-3
เกาหลีใต้ทำท่าว่าจะเป็นทีมตายยากตามคุณสมบัติของแชมป์ แต่สุดท้ายแล้วคุณภาพของเกมก็จบเส้นทางของพวกเขาอยู่ดี จอร์แดนคู่ปรับเก่าในรอบแรกตอกย้ำว่าการมาถึงตรงนี้ได้ไม่ใช่เพราะฟลุ้ก ส่งทีมโสมขาวกลับบ้านด้วยผลงานชิ้นโบแดงชนะ 2-0 เมื่อวานนี้
กองทัพแทฮันมินกุกทีมเต็งสองจึงร่วงตามเต็งหนึ่งอย่างญี่ปุ่นไปอีกทีม
ก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเม้นต์ ญี่ปุ่นคือตัวเต็งแบบเดี่ยวๆ ฟอร์มการเล่นระดับพระกาฬที่ผ่านมาทำให้พวกเขาได้รับการจับตามองว่า "แชมป์แน่" บริษัทรับพนันถูกกฎหมายออกอัตราแชมป์ของทีมซามูไรที่ 3/1 เอาหนึ่งบาทไปแลกสามบาท
ถ้าจับพลัดจับผลูเกิดอุบัติเหตุญี่ปุ่นไม่ได้แชมป์ เกาหลีใต้ก็น่าจะเป็นแชมป์แทนตามสายตาของผู้สันทัดกรณี อัตราต่อรองแชมป์ของพวกเขาอยู่ที่ราว 6/1 ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นต์
ถัดจากสองทีมใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกไกลแล้วถึงจะเป็นกลุ่มทีมนำแห่งตะวันออกกลาง ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน กาตาร์ มี ออสเตรเลีย จากโอเชียเนีย และ อุซเบกิสถาน แห่งเอเชียกลางแทรก
สองทีมยักษ์ใหญ่จากเอเชียตะวันออกไกลเป็นตัวเต็งแบบไม่เกรงใจเจ้าภาพทั้งที่เตะกันบนแผ่นดินตะวันออกกลาง
ทุกสายตาพุ่งเป้าไปที่ญี่ปุ่น ไม่ก็เกาหลีใต้ ด้วยทั้งสองทีมระดมพลชุดใหญ่มากาตาร์กันอย่างคึกคัก แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะเอาแชมป์กลับไปเชยชม
ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือญี่ปุ่นสานต่อผลงานร้อนแรงในช่วงอุ่นเครื่องที่ไล่ถล่มคู่ต่อสู้มันเท้าด้วยการเรียกนักเตะติดทีมแบบเน้นๆ สตาร์ดังมาหมด คาโอรุ มิโตมะ, วาตารุ เอนโด, ทาคุมิ มินามิโนะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ, ริตสุ โดอัน, จุนยะ อิโตะ, ทาคุมะ อาซาโนะ, เรโอะ ฮาตาเตะ, ไดเซน มาเอดะ, อายาเสะ อูเอดะ
เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ นายใหญ่เกาหลีใต้จัดชุดใหญ่ไม่แพ้กัน เรียก ซน ฮึง-มิน มานำทัพพร้อมด้วย คิม มิน-แจ, อี คัง-อิน, ฮวาง ฮี-ชาน, จอง วู-ยอง, ฮวาง อิน-บอม, อี แจ-ซัง เหล่านี้ล้วนเล่นในยุโรปทั้งสิ้น
เต็งหนึ่ง.. ไม่ก็เต็งสอง ความรู้สึกของผู้คนเทไปอย่างนั้น แต่น้ำหนักถ่ายไปทางญี่ปุ่นเป็นพิเศษว่าห่างจากชาติอื่นหลายก้าวจริงๆ
แต่ก็นั่นล่ะครับ 5 เกมของญี่ปุ่น (เสียประตูทุกเกม รวม 8 ลูก) กับ 6 เกมของเกาหลีใต้ (เสียประตูทุกเกม รวม 10 ลูก) ไม่มีเกมไหนที่ทั้ง 2 ทีมเค้นผลงานที่ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็นออกมาให้ได้เห็นเลย
ไม่มีเลย.. ไม่มีความห่างแบบคนละชั้นให้เราเห็นเลยสักเกม กระทั่งเกมที่มองกันว่าห่างกันมากๆ ก็ไม่มี
มันแสดงถึงพัฒนาการของทีมรองของทวีปที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ดี มีความมุ่งมั่นในการเล่น มีการวางแผนและเตรียมตัวมาพร้อมสำหรับภารกิจที่รอพวกเขาอยู่
ฟุตบอลไม่ได้ห่างกันอย่างที่เห็นบนหน้ากระดาษอีกแล้ว ยิ่งฟุตบอลตะวันออกกลางในรายการนี้แต่ละทีมดูกระปรี้กระเปร่าสดชื่นมาก
จอร์แดนคือพระเอกประจำทัวร์นาเม้นต์ เกมสุดท้ายของรอบแรกที่แพ้บาห์เรนอาจจะถูกวิจารณ์มากว่าไม่ตั้งใจเอาชนะแต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำผิดกฎอะไรในเมื่อรูปแบบการแข่งขันทำให้สามารถเลือกเส้นทางของตัวเองในรอบต่อไปได้
ผลงานของขุนพลจากกรุงอัมมานยิ่งเล่นยิ่งดีและมั่นใจ เกมน็อกเกาหลีใต้ในรอบตัดเชือกคือเกมขึ้นหิ้งของพวกเขา มันจะตราตรึงอยู่ในใจเพื่อนร่วมชาติไปอีกนานแสนนานเพราะเล่นได้สมบูรณ์แบบทุกกระเบียดจริงๆ
เอาล่ะครับ มาจนถึงวันนี้ก็เป็นอันแน่นอนแล้วว่า เอเชียน คัพ คราวนี้ ทีมจากตะวันออกกลางจะได้ชิงกันเอง
จอร์แดน กับ อิหร่าน
หรือไม่ก็ จอร์แดน กับ กาตาร์
เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันที่ตัวแทนจากตะวันออกกลางได้ชิงกันเอง นับตั้งแต่ทัวร์นาเม้นต์เปลี่ยนรูปแบบจากการพบกันหมดไม่มีนัดชิงใน 4 สมัยแรก (1956, 1960, 1960, 1968) มาเป็นการแบ่งกลุ่มและมีนัดชิงเมื่อปี 1972
นับตั้งแต่ปี 1972 ที่เอเชียน คัพ มีนัดชิงชนะเลิศไล่มาจนถึง เอเชียน คัพ เมื่อสี่ปีก่อน รวมทั้งหมด 13 ครั้ง เคยมีการชิงกันเองของทีมตะวันออกกลางเกิดขึ้น 3 ครั้ง
ปี 1976 อิหร่าน ชนะ คูเวต 1-0
ปี 1996 ซาอุดีอาระเบีย ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยการดวลจุดโทษ 4-2
ปี 2007 อิรัก ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0
ในทางกลับกัน ทีมจากเอเชียตะวันออกไกล ดุลอำนาจอีกฝั่งของทวีปเคยทะลุเข้าไปชิงกันเองได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นคือเมื่อปี 2004 ที่ ญี่ปุ่น เอาชนะ จีน ต่อหน้าแฟนบอลเจ้าภาพที่สนามรังนก กรุงปักกิ่ง
นั่นคือครั้งเดียวเท่านั้นที่ทีมจากตะวันออกไกลเข้าชิงกันเอง นอกจากนั้นยังมีอีก 2 ครั้งที่ทีมจากตะวันออกกลางไปไม่ถึงนัดชิง นั่นคือปี 2011 กับ 2015 ที่ ออสเตรเลีย เพื่อนใหม่เข้าชิงกับ ญี่ปุ่น ทั้ง 2 หน แพ้กับชนะอย่างละหน
เอเชียน คัพ ทัวร์นาเม้นต์ที่ในภาพรวมแล้ว ตะวันออกกลางยังข่มตะวันออกไกลอยู่อย่างแสบๆ คันๆ
17 ครั้งที่ผ่านมาแชมป์เป็นของตะวันออกกลาง 10 สมัย (ซาอุดีอาระเบีย 3 อิหร่าน 3 อิสราเอล 1 คูเวต 1 อิรัก 1 กาตาร์ 1)
เป็นของตะวันออกไกล 6 สมัย (ญี่ปุ่น 4 เกาหลีใต้ 2)
เป็นของโอเชียเนีย 1 สมัย (ออสเตรเลีย)
และใน กาตาร์ 2023 นี้ ชาติจากตะวันออกกลางก็ยังตอกย้ำกับทุกคนอีกครั้ง ว่า เอเชียน คัพ คือทัวร์นาเม้นต์ของพวกเขา
เหลือแค่ว่าบทสรุปจะเป็นแชมป์ทีมใหม่อย่างจอร์แดน แชมป์สมัย 2 ของกาตาร์ หรือแชมป์สมัยที่ 4 ของอิหร่าน เท่านั้นเอง
เต็งหนึ่งลุ่ย เต็งสองร่วง
คำว่า "นอนมา" คือของแสลง มันไม่เคยมีอยู่จริงในรายการนี้..
ตังกุย