ประวัติศาสตร์ได้จารึกอีกครั้งกับยอดทีมแห่ง 'เฮียวโงะ' จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ ทางตอนใต้ของเกาะฮนชู หลังผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยพระจักรพรรดิ หรือที่รู้จักในรายการ "เอ็มเพอเรอร์ส คัพ" ซีซั่น 2024 ได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัล 150 ล้านเยน (ราว 33.5 ล้านบาท)
1. หน 2 ถ้วยพระจักรพรรดิ
รอบชิงชนะเลิศ วิสเซล โกเบ โคจรมาปะทะ กัมบะ โอซาก้า เจ้าของแชมป์ถ้วยใบนี้ถึง 4 สมัยในปี 2008, 2009, 2014, 2015 แต่สุดท้ายพลพรรค "วัวพันล้าน" รวมพลังอันสุดยอดเบียดชนะ "เจ้าเวหา" 1-0 จากประตูชัยของ ไทเซย์ มิยาชิโระ ในนาทีที่ 64 ของเกม
การซิวโทรฟี่ฟุตบอลถ้วยรายการใหญ่ที่สุดบนแดนอาทิตย์อุทัยในปี 2024 ส่งผลให้ วิสเซล โกเบ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 2019 ที่พวกเขาเคยทำได้มาแล้ว และที่สำคัญยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้น "ดับเบิลแชมป์" ในฤดูกาลนี้อีกด้วย
2. ปี 2024 ภารกิจยังไม่จบ
ปัจจุบันลูกทีมของ "ทาคายูกิ โยชิดะ" เฮดโค้ชวัย 47 ปี รั้งจ่าฝูงในศึกฟุตบอลเจลีก 1 โดยนำห่างอันดับ 2 อย่าง ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า อยู่ 3 แต้ม กับโปรแกรมที่เหลือ 2 นัดสุดท้าย ไปเยือน คาชิว่า เรย์โซล วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน และปิดจ็อบเปิดรังฉะ โชนัน เบลล์มาเร่ วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม
หากทัพ "วัวพันล้าน" ทำได้ จะเป็นการป้องกันแชมป์เจลีก 1 สมัยที่สองติดต่อกัน และจะเป็นการคว้า "ดับเบิลแชมป์" ทั้ง "เอ็มเพอเรอร์ส คัพ" และ "เจลีก 1" ทันที พร้อมประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า วิสเซล โกเบ เป็นสโมสรที่แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น
3. พร้อมต่อยอดล่าแชมป์
อดีตต้นสังกัดของ "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ที่เคยได้โอกาสไปค้าแข้งกับสโมสรแห่งนี้มาแล้วเมื่อปี 2018 สร้างความสำเร็จอย่างมากมายนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1966 จนมาถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง 58 ปีเต็มๆ เข้าให้แล้ว
หากนับความสำเร็จตั้งแต่วงการลูกหนังญี่ปุ่นก่อตั้งลีกฟุตบอลอาชีพขึ้นในปี 1992 เป็นต้นมา ปรากฏว่า วิสเซล โกเบ เคยนำโทรฟี่มาประดับไว้ที่สโมสรถึง 4 ใบ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ "เจลีก 1" ปี 2023, แชมป์ "เจแปนนิส ซูเปอร์ คัพ" ปี 2020 และแชมป์ "เอ็มเพอเรอร์ส คัพ" ปี 2019 กับปี 2024
4. ขอคารวะ "โค้ชโยชิดะ"
นอกเหนือจากได้ขุมกำลังนักเตะอันทรงพลังแล้ว คนที่ต้องยกความดีความชอบอีกหนึ่งคน คงหนีไม่พ้น "ทาคายูกิ โยชิดะ" กุนซือใหญ่ของทีม ที่เข้ามารับงานในปี 2022 แต่พริบตาเดียวลงกุมบังเหียนไปแล้ว 119 นัดทุกรายการ หรือ 3 ปีเต็ม สามารถเนรมิตแชมป์ให้ทีมไปถึง 2 ถ้วย
เท่ากับว่า "โค้ชโยชิดะ" ประสบความสำเร็จทั้งสมัยการเป็นนักเตะ เป็นแชมป์ "เอ็มเพอเรอร์ส คัพ" กับ โยโกฮาม่า ฟลูเกลส์ ในปี 1998 และแชมป์ "เจลีก 1" กับ โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ในปี 2000 และแขวนสตั๊คกับ วิสเซล โกเบ ในปี 2013 กระทั่งผันตัวมาเป็นโค้ช ก็ยังพาทีมสุดท้ายที่เขาเป็นพ่อค้าแข้งกวาดแชมป์ไปแล้วถึง 2 รายการ
5. ไปลุยถ้วยใหญ่เอเชียทางการ
การที่ วิสเซล โกเบ "เอ็มเพอเรอร์ส คัพ 2024" ทำให้พวกเขาการันตีไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชียที่ใหญ่ที่สุดอย่างรายการ "เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก" ระดับ อีลิท ในฤดูกาล 2025-26 แน่นอนแล้ว เพราะโควตาสโมสรของญี่ปุ่นในปี 2024 คือ 3 ทีมจาก "แชมป์เจลีก-รองแชมป์เจลีก-แชมป์เอ็มเพอเรอร์ส คัพ" ได้สิทธิ์ลงเล่นในรอบลีกสเตจ ทันที
อย่างไรก็ตามหากพวกเขายังสามารถคว้าแชมป์ "เจลีก 1" ได้อีก จะช่วยให้ทีมที่จบอันดับ 2 และอันดับ 3 ได้สิทธิ์ไปเล่น "เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก" ระดับ อีลิท ซีซั่น 2025-26 ทันที และทีมที่จบอันดับ 4 ก็จะได้สิทธิ์ลงเล่นถ้วยเล็กของเอเชีย "เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก" ระดับ TWO เช่นกัน
" กอล์ฟ เบนเทเก้ "