ระบบลีกเฟสยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถูกวิจารณ์ว่าไม่ยุติธรรม หลังลิเวอร์พูลจ่าฝูงต้องเจอ เปแอสเช ตั้งแต่รอบ 16 ทีม แต่เมื่อมอง 4 ทีมรอบรองฯ กลับพบว่า “ความสม่ำเสมอ” ในลีกเฟสยังมีน้ำหนักอยู่ไม่น้อย
เสียงบ่นของลิเวอร์พูลอาจสะท้อนความเจ็บปวดหลังตกรอบเร็วในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ระบบ "ลีกเฟส" รูปแบบใหม่ที่ถูกตั้งคำถามเรื่องความยุติธรรม กำลังค่อย ๆ เผยให้เห็นว่า ทีมที่มีฟอร์มสม่ำเสมอยังได้รับรางวัลในระยะยาว
ก่อนหน้านี้ แฟนหงส์แดงตั้งคำถามว่า "จบอันดับ 1 แล้วได้อะไร?" หลังจากลิเวอร์พูลทำผลงานยอดเยี่ยมในรอบลีกเฟส แต่กลับต้องจับสลากไปเจอของแข็งอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งจบอันดับต่ำกว่า นำมาซึ่งข้อครหาเรื่องความไม่เป็นธรรมของระบบใหม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากรอบรองชนะเลิศ UCL ฤดูกาลนี้ กลับพบว่า 3 ใน 4 ทีม ที่หลุดเข้ารอบ — บาร์เซโลนา, อาร์เซน่อล, อินเตอร์ มิลาน — ล้วนจบใน 4 อันดับแรกของลีกเฟส ขณะที่ เปแอสเช เองก็เข้ารอบในฐานะทีมที่ล้มจ่าฝูงได้ด้วยฟอร์มสุดแกร่ง
เทรนด์นี้ไม่ได้เกิดเฉพาะใน UCL เท่านั้น
ยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้ก็เช่นกัน — แอธเลติก บิลเบา, แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส ต่างจบลีกเฟสในตำแหน่งท็อป 4 และกรุยทางเข้ารอบรองฯ ได้สำเร็จ ขณะที่อีกหนึ่งทีมอย่าง โบโด/กลิมท์ ก็พลิกล็อกเขี่ย ลาซิโอ (แชมป์ลีกเฟส) ร่วงด้วยการดวลจุดโทษ
ในคอนเฟอเรนซ์ ลีก ทีมอย่าง เชลซี (อันดับ 1) และ ฟิออเรนติน่า (อันดับ 3) ก็ยังยืนระยะมาถึงรอบรองฯ ได้อย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีเซอร์ไพรส์จาก เบติส และ เยอร์การ์เด้น ที่ล้มทีมอันดับสูงกว่าในรอบก่อนหน้ามาได้ก็ตาม
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ระบบลีกเฟสไม่ได้ "ไร้น้ำหนัก" อย่างที่หลายคนเคยวิจารณ์
ตรงกันข้าม มันกำลังให้รางวัลกับทีมที่รักษามาตรฐานตลอดเส้นทาง แม้การจับสลากจะยังมีความไม่แน่นอนแทรกอยู่ก็ตาม
ฟุตบอลคือกีฬาที่โหดร้ายในแง่ของผลลัพธ์ แต่ก็เป็นเวทีที่ให้โอกาสกับ “ทีมที่พร้อมในทุกด้าน” อย่างแท้จริง
และบางครั้ง...เสียงบ่น ก็อาจเป็นเพียงเสียงสะท้อนจากความคาดหวังที่ไม่สมหวังเท่านั้น