บุรีรัมย์ พร้อมหวด เจ้อเจียง ธีราทร หวังคว้าชัยประเดิมเอซีแอล

บุรีรัมย์ พร้อมหวด เจ้อเจียง ธีราทร หวังคว้าชัยประเดิมเอซีแอล
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดแรก “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดสนามบุรีรัมย์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ เจ้อเจียง เอฟซี ทีมแกร่งจากไชนีส ซูเปอร์ลีก ประเทศจีน ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 19 กันยายน 2566 ณ ห้องแถลงข่าวสนามบุรีรัมย์ สเตเดียม ได้มีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันของทั้ง 2 ทีม โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี อาเธอร์ ปาปาส หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมด้วย ธีราทร บุญมาทัน เข้าร่วม

โดย อาเธอร์ ปาปาส เปิดถึงความพร้อมว่า เผยว่า “เกมนี้ถือเป็นการเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ของเรา แน่นอนพวกเราตื่นเต้นมากกับการได้กลับมาเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง ทุกคนในทีมตื่นตัวกลับการแข่งขันสำคัญที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราก็ได้เตรียมตัวกันมาอย่างดี และต่อเนื่อง เกมนี้จะต้องเป็นเกมเริ่มต้นที่ดีของเรา เราได้เล่นในบ้านมีโอกาสสูงมากที่จะเก็บชัยชนะเป็นการประเดิมได้”

“ส่วนเรื่องความพร้อมของนักเตะนั้น ทีมเราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เราทำงานกันเป็นทีมต่อเนื่อง ทีมของเรานักเตะทุกคนพร้อมที่จะลงสนาม จะเห็นได้ว่าเกมในลีกล่าสุด เราก็มีการถอดผู้เล่นตตัวหลักออกมาพักบ้าง ซึ่งนักเตะของเราสามารถลงสนามทดแทนกันได้หมด” 

ส่วน ธีราทร บุญมาทัน เผยว่า “ทีมของเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมากสำหรับทุกการแข่งขัน ตอนนี้เราทุกคนโฟกัสมาที่การซ้อม และการเตรียมความพร้อมของนักเตะแต่ละคนให้พร้อมกับการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะเกิดขึ้นนัดแรกในวันพรุ่งนี้ พวกเราทุกคนเฝ้ารอการกลับมาได้ลงเล่นในฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชียอีกครั้ง และอยากที่จะคว้าชัยชนะให้ได้”

“เกมนี้ตัวผมเองเชื่อว่าทุกคนในทีมเรามีฝีมือ มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ผมว่าเกมที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีที่น้อง ๆ ดาวรุ่งจะได้โอกาสแสดงฝีมือ เพราะที่ผ่านมาเราทุกคนทำงานอย่างหนักตามแนวทางของทีม และการทำงานของโค้ช ก็อยากจะฝากแฟนบอลปราสสาทสายฟ้า ให้ช่วยกันมาเชียร์พวกเราเยอะๆ ด้วยครับ” 

สำหรับฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 23/24 กลุ่มเอช นัดเเรก ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  จะพบกับทีม เจ้อเจียง เอฟซี ทีมแกร่งจากไชนีส ซูเปอร์ลีก ประเทศจีน ในวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 คิกออฟเวลา 17.00 น. ถ่ายทอดสดผ่านทาง ทรู สปอร์ต 2 (กดช่อง 667)


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport