หากพูดถึงผู้ที่ปิดทองหลังพระในวงการฟุตบอลเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ชื่อของ "ทิซัง" ทิวาพล สังขพันธ์ ล่ามคนไทย คงจะถูกพูดถึงจากแฟนบอลชาวไทยเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน จากการที่เคยทำให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ประสบความสำเร็จมาแล้วสมัยเล่นให้กับฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เมื่อปี 2017 จนถึงปี 2021
อีกทั้งในปัจจุบัน "ทิซัง" กำลังสนับสนุนและช่วยเหลืออีกหนึ่งแข้งไทยอย่างเต็มที่นั่นคือ สุภโชค สารชาติ ที่กำลังเดินตามรอยรุ่นพี่ชนาธิป สรงกระสินธ์ ให้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอล "นกเค้าแมวแดนเหนือ" อีกด้วย
เรามาดูกันว่าความรู้สึกของ "ทิซัง" จะเป็นแบบไหน รวมทั้งเป้าหมายของฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ไปดูบทสัมภาษณ์เปิดใจแบบหมดเปลือกของ "ทิซัง" กันเลยครับ
Q : การเป็นล่ามประจำตัวให้กับ "สุภโชค" มีความยาก หรือง่าย แตกต่างจาก "ชนาธิป" อย่างไร ?
A : "ด้วยบุคลิก และลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน เช็ค อาจจะเป็นคนเงียบๆ เป็นคนไม่ค่อยไปไหน ในขณะที่ เจ อาจจะเป็นคนที่สนุกสนาน ร่าเริง ในช่วงแรกๆ การปรับตัวในการเข้าหากัน ก็มีค่อนข้างเยอะครับ เพราะว่ากว่าที่จะจูนหากันติด มันก็ต้องรู้ใจกันในระดับนึงก่อน แต่พอมันจูนกันติด การที่ เช็ค อาจจะดูเป็นเหมือนคนเงียบๆ พอเริ่มสนิทกัน ก็เริ่มคุยกันมากขึ้น มันก็เลยทำงานด้วยกันง่ายขึ้น"
Q : เมื่อช่วงย้ายมาร่วมทีมซัปโปโรใหม่ๆ ของ "เช็ค" นะครับ โอกาสลงสนามของ "เช็ค" น้อยมากแตกต่างกับ "ชนาธิป" ย้ายมาแรกๆ ตรงจุดนี้ พี่ทิมีวิธีกระตุ้น ให้กำลังใจ หรือสอนอะไรน้องบ้าง ?
A : "วิธีการจากผม ผมจะเป็นคนกลั่นกรองจากเพื่อน คือเวลาเรารู้สึกไม่สบายใจ เราจะคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอสุขภาพจิตก็ตาม หรือว่าโค้ชก็ตาม ที่เราพยายามอยากจะรู้ว่า ต้องกระตุ้นนักฟุตบอลของเราคนนึงมันควรจะต้องทำยังไง พอคุยแล้วมันก็ได้มุมมองหลายๆ อย่าง กับ เช็ค เนี่ย ผมก็จะบอกกับ เช็ค ง่ายๆ ว่า ถ้าคุณทำไม่ได้ในแบบที่โค้ชต้องการ ก็คือก็ไม่ได้ลง ถ้าคุณไม่วิ่งเกมรับ ก็ไม่ได้ลง คุณจะเอายังไง จะนั่ง หรือจะลง ทุกอย่างสิ่งที่มันแสดงออกในสนามอ่ะครับ มันคือสิ่งสำคัญ ดังนั้นเนี่ยมันก็เลยต้องกระตุ้นน้องในเรื่องพวกนี้ เพราะว่า เช็ค อาจจะอยู่ในไทยที่อาจจะไม่ต้องเล่นเกมรับเยอะ แต่พอมาอยู่ญี่ปุ่น ก็จะต้องวิ่งรับ-รุก อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเนี่ย Mentality (ทัศนคติ) พวกนี้มันอาจจะต้องเป็นสิ่งที่จะต้องใส่ให้กับน้องครับ"
Q : แล้วในส่วนของโค้ช "มิช่า" แนะนำ "สุภโชค" ยังใงในตอนที่ย้ายมาร่วมทีมในช่วงแรก ?
A : "มาช่วงแรกเนี่ยจับวิ่ง จับมือวิ่งเลยนะ เพื่อให้รู้ว่า Timing (จังหวะ) ไหนควรจะลงมา Timing ไหนควรจะกลับไป ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเนี่ย เป็นสิ่งที่ทำให้เช็ค เช็ค เท่าที่ผมคุยในช่วงแรก เช็ค จะมี Conflict (ความขัดแย้ง) นิดนึงกับทีมว่า ทำไมต้องวิ่งเยอะขนาดนี้ อะไรอย่างนี้ครับ แต่พอสุดท้ายแล้ว พอไม่วิ่ง คือไม่วิ่งช่วย ก็ไม่ได้ลง มันก็จะเป็นคำตอบ เขาเรียกว่าอะไร มันเป็นคำตอบที่ อุ้ม (ธีราทร) เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าทำตามสิ่งโค้ชต้องการไม่ได้ มันก็ไม่ได้ลง ดังนั้นเนี่ยน้องๆ ที่หลังจากนี้จะมาญี่ปุ่นอ่ะครับ มันเป็นสิ่งสำคัญมากว่า คุณจะสามารถตอบสนองในสิ่งที่โค้ชต้องการได้มากน้อยขนาดไหน"
Q : แล้วก่อนหน้านี้ที่ "สุภโชค" ยิงประตูแรกของตัวเอง (ในเจลีก) ที่เป็นเหมือนประตูปลดล็อค แล้วหลังจากนั้นน้องยิงอีก 2 ประตู เป็น 3 ประตูไปแล้วตอนนี้ พี่ทิคิดว่าสิ่งที่ทำให้ "เช็ค" สามารถทำผลงานได้ดีแบบนี้ มาจากสิ่งใด ?
A : "ผมว่า (เป็นเพราะ) โอกาส เช็ค เขารอโอกาสมาโดยตลอด และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมรอ และคุยกับ เช็ค มาโดยตลอดว่า ถ้าคุณมีโอกาส คุณต้องทำให้ได้ เพราะว่าโอกาสพวกนี้มันไม่ได้มีเยอะ มันก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ เช็ค ในทุกๆ ครั้งที่ เช็ค ลงไปพยายามจะเต็มที่ในทุกครั้ง เพื่อให้ทุกอย่างมันตอบโจทย์กับโค้ช กับทุกอย่าง กับผลการแข่งขันของทีม มันก็เลยเป็นภาพที่ในทุกๆ ครั้งที่เขาลงไป เขาเต็มที่ตลอด เหมือนอย่างเกมพบกับ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ อาจจะถูกเปลี่ยนตัวออกมา 45 นาที (หลังจบครึ่งแรก) แต่อันนั้นมันเป็นเรื่องแท็กติกครับ เช็ค ก็เข้าใจได้ ซึ่งคือ เขาเรียกว่าอะไรนะ เราก็ต้องมองภาพของโค้ชด้วยว่า เขาคิดอะไรอยู่ในช่วงนั้น ซึ่งตอนนี้ผมว่า เช็ค กับทีมค่อนข้างเข้ากันได้ดีมากๆ"
Q : ซึ่งไม่ว่า "เช็ค" จะเป็นตัวสำรองอย่างก่อนหน้านี้ หรือว่าตัวจริง พี่ทิ บอกอะไรน้องก่อนที่ ทุกครั้งที่น้องจะได้เป็นตัวจริงก่อนที่จะลงสนาม ในแต่ละนัด ?
A : "ผมจะบอกกับ เช็ค เสมอไม่ว่าจะเป็นตัวจริงตัวสำรอง ในการลงแต่ละครั้งผมจะบอกคำเดียวคือ "ยิง ยิง ยิงเท่านั้น" แล้วจะเป็นคำตอบ แล้ว เช็ค ก็ทำได้แล้ว พอมันทำได้มันก็ตอบโจทย์ไปทุกอย่าง"
Q : ทีนี้ครับ การขาดหายไปของ ทาคุโระ คาเนโกะ จะส่งผลกับการเล่นอย่างไรของ ซัปโปโร แล้วก็ส่งผลอย่างไรกับตัว "สุภโชค" บ้าง ?
A : "ถ้าเป็นมุมมองผมก็คือว่าอย่าง "เรียวตะ" เรียวตะ เขาก็จะเป็นตัวที่เล่นได้ทั้งปีก ได้ทั้ง Shadow (กองหน้าตัวต่ำ) ซึ่งถ้าสมมติวันนึงที่ปีกอาจจะเจ็บก็ได้ อันนี้เราก็ตอบไม่ได้ เรียวตะ ก็อาจจะถูกดึงไปเล่นปีกก็ได้ ส่วน เช็ค ก็อาจจะอยู่ในตำแหน่งของเขา ซึ่งตอนนี้ในแง่ของการแข่งขันที่มันเกิดขึ้นในทีมนะครับ เช็ค เป็นคนที่โค้ชค่อนข้างชอบ ในแง่ของการวิ่งรุก-รับช่วยทีมมากกว่าคนอื่น ดังนั้นเนี่ยผมก็คิดว่า เช็ค ก็จะยังมีโอกาสต่อไปหลังจากนี้ เพราะว่าตอนนี้เริ่มเป็นตัวจริง มันเริ่มตอบโจทย์ของโค้ช โค้ชคุยมากขึ้น คือ Momentum (แนวโน้ม) ของเช็ค ช่วงนี้มันเปลี่ยนไปเยอะมาก"
Q : ก่อนหน้านี้ พี่ที่ มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ "ชนาธิป" เป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ติดทีมยอดเยี่ยม เจลีก ทีนี้ พี่ทิ คิดว่าจะมีวิธีอย่างไรที่จะทำให้ "สุภโชค" ไปได้ไกลกว่า ?
A : "คือผมบอก เช็ค ง่ายๆ ว่า เช็ค ปีนี้คือปีนี้ผมตั้งเป้ากับ เช็ค ไว้ง่ายๆ เลยว่า ผมขอ 10 ลูก (ประตู) และถ้าปีนี้ 10 ลูกได้ แค่นั้นพอ แล้วเดี๋ยวปีหน้ามันจะดีกว่านี้อีก ดั้งนั้นเนี่ย Best Eleven (11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม) หรืออะไรก็ตาม คือมุมมองของผมคือ ผลการแข่งขันมันค่อนข้างสำคัญ ถ้ามันทำให้ เช็ค ยิงได้ ทำให้ทีมไปไกลได้ ทุกอย่างมันจะไปด้วยกันหมดเป็นระบบ ซึ่งถ้าพอมันถึงจุดนั้น อย่างปีนี้ผมตั้งเป้ากับ เช็ค ไว้ว่า 10 (ประตู) ปีหน้าอาจจะเป็น 15 ก็ได้ หรือ 20 ก็ได้ เราตอบไม่ได้ แต่ถ้าผมมองภาพว่า เช็ค ยิงได้ 20 ลูก ทีมมันก็ต้องไปไกลอีกระดับนึงแล้ว ดังนั้น Best Eleven ก็ง่ายครับ"
Q : กับการที่ พี่ทิ เคยได้ดูแล "ชนาธิป" มา คิดว่า พี่ทิ จะนำสิ่งใดจากตอนที่ดูแล "ชนาธิป" มาแนะนำให้กับ "สุภโชค" ในช่วงที่ค้าแข้งกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ?
A : "คือ เจ เป็นคนที่ดีมากๆ ในแง่ของการเล่นนะครับ เป็นตัวรุกตัวนึง แต่สิ่งที่ เจ อาจจะขาดไปเรื่องนึงก็คือ คือเรื่องของจังหวะการยิงประตู อาจจะมีแอสซิสต์ที่ดี แต่ว่า เจ อาจจะไม่ค่อยกล้ายิง เกรงใจเพื่อน แต่สิ่งที่ เช็ค มีก็คือ เช็ค อาจจะไม่ค่อยได้เกรงใจขนาดนั้น มันก็เลยเป็นภาพที่ผมมองว่า เช็ค ก็อาจจะเป็นอีกคนนึงที่จะประสบความสำเร็จได้ที่นี่ เพราะว่าสุดท้ายแล้ว ฟุตบอล ถ้ายิงประตูได้ ทุกอย่างมันจะเคลียร์หมด คือ แอสซิสต์ มันก็ดี แต่เพียงแค่ว่า แอสซิสต์ มันจะไม่ทำให้เราดัง แต่ถ้าเรายิงได้ มันจะทำให้เราเติบโต และมันก็เป็น Mentality (ทัศนคติ) ที่ผมคุนกับ เช็ค อยู่โดยตลอดว่า คุณลงไป คุณยิงนะ ทำยังไงก็ได้ให้มีประตู แล้วเดี๋ยวปลายปีเรามาดูกัน เงินเดือนคุณจะขึ้นเท่าไร อะไรยังไงเดี๋ยวว่ากัน"
Q : ขอถามเกี่ยวกับตัว พี่ทิ บ้าง Passion (แรงผลักดัน) หรือเป้าหมาย ในการเป็นล่ามนักฟุตบอลอาชีพของ พี่ทิ คืออะไร ?
A : "เป้าหมายของผมก็คือว่า คือผมเป็นคนที่ดูแลคนครับ ดังนั้นเนี่ยมูลค่าทุกอย่างในการสร้าง เจ มา ในการที่เคยอยู่กับ เจ หรือในการที่อยู่ เช็ค ก็ตาม เจ อาจจะเคยมีมูลค่าประมาณนึง แต่ Passion (แรงผลักดัน) ของผมก็คือว่า ถ้า เจ อยู่ประมาณนี้ ผมอยากให้ เช็ค อยู่อีกประมาณนึง เพื่อสร้าง Value (คุณค่า) ในสิ่งที่เราเคยทำมาแล้ว ให้มันมากขึ้นไปอีก ซึ่งตอนนี้ก็กำลังดูแลน้องอยู่"
Q : จากประสบการณ์ของ พี่ทิ สิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นล่ามนักฟุตบอล คืออะไร ?
A : "เราต้องเป็นทุกอย่างให้กับเขาให้ได้ เป็นทั้งพี่ เป็นทั้งผู้จัดการ เป็นทั้งหมอสุขภาพจิต ต้องเป็นทุกอย่างให้กับเขาได้ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้เนี่ย ถ้าเราขาดคนที่อยู่รอบด้านเรา เราปรึกษาไม่ได้ หรือว่าอะไรแบบนี้ มันจะยากมาก ในแง่ของการทำงาน ผมยังโชคดีที่มีคนรอบข้างที่มันพอปรึกษาได้ เวลาเรารู้สึกว่า เราจะบอกน้องยังไงดีในช่วงที่น้องไม่ได้ลง ผมก็อาจจะมีโค้ชที่ผมรู้จัก ก็คุยกับเขา หรือเพื่อนผมที่เป็นหมอสุขภาพจิต ก็ไปถามเขา แล้วผมก็จะนำมาประมวล แล้วก็ (คิดว่า) จะคุยยังไง ดังนั้นเนี่ย คือเราต้องเป็นมากกว่า ล่าม คือเป็นแค่นี้มันไม่ได้ มันต้องเป็นทุกอย่างของน้อง"
Q : ในปีหน้าทาง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มีแพลนจะดึงนักเตะไทยคนอื่นไปร่วมทีมอีกไหม ?
A : "คือตอนนี้เรามี เช็ค แล้ว ด้วยสัญญาที่มันก็อยู่กันอีกยาวๆ เราก็คงจะสร้างน้อง (เช็ค) ให้ไปไกลที่สุดก่อน แล้วเดี๋ยวอนาคตค่อยว่ากันดีกว่า"
Q : เอกนิษฐ์ ปัญญา อีกหนึ่งนักเตะไทย ที่ไปเจลีก กับ อุราวะ เรดส์ ในมุมมองของ พี่ทิ มีความรู้สึกอย่างไร ?
A : "ในมุมมองของผม ผมรู้สึกดีนะครับ ที่มีนักฟุตบอลไทยมา แต่ว่าสิ่งนึงที่น้องต้องต่อสู้กับการมาอยู่ญี่ปุ่น เพราะว่า บุ๊ค (เอกนิษฐ์) ก็เคยมาซ้อมแล้ว ผมว่า บุ๊ค รู้อยู่แล้วว่าอะไรที่จะต้องเจอ ดังนั้นความยากของสิ่งเหล่านี้เนี่ย เหมือนกับ เช็ค ก็เหมือนกัน เช็ค ใช้เวลาปรับตัวค่อนข้างนาน กว่าที่จะเติบโตมาจนถึงวันนี้นะครับ บุ๊ค ก็เหมือนกัน สัญญาครึ่งปี ผมอยากให้ใช้เวลาครึ่งปีตรงนี้ ปรับสภาพร่างกายตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อให้ทีมเขาเห็น และหลังจากนี้เพื่อให้เขาซื้อเรา (ไปร่วมทีม) เป็นนักเตะของเขา แล้วก็เติบโตไปเรื่อยๆ ดังนั้นครึ่งปีนี้เนี่ย ค่อนข้างสำคัญสำหรับ บุ๊ค มากๆ เพราะว่าการสร้างร่างกาย มันต้องใช้เวลาเยอะมาก"
Q : ฝากให้กำลังใจ “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญาหน่อยครับ ?
A : "โอ้... ให้กำลังใจครับ สู้ๆ"
ศึกฟุตบอลเจลีก ประเทศญี่ปุ่น จากนี้ไปเชื่อว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งแน่นอน โดยเฉพาะการมาของ เอกนิษฐ์ ปัญหา ดาวเตะป้ายแดงของสโมสรอุราวะ เรดส์ ยอดทีมแห่งจังหวัดไซตามะ ที่ยืมตัวมาจากทีมพันธมิตรลูกหนังเมืองทอง ยูไนเต็ด สดๆร้อนๆ ด้วยสัญญา 6 เดือน พร้อมอ็อปชันขยายต่อ
งานนี้แฟนบอลชาวไทยจะได้ร่วมส่งแรงใจ แรงเชียร์ ให้กับผู้เล่นคนไทยทั้งสองคน วาดลวดลายบนลีกลูกหนังอันดับหนึ่งของทวีปเอเชียกันยาวๆ !
"กอล์ฟ เบนเทเก้"