ความสำเร็จในอดีต, สไตล์การเล่น, ผลงานในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก, โควตาต่างชาติ, เฮดโค้ช, นักเตะเด่นและผู้เล่นน่าจับตามอง นี่คือสิ่งที่ 'SIAMSPORT' ขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับคู่แข่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง ว็องต์โฟเร่ต์ โกฟุ เพิ่มมากยิ่งขึ้น!!
โดยศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ปเอช ระหว่าง บุรีรัมย์ กับ โกฟุ จะแข่งขันกันที่ เจไอที รีไซเคิ่ล อิ้งค์ สเตเดี้ยม ในวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2023 เวลา 17.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
[ 1 ] ความสำเร็จในอดีต
แม้ว่า ว็องต์โฟเร่ต์ โกฟุ จะไม่ได้เป็นสโมสรเบอร์ต้นๆ ของญี่ปุ่น ทว่าพวกเขาจัดอยู่ในหมวดทีมเก่าแก่ของแดนปลาดิบ เพราะก่อร่างมาตั้งแต่ปี 1965 หรือ 58 ปี ก่อนเลยทีเดียว
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือแชมป์ เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ ในฤดูกาล 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรกับการก้าวไปหยิบโทรฟี่อันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศได้อย่างเหลือเชื่อ เนื่องจากทัพอัศวินนักสู้อมตะอยู่ใน เจลีก 2 แถมอยู่อันดับ 18 จาก 22 ทีมอีกต่างหาก
นอกเหนือจาก เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ - โกฟุ เคยสัมผัสถ้วย เจลีก 2 ในฐานะแชมเปี้ยนมาแล้วเมื่อปี 2012 และนั่นเป็นเพียงเกียรติประวัติของพวกเขาในประเทศญี่ปุ่น และจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเหตุใดทีมฟุตบอลจึงกลายเป็น 'ความภาคภูมิใจแห่งจังหวัดยามานาชิ'
[ 2 ] สไตล์การเล่น
ว็องต์โฟเร่ต์ โกฟุ ก็คล้ายๆ กับทีมจากแดนอาทิตย์อุทัยที่เน้นเรื่องของระบบและวินัย แต่จะแตกต่างตรงที่เกมรับของทัพอัศวินนักสู้อมตะที่จะแน่นหนาเป็นพิเศษ เนื่องจากศักยภาพผู้เล่นอาจจะด้อยกว่าหลายๆ ทีมในประเทศ
ยิ่งการมาเล่นใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขายิ่งเน้นหนักกับการขันน๊อตเกมรับ เนื่องจากเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่ผ่านเข้ามาเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย
[ 3 ] ผลงานในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก
ว็องต์โฟเร่ต์ โกฟุ นั้นเป็นทีมที่ขึ้นๆ ลงๆ ระหว่าง เจลีก และ เจลีก 2 แถมเวลาอยู่ลีกสูงสุด อันดับที่ดีที่สุดก็คืออันดับ 13 ซึ่งเป็นโซนท้ายตาราง ดังนั้นเรื่องที่จะไปโลดแล่นในถ้วยเอเชีย จึงแทบจะตัดไปได้เลย
อย่างไรก็ตาม การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ เอ็มเพอร์เรอ์ส คัพ 2022 ด้วยการดวลลูกจุดโทษชนะ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ นั้นทำให้พวกเขาคว้าตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ซึ่งกลายเป็นหนแรกที่ทัพอัศวินนักสู้อมตะได้ผ่านมาเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้
นัดแรกของ โกฟุ ก็ทำได้ดีเกินคาด เมื่อบุกไปยันเสมอ เมลเบิร์น ซิตี้ ได้ถึงถิ่น 0-0 เก็บคะแนนแรก แถมยังทำ 'คลีนชีต' ได้อีกด้วย
[ 4 ] เฮดโค้ช
โยชิยูกิ ชิโนดะ เทรนเนอร์วัย 52 ปี และเป็นอดีตกองกลางระดับตำนานของ อาวิสปา ฟูกูโอกะ ก่อนจะผันตัวมาเป็นโค้ช และเคยคุมทีมใหญ่อย่าง เอฟซี โตเกียว และ ชิมิซึ เอส-พัลส์ มาแล้ว
เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือของ โกฟุ เมื่อต้นปี 2023 แทนที่ ทัตสึมะ โยชิดะ ที่พาทีมได้แชมป์ เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ แบบสุดมหัศจรรย์ แต่ด้วยความที่ผลงานในลีกย่ำแย่ จึงถูกปลดไป
ชิโนดะ เป็นโค้ชที่เด่นในเรื่องของแท็กติก เพราะเขามีความยืดหยุ่นสูง แม้ว่าจะมาจาก เจลีก 2 แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่งานง่ายที่ใครจะผ่านทัพอัศวินนักสู้อมตะไปได้ง่ายๆ
[ 5 ] โควตาต่างชาติ
ด้วยความที่ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023 นั้นปรับกฎใหม่ให้ส่งผู้เล่นต่างชาติลงได้ในโควตา 5+1 (นักเตะนอกทวีป 5 + นักเตะเอเชีย 1) ซึ่งทาง ว็องต์โฟเร่ต์ โกฟุ ก็มาครบตามจำนวน โดยมีรายชื่อดังนี้
- ปีเตอร์ อูทาก้า (กองหน้า, ไนจีเรีย) หัวหอกวัย 39 ปี แต่เจนจัดเวทีเอเชีย มากๆ เพราะมาหากินในแถบนี้ตั้งแต่ปี 2012 และฤดูกาลนี้กดไปแล้ว 11 ประตู ในลีก
- เกตูลิโอ (กองหน้า, บราซิล) แนวรุกฝีเท้าจัดจ้านที่ โกฟุ ยืมจาก ทอมเบนเซ่ มาตั้งแต่ฤดูกาล 2022 และผลงานดีจนต้องต่ออีกปี
- ลูกัส มาเชโด้ (ปีก, บราซิล) อีกหนึ่งแข้งแซมบ้าที่กระชากลากเลื้อยได้น่ากลัว อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้
- คริสเตียโน่ (กองกลาง, บราซิล) เพลย์เมเกอร์วัย 36 ปี ที่โชกโชนลีกญี่ปุ่น เพราะเล่นมาตั้งแต่ปี 2013 และเพิ่งย้ายมาอยู่กับ โกฟุ ในฐานะนักเตะยืมตัวจาก วี-วาเรน นากาซากิ
- เอดูอาร์โด้ มันชา (กองหลัง, บราซิล) เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่ง ภูผาหินของทีม และเป็นคีย์แมนสำคัญที่ทำให้แนวรับแข็งแกร่ง
- ไมเคิ่ล เวาด์ (นิวซีแลนด์) ผู้รักษาประตูทีมชาตินิวซีแลนด์ ถูก โกฟุ ยืมตัวจาก เกียวโต ซังงะ มาเฝ้าเสาในซีซั่น 2023 แต่ในลีกเป็นมือสองต่อจาก โคเฮ คะวาตะ
[ 6 ] นักเตะเด่น
โมโทกิ ฮาเซกาวะ มิดฟิลด์ห้องเครื่องของทีม ผู้โดดเด่นทั้งรับและรุก จนได้รับเบอร์ 10 อันหมายถึงหมายเลขใหญ่ที่มอบให้กับนักเตะระดับเสาหลักของทีมไปครองแบบไร้คู่แข่ง
ฤดูกาล 2023 เขาลงเล่นไปแล้ว 34 เกม ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดของทีม และนั่นบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าหมอนี่มีความสำคัญต่อ ว็องต์โฟเร่ต์ โกฟุ เพียงใด
[ 7 ] นักเตะน่าจับตามอง
ปีเตอร์ ยูทาก้า น้องชายแท้ๆ ของ จอห์น อูทาก้า แนวรุกชื่อดังของทีมชาติไนจีเรีย แม้ว่าปัจจุบันอาจจะอายุใกล้ 40 แต่ปฏิพานไหวพริบและความแข็งแรงของเขาไม่ได้ถดถอยลงไปเลย
หมอนี่เป็นหัวหอกประเภทบึกบึน อาจจะรูปร่าง 1.79 เมตร แต่แรงปะทะไม่ได้เป็นรองกองหลังตัวใหญ่ๆ เลย แถมยังจมูกไวในกรอบเขตโทษอีกด้วย