4 เหตุผลที่คุณห้ามพลาด "เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ ไทยแลนด์ 2022"

4 เหตุผลที่คุณห้ามพลาด "เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ ไทยแลนด์ 2022"
แม้จะเป็นห้วงเวลาที่ฟุตบอลลีกภายในประเทศยังห้ำหั่นกันอยู่ ทว่า เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ ไทยแลนด์ 2022 ก็เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง และนี่เหตุผลที่คุณควรจะมาชมเกมถึงสนาม!!

[ 1 ] ได้เห็นพัฒนาการของ ชนาธิป-สุภโชค แบบเต็มๆ

การที่ สุภโชค สารชาติ ย้ายไปเล่นให้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในช่วงกลางปี 2022 ทำให้ต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลญี่ปุ่น อยู่พอสมควร ทว่าผลงานการลงเล่นไป 7 เกม และทำไป 3 แอสซิสต์ ก็เป็นตัวเลขที่บ่งบอกชัดเจนว่าแนวรุกชาวศรีสะเกษ กำลังจะมีซีซั่นที่ดีกับคอนซะในฤดูกาลหน้า

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องของความเปลี่ยนแปลงของริมเส้นวัย 24 ปี คนนี้คือร่างกายที่บึกบึนขึ้นกว่าเก่า อีกทั้งสปีดบอลที่น้อยจังหวะ อีกทั้งการตัดสินใจในพื้นที่สุดท้ายของเขาก็ดูจะเฉียบขาดกว่าเดิม

ขณะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และขวบปีแรกกับแชมป์ เจลีก 4 สมัย ถือว่าไม่เลวร้ายนัก เพราะเขาลงสนามไป 16 เกม และมี 2 แอสซิสต์ ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเพลย์เมเกอร์ทีมชาติไทย ยังใหม่สำหรับระบบของ ฟรอนตาเล่ อีกทั้งร่างกายของเขาก็ไม่ได้พักอย่างเต็มที่ ทำให้ไม่สามารถสำแดงเดชได้สุดตัว

อย่างไรก็ตาม เวลานี้มิดฟิลด์ชาวนครปฐม จะได้ฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างเต็มเหนี่ยว เพราะไม่ได้เล่นให้ทัพช้างศึกในรายการ อาเซียน คัพ ซึ่งนั่นจะส่งผลดีต่อตัวเขาอย่างแน่นอน

ดังนั้นในศึก เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ ไทยแลนด์ 2022 - แฟนฟุตบอลชาวสยามประเทศจะได้เห็นฟอร์มของ ชนาธิป และ สุภโชค กันแบบจุใจอย่างแน่นอน

[ 2 ] แข้งระดับทวีปขนมาเพียบ

คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ คือสโมสรชั้นนำของญี่ปุ่น ในห้วงหลายปีหลังสุด - พวกเขามีผู้เล่นฝีเท้าดีมากมาย และด้วยความที่ เจลีก ได้รับการยอมรับในวงกว้างให้เป็น 'ลีกเบอร์ 1' ของเอเชีย ซึ่งนั่นหมายความว่าแฟนฟุตบอลชาวไทย จะได้ชมการเล่นของนักเตะระดับท็อปล้วนๆ

แม้ว่าจะไม่มีกัปตัน โชโกะ ทานิกูชิ และ มิกิ ยามะเนะ 2 แข้งที่ต้องไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกับทีมชาติ ทว่าพวกที่เหลืออยู่ก็เจ๋งๆ ทั้งนั้น

บรรดากลุ่มที่มีดีกรี 'ติดธง' ต่อท้าย ไล่ตั้งแต่ ชอง ซอง-รยอง (เกาหลีใต้, 67 นัด), ชินทาโระ คุรูมายะ (ญี่ปุ่น, 4 นัด), เรียวตะ โอชิมะ (ญี่ปุ่น, 7 นัด), ยู โคบายาชิ (ญี่ปุ่น, 14 นัด) 

ยาซูโตะ วากิซากะ (ญี่ปุ่น, 4 นัด), คาซูยะ ยามามูระ (ญี่ปุ่น, 1 นัด), อากิฮิโระ อิเอนากะ (ญี่ปุ่น, 3 นัด) และ เลอันโดร ดามิเยา (บราซิล, 17 นัด)

โดยเฉพาะ อิเอนากะ กับ วากิซากะ นั้นเพิ่งจะได้รับเลือกให้ติด 'ทีมยอดเยี่ยม' ประจำซีซั่น 2022 ไปหมาดๆ 

ทั้งหมดนี้คือรายนามผู้เล่นที่ผ่านการคว้าแชมป์ เจลีก มาแล้วทั้งสิ้น 

ขณะที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อาจจะมีนักเตะดีกรีทีมชาติน้อยกว่า แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไร้แข้งดีกรีธรรมดา 

ผู้เล่นของทัพคอนซะชุดปัจจุบันที่เคยมีชื่อติดทีมชาติก็มีไม่น้อย เริ่มจากฝั่งญี่ปุ่น - ชินจิ โอโนะ, ไดกิ ซูงะ, ชุนตะ ทานากะ, ไดโกะ นิชิ, ชินโซ โคโรกิ และเกาหลีใต้ 1 เดียว อย่าง คิม กึน-ฮี

เรียกได้ว่าแฟนฟุตบอลชาวไทย จะได้จุใจไปกับเหล่านักเตะที่มาตรฐานการเล่นสูงลิ่วทั้งนั้น

[ 3 ] ถ่านไฟเก่า เจลีก ร้อนระอุ

ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน คือ 2 ผู้เล่นไทย ที่เคยไปเล่นใน เจลีก มาแล้ว

เริ่มจากศูนย์หน้าของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ย้ายจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปโลดแล่นที่ญี่ปุ่น อยู่ 2 ห้วงเวลา คือ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ (2018) กับ ชิมิซึ เอส-พัลส์ (2020)

อย่างไรก็ตาม ตลอดห้วงเวลาที่เขาค้าแข้งที่ญี่ปุ่น หัวหอกวัย 34 ปี ไม่เคยเอาชนะ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ได้เลย 

สำหรับ ธีรศิลป์ และ บีจี ปทุม จะปะทะ  ฟรอนตาเล่ ในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2022 เวลา 17.00 น. 

ฟากของ ธีราทร ที่ปัจจุบันกลับมาเล่นกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นถือเป็นผู้เล่นไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงใน เจลีก เพราะได้แชมป์ร่วมกับ โยโกฮามะ มะรินอส เมื่อฤดูกาล 2019

ฟูลแบ็กฝั่งซ้ายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ย้ายจาก เมืองทอง ไปญี่ปุ่น โดยเขาเริ่มต้นกับ วิสเซล โกเบ เคียงข้างซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง ลูคัส โพดอลสกี้ และ อันเดรียส อีเนี้ยสต้า ในปี 2018 ก่อนจะย้ายไปเถลิงบัลลังก์ที่ มารินอส

สำหรับ ธีราทร และ บุรีรัมย์ จะลงห้ำหั่นกับ ซัปโปโร ในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2022 เวลา 19.00 น. 

ดังนั้นนี่คือศึกที่อดีตแข้งสยามที่เคยไปสร้างชื่อที่ญี่ปุ่น จะได้กลับมาเจอะกับทีมดังของ เจลีก อีกครั้ง ในสถานะและสโมสรที่เปลี่ยนไป

[ 4 ] นักเตะไทย ใครฟอร์มดี มีสิทธิ์ตะลุย เจลีก

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เจลีก คือลีกที่นักเตะไทย ใฝ่ฝันว่าสักวันจะต้องไปผจญภัยที่นั่นให้ได้

ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ต่างก็ได้โอกาสไปโลดแล่น ณ ดินแดนอาทิตย์อุทัย

แน่นอนว่าการเปิดโควตา 'อาเซียน' ย่อมเป็นผลบวกทั้งกับ เจลีก เองที่จะได้เพิ่มมูลค่าทางการตลาด ขณะที่นักเตะจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็จะมีโอกาสไปพัฒนาฝีเท้าที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีมาตรฐานสูงเป็นเบอร์ต้นๆ ของทวีป

แม้ว่า เจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ ไทยแลนด์ 2022 จะเป็นรายการอุ่นเครื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าบรรดา 'แมวมอง' จากเมืองซามูไรจะไม่ชายตาผู้เล่นสัญชาติไทย ที่ฟอร์มเข้าเค้าพอจะอิมพอร์ตสู่แดนปลาดิบได้

ดังนั้นจึงเชื่อได้เลยว่าบรรดานักเตะของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คงจะต้องโชว์ผลงานให้ดีที่สุด เพราะมันหมายถึง 'โอกาส' ที่จะได้ไปเฉิดฉายใน เจลีก นั่นเอง


ที่มาของภาพ : siamsport, gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport