ผลจับสลาก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ซีซั่น 2024-25 รอบ 16 ทีม สุดท้ายออกมาแล้วเมื่อช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม โดยสามตัวแทนจากสยามประเทศนั้นต่างประกบคู่กับสโมสรต่างชาติล้วนๆ
และนี่คือบทวิเคราะห์แบบพอสังเขปจาก 'SIAMSPORT' ที่จะมาทำนายถึงโอกาสของ เมืองทอง ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี และ แบงค็อก ยูไนเต็ด ให้คุณได้อ่านกัน!!
[ 1 ] ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส (สิงคโปร์) - เมืองทอง ยูไนเต็ด
จุดแข็ง?
หากไม่นับ อัลบิเร็กซ์ นีงาตะ (สิงคโปร์) ซึ่งเป็นสโมสรจากญี่ปุ่น ที่มาฝังตัวในสิงคโปร์ ก็คงเป็น ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส นี่แหละที่ยืนหนึ่งในฐานะทีมเบอร์ต้นของประเทศ
เซเลอร์ส ผ่านรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์ โดยสามารถเอาชนะ การท่าเรือ เอฟซี ได้ทั้งไปและกลับ แถมยังกดสิงห์เจ้าท่าไปถึง 8 ประตู เลยทีเดียว นั่นบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าพวกเขามีจุดเด่นในเรื่องของเกมรุก
นอกจากนี้พวกเขายังอุดมไปด้วยแข้งต่างชาติฝีเท้าดีมากมาย เลนนาร์ท ไธ (เยอรมัน), บาร์ท แรมเซลาร์ (เนเธอร์แลนด์ส) และ มักซีม เลอส์เตียนน์ (เบลเยียม) 3 ขุนพลที่ผ่านการค้าแข้งใน เอเรดิวิซี่ส์ หรือลีกสูงสุดเนเธอร์แลนด์ส มาแล้ว
ไม่พอเท่านี้ ไบลี่ย์ ไรท์ ก็พกดีกรีทีมชาติออสเตรเลีย รวมไปถึง โทนี่ ดาตโควิช ก็ติดทีมชาติโครเอเชีย เช่นเดียวกับ รุย ปิแรส ก็เคยติดทีมชาติโปรตุเกส ชุดเยาวชนอีกต่างหาก
ขณะที่ผู้เล่นในประเทศ ก็ล้วนแล้วแต่ทีมชาติสิงคโปร์ ล้วนๆ ไล่ตั้งแต่ อิซวาน มาบัด ผู้รักษาประตูมือหนึ่งคนปัจจุบัน, ฮาริส ฮารุน กัปตัน, ชาวาล อานัวร์ ศูนย์หน้าดาวซัลโว และ ซง อุย-ยอง นักเตะสารพัดประโยชน์ที่โอนสัญชาติมา
จุดอ่อน?
ด้วยความที่เป็นทีมที่มีเกมรุกดุดัน แน่นอนว่ามันย่อมเปิดพื้นที่หลังบ้านให้คู่ต่อสู้โจมตี แม้จะถูกเจาะตาข่ายในลีกน้อยที่สุดของซีซั่น 2024-25 แต่กับถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาโดนถลุงไปถึง 11 ประตูเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ในระบบกองหลัง 3 คน ที่มี ไบลี่ย์ ไรท์, โทนี่ ดาตโควิช และ ลิโอเนล ตัน เป็นตัวหลัก ซึ่งทั้งหมดสอดประสานกันดีมากๆ แต่เมื่อใดที่คนใดคนหนึ่งหายหน้าไป มันจะส่งผลทันที เพราะคนที่มาแทนยังไม่สามารถเล่นอย่างรู้ใจนั่นเอง
โปรแกรมลีก?
สิงคโปร์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-25 ยังอยู่ในระหว่างแข่งขัน โดยจะไปสิ้นสุดซีซั่นในเดือนพฤษภาคม นั่นจึงทำให้สภาพร่างกายของนักเตะ เซเลอร์ส อยู่ในระดับที่ดี ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาแน่นอน
โอกาสของ เมืองทอง?
หากมองว่า เซเลอร์ส เป็นสโมสรจากลีกสิงคโปร์ ซึ่งมาตรฐานต่ำกว่า ไทยลีก อันนี้ต้องบอกเลยว่าคิดผิดถนัด เพราะพวกเขาเต็มไปด้วยนักเตะต่างชาติที่คุณภาพคับแก้ว ทั้งยังมีตัวทีมชาติมากมาย ดังนั้นโอกาสที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด จะผ่านเข้ารอบนั้นอยู่ที่ 50-50
ข้อได้เปรียบของกิเลนผยองคือตัวนักเตะไทย ที่เหนือกว่าแน่ๆ บวกกับความเข้าใจระบบของ จิโน่ เล็ตติเอรี่ ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแท็กติกของกุนซือชาวอิตาลี นั้นได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมอาชีพว่าเจ๋งจริง ซึ่งถ้าได้ผู้เล่นที่ตอบโจทย์ เขาจะพาทีมแล่นฉิวแน่นอน
อย่างไรก็ตาม คู่นี้จะเผชิญหน้ากันในเดือน กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งตอนนั้นนักเตะหลายๆ รายอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฝั่ง เมืองทอง ที่คงจะมีปรับเปลี่ยนในหลายๆ ตำแหน่ง
[ 2 ] ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส (เกาหลีใต้) - การท่าเรือ เอฟซี
จุดแข็ง?
แม้ฤดูกาล 2024 ของ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส จะตกต่ำที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี เพราะตกไปอยู่ในโซนเพลย์-ออฟที่จะหล่นชั้น ทว่ากับ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ทัพยักษ์เชียวกลับผ่านรอบแบ่งกลุ่มแบบสบายๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้ผู้เล่นชุดจัดเต็มเข้าแข่งขัน
ระบบการเล่นและมาตรฐานของลีกเกาหลีใต้ คือ 'จุดแข็ง' ของพวกเขา การคว้าแชมป์ เคลีก ได้ถึง 7 สมัย จาก 10 ซีซั่นหลังสุดบ่งบอกถึงความเก่งกาจทั้งโครงสร้างของสโมสรที่สามารถวางรากฐานจนทำให้ผู้เล่นทดแทนกันได้
หากว่า ชนบุค ต้องการคว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่พวกเขาจัดชุดที่ดีที่สุดลงตั้งแต่รอบน็อก-เอาต์เป็นต้นไปเท่านั้นเอง
จุดอ่อน?
ในรอบแบ่งกลุ่ม ชนบุค ส่งนักเตะเยาวชนลงสนามมากมาย ผู้เล่นเหล่านี้อาจจะมีศักยภาพและความสามารถที่จะก้าวไปเป็นแข้งทีมชาติในอนาคต
โปรแกรมลีก?
โดยปกติแล้ว เคลีก จะเปิดฉากในเดือน มีนาคม ของทุกๆ ปี และจะไปจบราวๆ พฤศจิกายน ทว่าฤดูกาล 2025 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้องกับปฏิทินของ เอเอฟซี แต่ยังต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
หากว่า เคลีก ยังยึดตามเดิม เท่ากับว่า ชนบุค จะต้องเร่งโปรแกรมปรี-ซีซั่นให้เข้ามากระชั้นชิดกว่าเดิม แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องดีต่อระยะยาวแน่ๆ ดังนั้นจึงต้องวางแผนการให้ดีๆ เพื่อกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
โอกาสของ การท่าเรือ?
หากว่า ชนบุค ยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากรอบแบ่งกลุ่ม โอกาสของ การท่าเรือ ที่จะผ่านสโมสรอันดับหนึ่งจากเกาหลีใต้ ก็จะมีมากขึ้น เพราะทัพยักษ์เขียวเต็มไปด้วยนักเตะวัยรุ่น บวกกับแข้งซีเนียร์ไม่กี่ราย
แต่ถ้าพวกเขาปรารถนาจะหยิบแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ก็เท่ากับว่าสิงห์เจ้าท่าแทบจะปิดประตูชนะได้เลยเหมือนกัน อีกทั้งยอดทีมแห่งย่านคลองเตยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรกับการเรียนรู้ระบบใหม่ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีแน่นการเผชิญหน้า ชนบุค เมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์
[ 3 ] ซิดนี่ย์ เอฟซี (ออสเตรเลีย) - แบงค็อก ยูไนเต็ด
จุดแข็ง?
ซิดนี่ย์ เอฟซี อาจจะไม่โด่งดังเท่า เมลเบิร์น วิคตอรี่ หรือ เมลเบิร์น ซิตี้ ทว่าพวกเขาก็จัดเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของออสเตรเลีย อย่างแท้จริง กับการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดไปแล้วถึง 4 สมัย ทั้งยังผ่านเข้าไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างสม่ำเสมอ
ประสบการณ์ในถ้วยเอเชีย นี่แหละคือจุดแข็งของ เดอะ สกาย บลูส์ เพราะพวกเขาคือขาประจำ แถมยังได้เล่นในถ้วยใหญ่ตลอด เพิ่งจะลงมาถ้วยรองในหนนี้เท่านั้นเอง
นอกเหนือไปจากความเจนจัดบนเวทีระดับทวีป เกมรุกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด ควรพึงระวังให้ดี เพราะว่า ซิดนี่ย์ มีตัวอันตรายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น อานาส คัวฮิม เพลย์เมเกอร์โมร็อกโก ที่เป็นรองดาวยิงสูงสุดในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 (5 ประตู)
ปัตนิค คลีมาลา ศูนย์หน้าโปแลนด์, โจ โลลลีย์ อดีตปีก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, แอนโธนี่ กาเซเรส แนวรุกลูกครึ่งอุรุกวัย ที่เคยย้ายไป แมนเชเสตอร์ ซิตี้ รวมไปถึง ดั๊กลาส คอสต้า จอมพลิ้วทีมชาติบราซิล ที่โด่งดังกับ บาเยิร์น มิวนิค และ ยูเวนตุส
เรียกได้ว่าถ้าแดนบนของ ซิดนี่ย์ ฟิตสมบูรณ์กันพร้อมหน้า พวกเขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวใครในเอเชีย เลยทีเดียว
จุดอ่อน?
อูฟุค ทาเลย์ กุนซือเชื้อสายออสเตรเลีย-ตุรกี อาจจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนฟุตบอลที่เน้นความเอนเตอร์เทน เพราะพี่แกคือเฮดโค้ชที่เน้นเกมบุกแบบนัน-สต็อป ซึ่งถูกอกถูกใจคอสกอร์สูง
แต่ในทางกลับกัน มันเปิดพื้นที่ให้หลังบ้านของ ซิดนี่ย์ มีช่องให้เจาะเข้าไปหลายจุด ตัวอย่างชัดเจนกับฤดูกาล 2023-24 ที่พวกเขาจบอันดับ 4 ของตารางคะแนน โดยที่ยิงไป 52 ประตู ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของ เอ-ลีก แต่ก็โดนถลุงตาข่ายไป 42 ลูก เลยทีเดียว
จุดนี้เองเป็นจุดที่ เดอะ สกาย บลูส์ ยังต้องพยายามลดข้อบกพร่อง ด้วยความที่แผงหลังนั้นดันสูงเกือบครึ่งสนาม ซึ่งเมื่อใดที่ต้องเจอกับทีมที่มีกองหน้าหรือปีกว่องไวก็อาจจะต้องน้ำตาตกในก็เป็นได้
โปรแกรมลีก?
เอ-ลีก เพิ่งจะเริ่มฤดูกาล 2024-25 ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นั่นเท่ากับว่าปัจจุบันยังเพิ่งผ่านต้นซีซั่นเท่านั้น ซึ่งพอถึงกุมภาพันธ์ ซิดนี่ย์ คงจะสมบูรณ์กว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งนั่นไม่ใช่ข่าวดีสำหรับ แบงค็อก สักเท่าใดนัก เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะยังจูนไม่ติดนั่นแหละ
โอกาสของ แบงค็อก?
ในรอบแบ่งกลุ่ม ซิดนี่ย์ คือทีมที่เจาะตาข่ายคู่แข่งได้มากที่สุดร่วมกับ ชาบ๊าบ อัล-อาลี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ด้วยจำนวน 17 ประตู แถมยังแพ้ต่อ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ ตัวแทนของญี่ปุ่น เพียงทีมเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือ พวกเขาฟาดชัยเรียบ
จากสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นหมายความว่า เดอะ สกาย บลูส์ คือหนึ่งในทีมเต็งของโซนเอเชียตะวันออก ซึ่งเป็นงานมหาหินของ แบงค็อก ที่อาจจะเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นรอง แต่ในโลกของฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ บียูเองก็เต็มไปด้วยผู้เล่นคุณภาพของทีมชาติไทย แถมโควตาแข้งนอกก็ถือว่าฟอร์มดีทั้งนั้น เหลือเพียงแค่แท็กติกของ ธชตวัน ศรีปาน จะพาทีมไปไกลได้มากที่สุดแค่ไหนเท่านั้น