นับเป็นการออกสตาร์ตเส้นทางในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ไม่สวยหรูเอาซะเลยสำหรับ เชลซี หลังจากพวกเขาออกไปแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ ทีมดังของโครเอเชีย 0-1 ตั้งแต่นัดแรกของการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี เมื่อวันอังคารที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าความปราชัยนัดนี้ทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีม เชลซี ต้องเจอกับแรงกดดันมากขึ้นตามไปด้วย หลังเดิมทีกระแสความไม่พอใจในตัวเขาภายในกลุ่มแฟนบอล เชลซี ก็มีสูงในระดับหนึ่งอยู่แล้ว โดยผลการแข่งขันที่ออกมาแบบนี้มันทำให้เกิดเกร็ดที่น่าสนใจตามมาเช่นกัน
ไม่อบอุ่นเหมือนตอนอยู่บ้าน
ต้องบอกว่าตอนนี้ เชลซี กำลังมีปัญหากับการเล่นนอกบ้านอย่างหนัก โดยในฤดูกาลปัจจุบันพวกเขาลงเล่นเกมเยือนไปแล้ว 4 นัดในทุกรายการ ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการชนะแค่เกมเดียว นั่นคือเกมลีกที่เฉือน เอฟเวอร์ตัน 1-0 และนั่นก็เป็นเกมเยือนนัดแรกของพวกเขาในซีซั่นนี้ด้วย ส่วน 3 นัดต่อมาเป็นการแพ้ทั้งหมด ไล่จากวันที่พ่าย ลีดส์ 0-3 ในลีก, เกมแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-2 ในลีก ก่อนจะมาถึงนัดล่าสุดกับ ซาเกร็บ
ด้วยเหตุนี้ นี่เลยนับเป็นครั้งแรกที่ เชลซี ในยุคของ ทูเคิ่ล พบกับความปราชัยในฐานะทีมเยือน 3 นัดติดต่อกันหากนับรวมทุกรายการ ส่วนสำหรับ เชลซี เองนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2020 ที่พ่ายเกมเยือน 3 นัดรวดแบบนี้ โดยสมัยนั้นกุนซือของพวกเขาคือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ส่วน 3 เกมที่แพ้มันเกิดขึ้นในลีกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนัดพ่าย เอฟเวอร์ตัน 0-1, เกมแพ้ วูล์ฟส์ 1-2 และนัดที่ปราชัยต่อ อาร์เซน่อล 1-3
ไม่เหนียวเท่าช่วงแรก
เกมเมื่อวันอังคารที่ผ่นามาถือเป็นการคุม เชลซี ลงเล่นนัดที่ 100 ในทุกรายการของ ทูเคิ่ล พอดี โดยช่วง 50 นัดแรกกับการทำงานของเขานั้น เชลซี มีเกมรับที่รัดกุมสุดๆ หลังจากเสียไปเพียง 24 ประตูเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 50 นัดต่อมาเกมรับของ เชลซี พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะพวกเขาเสียประตูไปรวมแล้วถึง 53 ลูกด้วยกัน โดยฤดูกาลนี้ทีมของ ทูเคิ่ล ก็เพิ่งเก็บคลีนชีทได้เพียงนัดเดียวด้วย จากการลงเล่นทั้งหมด 7 นัดในทุกรายการ
เปิดตัวไม่สวยอีกครั้ง
ด้วยความที่เป็นทีมใหญ่ เชลซี เลยได้สัมผัสกับเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาหลายฤดูกาลด้วยกัน ซึ่งนี่ถือเป็นเพียงครั้งที่ 3 ที่พวกเขาเปิดหัวในศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" ด้วยความปราชัย
สำหรับครั้งแรกนั้น เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2013-14 โดยตอนนั้น เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ถูกจับไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับ ชาลเก้ 04, เอฟซี บาเซิ่ล และ สเตอัว บูคาเรสต์ แต่พวกเขาก็พลาดท่าแพ้ บาเซิ่ล คารัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ 1-2 ตั้งแต่นัดแรก
หนที่สองที่พวกเขาเปิดตัวได้แย่ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก คือซีซั่น 2019-20 ที่ทีมของ แลมพาร์ด ต้องมาอยู่ร่วมกลุ่มกับ บาเลนเซีย, อาแจ็กซ์ อมัสเตอร์ดัม และ ลีลล์ โดยในนัดแรกของกลุ่ม เชลซี ได้เปิดบ้านเจอกับ บาเลนเซีย แต่พวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ 0-1
ถึงกระนั้น มันก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง เพราะในทั้ง 2 ครั้งที่ว่า เชลซี สามารถคืนฟอร์มจนผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ทั้งหมด โดยในซีซั่น 2013-14 พวกเขายังเป็นแชมป์ของกลุ่มได้ก่อนจะไปตกรอบรองชนะเลิศด้วยฝีมือของ เรอัล มาดริด ส่วนซีซั่น 2019-20 เชลซี เข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม แต่ก็ต้องจอดป้ายในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากการแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยสกอร์รวม 1-7
เด็กเกร็ดบอล