ปรากฏการณ์แห่งวงการฟุตบอล ณ แดนอาทิตย์อุทัย ศึกเจลีก 2022 ที่ขับเคี่ยวเกมตกค้างอย่างสนุก ทว่าทีมจ่าฝูงโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ดันพลาดท่าอมบ๊วยติดคอพ่าย จูบิโล อิวาตะ คารังนิสสัน สเตเดี้ยม ไปแบบช็อคแฟนบอล "กะลาสี" ด้วยสกอร์ 0-1
สวนทางกับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ที่โชว์ผลงานอันเร่าร้อนต่อเนื่อง เปิดบ้านทุบ เกียวโต ซังงะ 3-1 เกมนี้ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์สายเลือดไทยวัย 29 ปี จัดแอสซิสต์ที่ 2 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ให้กับขุนพล "โลมามหากาฬ" อีกด้วย
เท่ากับว่าสถานการณ์ลุ้นแชมป์เจลีกตอนนี้ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ยังมี 62 แต้มเท่าเดิม ขณะที่คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ มีเพิ่มเป็น 60 แต้ม เท่ากับว่าตามหลังเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น กับโปรแกรมที่เหลือเตะอีก 2 นัดสุดท้าย
2 แมตช์สุดท้ายของมารินอส ประกอบด้วย วันเสาร์ที่ 29 ต.ค.65 เปิดบ้านพบ อุราวะ เร้ดส์ และปิดท้ายวันเสาร์ที่ 5 พ.ย.65 บุกเยือน วิสเซล โกเบ ส่วน 2 เกมสุดท้ายของฟรอนตาเล่ วันเสาร์ที่ 29 ต.ค.65 เปิดรังดวล วิสเซล โกเบ และปิดท้ายบุกเยือน เอฟซี โตเกียว
ถึงตรงนี้ความกดดันเชื่อว่าเป็นฝ่ายจ่าฝูงมารินอสมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้พวกเขามีโอกาสทิ้งคะแนนห่างอยู่พอสมควร แต่ดันพลาดเองแพ้รวดสองเกมติด จึงส่งผลให้ทีมของ "เจ-ชนาธิป" กับมามีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ในการลุ้นป้องกันแชมป์เจลีกอีกครั้งในช่วง 2 นัดสุดท้ายต่อจากนี้
หากถึงตอนปัจฉิมบท มารินอสดันได้แค่รองแชมป์ บอกคำเดียวว่าไม่ต้องโทษใคร ต้องโทษตัวเองล้วนๆที่ดันทำพัง นำฝูงมาอย่างยาวนานแต่มาตกม้าตายในฉากสุดท้าย การคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ต่อจากปี 1995, 2003, 2004, 2019 ก็คงต้องรอต่อไป
ส่วนฝั่งฟรอนตาเล่ ไม่มีอะไรที่ต้องกดดันทั้งสิ้น เพราะก่อนหน้าได้แต่เป็นทีมที่ไล่ตามมาเรื่อยๆ และเชื่อเถอะว่าพวกเขาก็ไม่คิดว่าจะตามมาติดๆแบบนี้ในช่วงท้ายซีซั่น แต่พอมาเป็นแบบนี้ บอกเลยว่าบรรดานักเตะโลมามหากาฬไฟกำลังติด ความมุ่งมั่น ความทะเยอทะยาน ที่อยากจะคว้าแชมป์เจลีก 3 สมัยติดต่อกัน คงจุติ ณ บัดนี้
อดีตแชมป์เจลีก 4 สมัยในปี 2017, 2018, 2020, 2021 ยังคงต้องทำตามโจทย์ที่กำหนดคือ 2 นัดท้ายต้อง 6 แต้มเท่านั้น และไปลุ้นให้มารินอสสะดุดตัวเองล้มลงอีกครั้ง ทว่าหากพวกเขาดันสะดุดเสียเอง เท่ากับว่าที่ผ่านมาแทบหมดความหมาย และลุ้นแชมป์ปีนี้ก็คงจะจบลงในนัดรองสุดท้ายช่วงปลายเดือนนี้ทันที
เอาเป็นว่าแฟนบอลชาวไทย ต่างดีใจที่ได้เห็น "เจ-ชนาธิป" หายเดี้ยงคัมแบ็กลงสนามกลับมาช่วยฟรอนตาเล่ในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้ และที่สำคัญสถิติของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นไปอีกกับการค้าแข้งบนลีกสูงสุดประเทศญี่ปุ่น
โดยสถิติของดาวเตะชาว จ.นครปฐม นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งเมื่อปี 2017 กับฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และย้ายมาสู่คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เจ้าของสมญานาม "เมสซี่เจ" ลงสนามไปแล้วทั้งสิ้น 131 นัด ยิงไป 14 ประตู และทำไป 23 แอสซิสต์
กับเกมที่เหลืออีก 2 นัดสุดท้าย ขอฝากแฟนบอลชาวไทย พร้อมใจกันส่งแรงใจ แรงเชียร์ ให้นักเตะไทยคว้าแชมป์เจลีกเป็นคนที่สองในประวัติศาสตร์ต่อจาก "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ที่เคยได้กับโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เมื่อปี 2019 กันด้วย!
" กอล์ฟ เบนเทเก้ "