หลังจากรอคอยมาอย่างใจจดใจจ่อ สุดท้ายก็สมใจแฟนบอลชาวไทยได้เสียที เพราะ สุภโชค สารชาติ จัดการยิงประตูแรกของตัวเองบนเวทีเจลีก ลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จเสียที นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในเดือนพฤษภาคม ปี 2022 หรือปีที่ผ่านมา
ประตูดังกล่าวเป็นเกมที่ทัพ ซัปโปโร ออกไปเยือน โชนัน เบลล์มาเร่ ในแมตช์ที่ 13 ของศึก เจลีก เมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 "เจ้าเช็ค" ลงสนามในฐานะตัวสำรอง ในนาทีที่ 63 ของเกม และเป็นคนซัดประตูปิดกล่อง ที่ต้องบอกว่าสวยงามสุดๆ
โดยเป็นจังหวะที่เขาได้บอลแถวเส้นกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปั่นโค้งๆ ด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบเสาไกลไปอย่างงดงาม ในนาทีที่ 87 ของเกม ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะ โชนัน เบลล์มาเร่ ไปได้ 4-2 แบบสุดมันเลยทีเดียว
สถิติการลงสนามของ "เจ้าเช็ค" ในสีเสื้อ "นกเค้าแมวเมืองเหนือ" รวมทุกรายการบวกกับเกมล่าสุดที่ทีมเปิดรังชนะ เกียวโต ซังงะ 2-1 ในวันศุกร์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เขาลงเล่นไปทั้งหมด 15 นัด รวม 341 นาที ทำไป 3 ประตู กับ 4 แอสซิสต์
แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนจะมาถึงจุดที่ทำประตูแรกในศึกเจลีกได้ เด็กหนุ่มจากจังหวัดศรีสะเกษคนนี้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะเรื่องความอดทน เพราะช่วงที่ผ่านมาหากนับเฉพาะในเวทีเจลีก "เจ้าเช็ค" ยังไม่เคยได้มีโอกาสออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแม้แต่เกมเดียว
สาเหตุดังกล่าวมีที่มาที่ไป ซึ่งทาง "ทิซัง" ทิวาพล สังขพันธ์ ล่ามคู่กายเจ้าเช็ค บอกว่า ณ ตอนนี้ เช็คยังมีปัญหาเรื่องสปีดบอล พละกำลัง รวมทั้งความฟิตที่ยังไม่ถึงตามความต้องการของทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช โดยเฉพาะความดุดันในเกมที่ยังไม่ค่อยกล้าเข้าปะทะเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามข้อดีของเจ้าเช็ค คือการทุ่มเทฝึกซ้อมที่ใส่เต็มร้อยทุกครั้ง ทำประตูในสนามซ้อมอยู่ตลอดเวลาจน "มิช่า" ต้องออกปากชมเสมอ ซึ่งหากว่าเขาก้าวข้ามอุปสรรคนั่นคือ ภาพจำเดิมๆ จากการเล่นในไทยลีกไปได้ เชื่อว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นคุณภาพของทีมแน่นอน
และอีกเหตุผลที่แฟนบอลไทยหลายคนคงจะสงสัย จากหลายๆเกมที่ผ่านมา บางนัดซัปโปโรสกอร์นำคู่แข่งค่อนข้างห่าง แต่เหตุใดเจ้าเช็ค กับไม่ค่อยได้โอกาสลงช่วงท้ายเกม แต่ในทางกลับกันบางเกมทีมกำลังตามหลัง แต่เลือกส่งเจ้าเช็คลงสนามอยู่บ่อยครั้ง
เรื่องนี้เป็นเพราะว่า "โค้ชมิช่า" ต้องการปิดเกมช่วงที่ทีมนำขาด จึงไม่จำเป็นต้องส่งตัวรุกลงไปเพิ่ม โดยทีมงานโค้ชซัปโปโรมองว่า เจ้าเช็คจะมีประโยชน์โดยเฉพาะการเป็นตัวพลิกสถานการณ์ให้กับทีม มากกว่าตอนลงสนามช่วงที่ทีมสกอร์นำขาดนั่นเอง
อีกประการในเรื่องของคู่แข่งแย่งชิงตำแหน่งโดยตรงของเจ้าเช็ค คงหนีไม่พ้น เรียวตะ อาโอกิ ดาวเตะตัวหลักวัย 27 ปี ที่เหนือกว่าเจ้าเช็คตรงที่อาโอกิ สามารถโยกมาเล่นริมเส้นได้ และพละกำลังที่ดุดันตลอดเกม 90 นาที รวมถึงเทคนิคการเปิดบอลที่มีความแม่นยำกว่า ถือเป็นโจทย์สำคัญที่เจ้าเช็คต้องผ่านตรงนี้ไปให้ได้
โดยก่อนหน้าที่จะถึงแมตช์ประตูประวัติศาสตร์ในเจลีก "เจ้าเช็ค" มีโอกาสลงสนามในเจลีกซีซั่นนี้เพียงแค่ 3 นัด หรือแค่ 31 นาทีเท่านั้น แถมก่อนหน้านี้แม้จะมีชื่อเป็นตัวสำรอง แต่ก็ไม่ได้ถูกส่งลงสนามถึง 3 เกมติดต่อกัน
แต่ด้วยความมุ่งมั่น และมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวเกินร้อย จนกระทั่งได้รับโอกาสจากโค้ชมิช่า "เจ้าเช็ค" ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ก่อนจะตอบแทนด้วยผลงานในสนาม พร้อมจัดการทำประตูปิดกล่องต่อหน้าโค้ชมิช่า ที่ไว้ใจในตัวเขาลงสนามทันที
ซึ่งเหตุผลที่มิช่าส่งเจ้าเช็คลงสนามในเกมดังกล่าว ด้วยโมเมนตั้มของเกมนั้นที่ทีมกำลังตามหลังคู่แข่ง จึงจำเป็นต้องส่งนักเตะตัวรุกที่เลี้ยงกินตัวได้ และมีเทคนิคที่แพรวพราวลงไปปั่นป่วนคู่แข่ง และช่วยเปลี่ยนเกมให้ทีมกลับมากุมความได้เปรียบให้มากที่สุด
ขณะที่ปฏิกิริยาแฟนบอลซัปโปโร ก็ได้ออกมาเรียกร้องเช่นกันว่า อยากเห็นเจ้าเช็คได้ลงสนามมากกว่าเดิม แน่นอนว่าเรื่องนี้ ทาง "มิช่า" ก็ได้รับรู้ถึงความต้องการของแฟนบอลอยู่แล้วเช่นกัน เพราะว่า "มิช่า" ก็ได้ตามอ่านคอมเมนต์แฟนบอลตลอดอยู่แล้วเช่นกัน
จากนี้ไปเชื่อว่า สุภโชค สารชาติ ที่ปลดล็อกในสิ่งที่ตัวเองต้องการลงไปเป็นที่เรียบร้อย น่าจะคลายความกดดันลงไปอย่างมากเลยทีเดียว และคาดว่าต่อจากนี้ไป มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือใหญ่ซัปโปโร จะให้โอกาส "เจ้าเช็ค" ได้ลงสนามมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
ถึงตรงนี้สภาพร่างกายของ "เจ้าเช็ค" พร้อมแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยที่เขาต้องปรับอย่างเช่น เรื่องสมาธิ เรื่องการลงมาช่วยเกมรับ รวมถึงจังหวะการเพรสซิ่งคู่แข่ง แต่สิ่งเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากเขาได้รับโอกาสลงเล่นบ่อยๆ
โดยเฉพาะเกมสำคัญในศึกฟุตบอลถ้วยลูวานคัพ วันพุธที่ 24 พ.ค.นี้ ซึ่งซัปโปโรจะเปิดรังพบกับมารินอส เชื่อว่าจะเป็นโอกาสสำคัญ และอาจเป็นจุดชี้วัดของ "เจ้าเช็ค" เลยว่า หากเขาทำผลงานได้ดีในเกมนี้ อาจจะต่อยอดได้ลงสนามในเจลีกมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้
ฝากแฟนบอลชาวไทย ช่วยส่งแรงใจ แรงเชียร์ ให้กับดาวเตะสายเลือดสยามรายนี้ ให้โชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อเนื่อง
หวังว่าในครึ่งปีหลัง "เจ้าเช็ค" จะพัฒนาฝีเท้า ได้ออกสตาร์ตตัวจริงสม่ำเสมอ เพื่อก้าวขึ้นสู่แกนหลักที่ขาดไม่ได้ในถิ่นซัปโปโร โดม ตามรอยรุ่นพี่อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เคยทำไว้สมัยค้าแข้งกับซัปโปโร เมื่อช่วงเลกสองปี 2017 ถึงปี 2021 นั่นเอง
"กอล์ฟ เบนเทเก้"