ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2024/25 ได้ 4 ทีมสุดท้ายครบแล้ว นำโดย อาร์เซน่อล ลุ้นคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก เจอศึกหนักกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ขณะที่ อินเตอร์ มิลาน ดวลเดือด บาร์เซโลน่า โดยรอบตัดเชือกเตะ 29-30 เม.ย. และ 6-7 พ.ค. ชิงดำที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า 31 พ.ค. นี้
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 ตอนนี้เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย หลังจบการแข่งขันเลกสอง รอบ 8 ทีมสุดท้าย อีกสองคู่ เมื่อคืนวันพุธที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งสุดท้ายก็ไร้ปาฏิหาริย์สำหรับแชมป์เก่าอย่าง เรอัล มาดริด ที่โดน อาร์เซน่อล สอยทั้งในและนอกบ้าน ส่วนทีมจ่าฝูง ลา ลีกา, จ่าฝูง เซเรีย อา และ จ่าฝูง ลีก เอิง ที่การันตีคว้าแชมป์เรียบร้อย ต่างอยู่บนเส้นทางทั้งหมด และนี่คือ 4 ทีมที่เหลือ ซึ่งเตรียมลุยกันต่อในรอบตัดเชือกถ้วย "บิ๊ก เอียร์ส"
* อาร์เซน่อล (อังกฤษ)*
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 3 : 19 แต้ม ชนะ 6, เสมอ 1, แพ้ 1)
- เสมอ อตาลันต้า (เยือน) 0-0
- ชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เหย้า) 2-0
- ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (เหย้า) 1-0
- แพ้ อินเตอร์ มิลาน (เยือน) 0-1
- ชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (เยือน) 5-1
- ชนะ อาแอส โมนาโก (เหย้า) 3-0
- ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ (เหย้า) 3-0
- ชนะ จีโรน่า (เหย้า) 2-1
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
- ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เยือน) 7-1
- เสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เหย้า) 2-2
(รวมสองนัด ชนะ 9-3)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- ชนะ เรอัล มาดริด (เหย้า) 3-0
- ชนะ เรอัล มาดริด (เยือน) 2-1
(รวมสองนัด ชนะ 5-1)
"ไอ้ปืนใหญ่" ภายใต้การนำทัพของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า เล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้แบบมาดีเกินคาด เพราะจนถึงตอนนี้เพิ่งปราชัยแค่นัดเดียวเท่านั้น จากทั้งหมด 12 เกม แถมรอบล่าสุดปราบแชมป์เก่าด้วยสกอร์รวมขาดลอยด้วย
----------
บาร์เซโลน่า (สเปน)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 2 : 19 แต้ม ชนะ 6, เสมอ 1, แพ้ 1)
- แพ้ อาแอส โมนาโก (เยือน) 1-2
- ชนะ ยัง บอยส์ (เหย้า) 5-0
- ชนะ บาเยิร์น มิวนิค (เหย้า) 4-1
- ชนะ เซอร์เวนา ซเวซดา (เยือน) 5-2
- ชนะ แบรสต์ (เหย้า) 3-0
- ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยือน) 3-2
- ชนะ เบนฟิก้า (เยือน) 5-4
- เสมอ อตาลันต้า (เหย้า) 2-2
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
- ชนะ เบนฟิก้า (เยือน) 1-0
- ชนะ เบนฟิก้า (เหย้า) 3-1
(รวมสองนัด ชนะ 4-1)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เหย้า) 4-0
- แพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยือน) 1-3
(รวมสองนัด ชนะ 5-3)
ถึงแม้ผ่านรอบก่อนรองฯ แบบมีเสียวเล็กน้อย แต่ก็ต้องยอมรับว่า ฤดูกาลนี้ บาร์ซ่า ของกุนซือ ฮันซี ฟลิค มาดีจริงๆ และกำลังอยู่บนเส้นทางลุ้น "ทริปเปิลแชมป์" ด้วย
----------
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 4 : 19 แต้ม ชนะ 6, เสมอ 1, แพ้ 1)
- เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) 0-0
- ชนะ เซอร์เวนา ซเวซดา (เหย้า) 4-0
- ชนะ ยัง บอยส์ (เยือน) 1-0
- ชนะ อาร์เซน่อล (เหย้า) 1-0
- ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก (เหย้า) 1-0
- แพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยือน) 0-1
- ชนะ สปาร์ตา ปราก (เยือน) 1-0
- ชนะ อาแอส โมนาโก (เหย้า) 3-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
- ชนะ เฟเยนูร์ด (เยือน) 2-0
- ชนะ เฟเยนูร์ด (เหย้า) 2-1
(รวมสองนัด ชนะ 4-1)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- ชนะ บาเยิร์น มิวนิค (เยือน) 2-1
- เสมอ บาเยิร์น มิวนิค (เหย้า) 2-2
(รวมสองนัด ชนะ 4-3)
"งูใหญ่" ของกุนซือ ซิโมเน อินซากี แชมป์ 3 สมัย และรองแชมป์เมื่อสองฤดูกาลก่อน เข้ามาถึงรอบตัดเชือกด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเกมรับที่เพิ่งเสียแค่ 5 ประตูเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยสุดในทัวร์นาเมนต์
----------
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 15 : 13 แต้ม ชนะ 4, เสมอ 1, แพ้ 3)
- ชนะ จีโรน่า (เหย้า) 1-0
- แพ้ อาร์เซน่อล (เยือน) 0-2
- เสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เหย้า) 1-1
- แพ้ แอตเลติโก มาดริด (เหย้า) 1-2
- แพ้ บาเยิร์น มิวนิค (เยือน) 0-1
- ชนะ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (เยือน) 3-0
- ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า) 4-2
- ชนะ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท (เยือน) 4-1
เพลย์ออฟ
- ชนะ แบรสต์ (เยือน) 3-0
- ชนะ แบรสต์ (เหย้า) 7-0
(รวมสองนัด ชนะ 10-0)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
- แพ้ ลิเวอร์พูล (เหย้า) 0-1
- ชนะ ลิเวอร์พูล (เยือน) 1-0
(รวมสองนัด เสมอ 1-1 ก่อนชนะดวลจุดโทษ 4-1)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- ชนะ แอสตัน วิลล่า (เหย้า) 3-1
- แพ้ แอสตัน วิลล่า (เยือน) 2-3
(รวมสองนัด ชนะ 5-4)
ทีมของกุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาถึงรอบตัดเชือกเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้พวกเขามุ่งหวังที่จะไปถึงรอบชิงฯ ให้ได้ หลังจากที่ซีซั่นก่อนโดน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อัดแบบไป-กลับ
----------
ประกบคู่รอบรองชนะเลิศ
- อาร์เซน่อล (อังกฤษ) พบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
- บาร์เซโลน่า (สเปน) พบ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
ทั้งนี้ ทีมที่ขึ้นต้นจะได้เตะในบ้านนัดแรก ซึ่งคู่ของ อาร์เซน่อล กับ เปแอสเช จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 29 เมษายน ขณะที่คู่ บาร์ซ่า ดวล อินเตอร์ จะเตะวันพุธที่ 30 เมษายน ส่วนนัดสองจะฟาดแข้งในช่วงวันที่ 6 และ 7 พฤษภาคม โดยรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี วันที่ 31 พฤษภาคม
Subinho