เฮรวด100%! ทรู แบงค็อกฯ ยึดฝูงกลุ่มเอซีแอลเหนียว หลังบุกรัวแซงคิตฉี

เฮรวด100%! ทรู แบงค็อกฯ ยึดฝูงกลุ่มเอซีแอลเหนียว หลังบุกรัวแซงคิตฉี
รุ่งรัตน์ ภูมิจันทร์ทึก ควง วิลเล่น โมต้า ซัดคนละตุง พา ทรู แบงค็อกฯ แซงดับ คิตฉี เอสซี ถึงถิ่น 2-1 คว้าชัย 3 นัดติด มี 9 แต้ม ยึดจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ ศึกเอซีแอล ขณะที่ เจ้าบ้าน ยังไม่มีแต้ม จมบ๊วยกลุ่ม โดยนัดนี้ "แข้งเทพ"เหลือ 10 คนช่วงท้ายเกม หลัง บาสเซล จราดี้ โดนใบแดง แถม ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยังได้รับบาดเจ็บจนโดนเปลี่ยนตัวออกในน.20 อีกด้วย

ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ 

วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566

คิตฉี เอสซี 1-2 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 

 การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม โซนตะวันออก ประจำวันพุธที่ 25 ต.ค.2566 ที่สนามฮ่องกง สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. เป็นเกมของกลุ่ม เอฟ นัดที่ 3 ระหว่าง คิตฉี เอสซี ทีมจากฮ่องกง ที่ยังไม่มีแต้ม เปิดบ้านรับมือ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ชนะรวดมาสองเกมติด

 เพียงแค่ น.7 เป็นเจ้าถิ่นได้ประตูนำก่อนจากความผิดพลาดของ ปฏิวัติ คำไหม นายด่านแข้งเทพ ก่อนจะเป็น ยาค็อบ ยานต์สเชอร์ หัวหอกวัย 34 ปีชาวออสเตรีย ยิงประตูเข้าไปให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 ทว่าก่อนจบครึ่งแรก น.45+4 รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก จะมายิงประตูให้ทีมเยือนตามตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

 เข้าสู่ครึ่งหลังเป็นทีมเยือนแข้งเทพ มาได้ประตูพลิกนำ 2-1 จาก วิลเล่น โมต้า ที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด อย่างไรก็ตามใน น.84 ทีมเยือนแข้งเทพ เหลือ 10 คน จากจังหวะที่ บาสเซล จาร์ดี้ ไปเปิดปุ่มยันใส่ผู้เล่นคิตฉี เอสซี โดยผู้ตัดสินแจกใยเหลืองก่อนทีแรก ก่อนจะไปเช็ค VAR และเปลี่ยนคำตัดสินยกเลิกใบเหลือง และเปลี่ยนเป็นใบแดงทันที

 จบเกม คิตฉี เอสซี เปิดบ้านแพ้ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คน ไปด้วยสกอร์ 1-2 ทำให้ คิตฉี เอสซี แพ้รวด 3 เกมติดยังจมบ๊วยของกลุ่มเหมือนเดิม ส่วนพลพรรค "แข้งเทพ" ลงเตะ 3 นัดชนะรวด มี 9 แต้มเต็ม รั้งเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ โอกาสลิ่วรอบน็อกเอ้าท์ค่อนข้างสดใส

 สำหรับโปรแกรมนัดที่ 4 ของกลุ่ม เอฟ จะแข่งขันในวันพุธที่ 8 พ.ย.2566 โดย คิตฉี เอสซี ไปเยือน แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. ขณะที่อีกคู่ ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส (สิงคโปร์) เปิดบ้านดวล ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส (เกาหลีใต้) ที่สนามจาลันเบซาร์ สเตเดี้ยม เวลา 17.00 น


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport