เผลอแป๊ปเดียวปฏิทินปีกระต่าย เดินทางเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนที่อบอวลไปด้วยการแสดงถึงความรัก แต่ก็หมายความว่าใกล้เข้ามาแล้วกับลีกฟุตบอลแดนอาทิตย์อุทัย ในฤดูกาลใหม่ 2023
นับจากตรงนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น แฟนบอลชาวไทยเตรียมที่จะได้ชม และเชียร์ศึกเจลีก 1 ที่จะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งในซีซั่นใหม่ แถมจะมีความเข้มข้นเขี้ยวลากดินมากกว่าปีก่อนๆอย่างแน่นอน
เพราะในปี 2023 ฝ่ายจัดการแข่งขันลีกอาชีพของญี่ปุ่น จะเปลี่ยนกฏโดยเฉพาะทีมที่จะต้องตกชั้น ที่จะร่วงเพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น เนื่องจากในปี 2024 จะมีการเพิ่มจำนวนทีมจาก 18 เป็น 20 ทีมโม่แข้งในซีซั่นถัดไปนั่นเอง
เกมนัดเปิดสนามที่น่าดูเหลือเกิน หลังจากโปรแกรมคู่แรกอย่างเป็นทางการ เป็นการโคจรมาดวลกันระหว่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ทีมของ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในฐานะรองแชมป์เก่า ได้เปิดรังคาวาซากิ โทโดโรกิ สเตเดี้ยม ดวลกับแชมป์เก่า โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในวันศุกร์ที่ 17 ก.พ.นี้ เวลาไทย 17.00 น.
อย่างที่ทราบปี 2022 น่าเสียดายที่ต้นสังกัดของดาวเตะชาวไทยวัย 29 ปี พลาดโอกาสป้องกันแชมป์เจลีก 3 ครั้งติดต่อกัน หลังพลาดทำแต้มห่างกับ "มารินอส" ที่ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดไปเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้นเอง
อีกหนึ่งทีมที่แฟนบอลชาวไทยต้องติดตามตลอดทั้งฤดูกาล 2023 คือการเชียร์ "เช็ค" สุภโชค สารชาติ แนวรุกดีกรีทีมชาติไทยอีกคน ที่หวังประสบความสำเร็จกับฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร หลังช่วงปิดซีซั่นที่ผ่านมาได้รับสัญญาอยู่ถาวร 5 ปีเต็มๆ
โดยพลพรรค "นกเค้าแมวเมืองเหนือ" ของดาวเตะวัย 24 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ รายนี้ จะมีคิวประเดิมสนามในวันเสาร์ที่ 15 ก.พ.นี้ ซึ่งจะยกพลบุกไปเยือน ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ที่สนามเอดิออน สเตเดี้ยม ฮิโรชิม่า เวลาไทย 12.00 น.
คาดว่าหลายคนคงอยากติดตามอีกหนึ่งทีม นั่นคือทีมน้องใหม่ที่เพิ่งคว้าแชมป์เจลีก 2 ได้ในซีซั่นที่แล้วอย่าง โยโกฮาม่า เอฟซี ที่ได้นักเตะทีมชาติเวียดนามอย่าง "เหงียน คอง เฟือง" มาร่วมทัพ คงน่าสนุกหากนึกภาพยามโคจรมาดวลกับ 2 ทีมของแข้งไทย ในศึก "อาเซียนดาร์บี้"
เชื่อเหลือเกินว่าตลอดปี 2023 ความสนุก ดุเดือด เร้าใจชนิดไม่มีใครยอมแพ้ใคร คงจะทำให้ลีกลูกหนังแดนอาทิตย์อุทัย ที่ถูกยกให้เป็นลีกคุณภาพอันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย จะทำให้แฟนบอลชาวไทยรับชมมากขึ้นกว่าปีก่อนๆเป็นแน่
และเหมือนเช่นเคย แฟนลูกหนังชาวแดนสยามเมืองยิ้มทุกคน จะได้ติดตามการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง Siamsport Youtube Channel ที่ยังคงรับหน้าที่เสิร์ฟความมันส์ให้แฟนๆได้รับชม เช่นเดียวกับข่าวสารแวดวงบอลญี่ปุ่น ที่อัดแน่นเนื้อหาครบครันทางเว็บไซต์ และเพจเฟซบุ๊ก Siamsport
" กอล์ฟ เบนเทเก้ "