EXCLUSIVE:ทีมชาติญี่ปุ่น : ความฝัน ความหวัง"แชมป์บอลโลก2050"

EXCLUSIVE:ทีมชาติญี่ปุ่น : ความฝัน ความหวัง"แชมป์บอลโลก2050"
5 สิ่งที่อยากบอกกับแฟนบอลหลังได้ชมพิพิธภัณฑ์ สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ที่ตั้งเป้าคว้าแชมป์บอลโลก 2050

สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสบุกแดนอาทิตย์อุทัย จากการเป็นหนึ่งในทีมงาน SIAMSPORT พาผู้โชคดีที่สมัครแพ็กเกจรายฤดูกาล ราคา 599 บาท เพื่อรับชมฟุตบอลเจลีกฤดูกาล 2024 บน AIS PLAY ช่อง SIAMSPORT ไปดูบอลเจลีกคู่ ‘อุราวะ เรดส์’ พบ ‘ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร’ พร้อมพาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น

แต่หนึ่งในสถานที่ประทับใจคือ การได้ไปชมพิพิธภัณฑ์ของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น หรือ JFA ที่ย่านโตเกียว โดม ซิตี้ และสัมผัสได้ถึงอารมณ์ร่วม ตลอดจนแรงบันดาลใจมากมาย กับประวัติศาสตร์วงการลูกหนังแดนปลาดิบ

นี่คือ 5 สิ่งที่อยากบอกกับแฟนบอลทุกคน!

พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น

1. ปลูกผังเด็ก แต่ไม่บังคับ

พวกเขามีการ ‘ปลูกฝัง’ เด็กๆ เรียนรู้ฟุตบอลตั้งแต่ 4 ขวบ แบบ ‘ไม่บังคับ’ เปิดให้เด็กลองเล่นดูก่อน เสมือนให้ฟุตบอล คือสนามเด็กเล่นแห่งหนึ่งเท่านั้น ถ้าชอบก็ต่อยอดไปได้ แต่หากไม่ชอบก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น ผู้ปกครองรับรู้ และต้องการให้ลูกหลานได้ทำในสิ่งที่ตนเองถนัดที่สุด

ในคลาสการเรียน เด็กๆ ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อทีมฟุตบอล หรือแต่งตัวให้อยู่ในระเบียบฟุตบอล คุณสามารถใส่ชุดอะไรมาก็ได้ ชุดอยู่บ้าน ชุดไปเที่ยว เพราะสิ่งสำคัญคือการได้ลองเล่นกับลูกฟุตบอลว่า ชอบหรือไม่ชอบ ส่วนเรื่องฝึกระเบียบวินัยจะไปในด้านอื่นมากกว่า

พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น

2. ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ ‘จริง’

ที่ JFA มีการตกแต่งชั้นเลิศ มีการวางโซนอย่างหมดจด อาทิ โซนอาหาร, โซนผู้ปกครอง, โซนสินค้าที่ระลึก, โซนคลาสฝึกฟุตบอล โดยเฉพาะโซนพิพิธภัณฑ์ความสำเร็จของฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นทั้งทีมชาย และทีมหญิง ‘นาเดชิโกะ เจแปน’ แถมยังมีเทคโนโลยี AI มาช่วยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแขกผู้มาเยือนอีกด้วย

ไทม์ไลน์ประวัติศาตร์ฟุตบอลญี่ปุ่น ในระดับทีมชาติเริ่มตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา พร้อมกับสิ่งของที่ประดับโชว์เป็นหอเกียรติยศ เช่น เสื้อแข่งตามยุคสมัย, ลูกฟุตบอล, รองเท้าสตั๊ค, ถ้วยรางวัลต่างๆ หรือเหรียญรางวัลที่เคยได้ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นการจุดไฟให้กับเด็กๆ หรือแข้งเยาวชนที่มาดู และเกิดความคิดต้องการก้าวขึ้นไปติดทัพ ‘ซามูไรบลูส์’ ในอนาคต

พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น

3. รากฐานฟุตบอลลีกที่ทรงพลัง

นอกจากนี้ ยังเล่าเรื่องราวของวงการฟุตบอลลีก เกิดขึ้นได้อย่างไร มี 10 สโมสรแรกที่ร่วมกันก่อตั้งฟุตบอลลีกอาชีพ หรือ ‘เจลีก’ ขึ้นมาครั้งแรกในปี 1993 มีทีมใดบ้าง จนมาถึงปัจจุบันฟุตบอลลีกกลายเป็นเบอร์ต้นๆ ชั้นนำของทวีปเอเชียไปแล้ว พร้อมกับส่งออกนักเตะเจลีกไปยุโรป และประสบความสำเร็จอย่างมากมายด้วย

เท่านั้นไม่พอ ยังมีลีกฟุตบอลหญิงอย่าง ‘WE LEAGUE’ ที่สร้างรากฐานสุดแกร่ง จนส่งผลให้ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น คว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกมาแล้วเมื่อปี 2011 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งพวกเขาทำได้อย่างไร ก็ได้มีการอธิบายบอกถึงจุดเริ่มต้น และความพยายามต่างๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่แปลกใจว่าผู้ที่ไปศึกษาประวัติที่ JFA ได้ทั้งความรู้ และความฝันอันยิ่งใหญ่กลับไปอย่างมากมาย

พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น

4. ฝันใหญ่กับโปรเจ็กต์ Dream!

ก่อนหน้านี้ ทีมชาติญี่ปุ่น ทะลุเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 7 ครั้งติดต่อกัน หนแรกคือปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส และในปี 2002 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้ สามารถผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นประวัติศาสตร์ และนับจากนั้น ‘ซามูไรบลูส์’ จึงผุดโปรเจ็กต์ตั้งความฝัน และความหวังครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที

แชมป์ฟุตบอลโลก ภายในปี 2050!! อาจเป็นเรื่องขำของใครหลายคน ทีมระดับเอเชีย จะไปต่อกรกับทีมจากยุโรป หรืออเมริกาใต้ได้อย่างไร แต่เมื่อดูจากการวางรากฐานของญี่ปุ่น ที่พยายามสร้างทุกอย่างตั้งแต่ความยั่งยืนของฟุตบอลทัองถิ่น จนถึงปัจจุบันเป้าหมายของพวกเขา ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน

พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น

5. ไป ‘เวิลด์คัพ’ 8 ครั้งติด

ถึงแม้กีฬาอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น อาจไม่ใช่ ‘ฟุตบอล’ แต่เป็น ‘เบสบอล’ อย่างไรก็ดีความนิยมตอนนี้ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ด้วยผลงานของทีมชาติญี่ปุ่นที่กำลังดีวันดีคืน ทั้งในระดับฟุตบอลลีกในประเทศ ต่อยอดสู่ระดับทีมชาติ ที่ผ่านเข้ารอบ 3 คัดบอลโลก 2026 ด้วยผลงานสุดท้ายเฉียบในรอบสอง 6 นัด ชนะรวด เก็บ 18 แต้มเต็ม แถมยิงคู่แข่ง 24 ลูก โดยไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว!

เชื่อว่าในรอบ 3 ที่จะเริ่มเตะในเดือนกันยายนนี้ และจะไปจบในเดือนมิถุนายนปีหน้า สาวก ‘ซามูไรบลูส์’ คงจะเกาะติดตามเชียร์ในทุกๆ ที่แน่นอน เพื่อให้ทีมจารึกเข้าสู่รอบสุดท้ายเวิลด์คัพ 8 ครั้งติด และไปลุ้นต่อด้วยการสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นหนแรกนั่นเอง

"กอล์ฟ เบนเทเก้"พิพิธภัณฑ์สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport