ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 ก้าวผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ทราบผลการแข่งขันอีกสี่คู่ เมื่อคืนวันพุธที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา และนี่คือ 8 ทีมที่จะได้ลุยต่อในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งยังอุดมไปด้วยท็อปทีมอย่าง บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค รวมถึง เรอัล มาดริด ที่เป็นแชมป์เก่า
* อาร์เซน่อล (อังกฤษ)*
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 3 : 19 แต้ม ชนะ 6, เสมอ 1, แพ้ 1)
- เสมอ อตาลันต้า (เยือน) 0-0
- ชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เหย้า) 2-0
- ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (เหย้า) 1-0
- แพ้ อินเตอร์ มิลาน (เยือน) 0-1
- ชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (เยือน) 5-1
- ชนะ อาแอส โมนาโก (เหย้า) 3-0
- ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ (เหย้า) 3-0
- ชนะ จีโรน่า (เหย้า) 2-1
รอบ 16 ทีม
- ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เยือน) 7-1
- เสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เหย้า) 2-2
(รวมสองนัด ชนะ 9-3)
"ไอ้ปืนใหญ่" ภายใต้การนำทัพของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มาดีทีเดียวในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ โดยพวกเขาผ่านรอบ ลีก เฟส ด้วยการคว้าอันดับสาม จากการเร่งฟอร์มคว้าชัยรวดสี่เกมสุดท้าย ก่อนโค่น พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น สบายๆ ในรอบ 16 ทีม
----------
แอสตัน วิลล่า (อังกฤษ)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 8 : 16 แต้ม ชนะ 5, เสมอ 1, แพ้ 2)
- ชนะ ยัง บอยส์ (เยือน) 3-0
- ชนะ บาเยิร์น มิวนิค (เหย้า) 1-0
- ชนะ โบโลญญ่า (เหย้า) 2-0
- แพ้ คลับ บรูช (เยือน) 0-1
- เสมอ ยูเวนตุส (เหย้า) 0-0
- ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก (เยือน) 3-2
- แพ้ อาแอส โมนาโก (เยือน) 0-1
- ชนะ เซลติก (เหย้า) 4-2
- รอบ 16 ทีม
- ชนะ คลับ บรูช (เยือน) 3-1
- ชนะ คลับ บรูช (เหย้า) 3-0
(รวมสองนัด ชนะ 6-1)
"สิงห์ผงาด" ไม่ได้มาเล่นๆ กับการคัมแบ็กรายการนี้หนแรกในรอบกว่าสี่ทศวรรษ เพราะจนถึงตอนนี้ถือว่ามาได้ไกลเกินคาดจริงๆ และในรอบน็อกเอาต์แบบนี้ อูไน เอเมรี ถนัดเสียด้วย
----------
บาร์เซโลน่า (สเปน)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 2 : 19 แต้ม ชนะ 6, เสมอ 1, แพ้ 1)
- แพ้ อาแอส โมนาโก (เยือน) 1-2
- ชนะ ยัง บอยส์ (เหย้า) 5-0
- ชนะ บาเยิร์น มิวนิค (เหย้า) 4-1
- ชนะ เซอร์เวนา ซเวซดา (เยือน) 5-2
- ชนะ แบรสต์ (เหย้า) 3-0
- ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยือน) 3-2
- ชนะ เบนฟิก้า (เยือน) 5-4
- เสมอ อตาลันต้า (เหย้า) 2-2
รอบ 16 ทีม
- ชนะ เบนฟิก้า (เยือน) 1-0
- ชนะ เบนฟิก้า (เหย้า) 3-1
(รวมสองนัด ชนะ 4-1)
ทีมของกุนซือ ฮันซี ฟลิค ซีซั่นนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยคว้าชัย 8 จาก 10 เกม แถมเป็นทีมที่ทำประตูมากสุดของทัวร์นาเมนต์ ณ ปัจจุบัน ที่จำนวน 32 ลูก นำโดย ราฟินญ่า ที่กดไปแล้วถึง 11 ตุง รั้งเบอร์หนึ่งดาวซัลโว ซึ่งฟอร์มแบบนี้ บาร์ซ่า สามารถลุ้นแชมป์ได้เลย
----------
บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 12 : 15 แต้ม ชนะ 5, เสมอ 0, แพ้ 3)
- ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ (เหย้า) 9-2
- แพ้ แอสตัน วิลล่า (เยือน) 0-1
- แพ้ บาร์เซโลน่า (เยือน) 1-4
- ชนะ เบนฟิก้า (เหย้า) 1-0
- ชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เหย้า) 1-0
- ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (เยือน) 5-1
- แพ้ เฟเยนูร์ด (เยือน) 0-3
- ชนะ สโลวาน บราติสลาวา (เหย้า) 3-1
เพลย์ออฟ
- ชนะ เซลติก (เยือน) 2-1
- เสมอ เซลติก (เหย้า) 1-1
(รวมสองนัด ชนะ 3-2)
รอบ 16 ทีม
- ชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เหย้า) 3-0
- ชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยือน) 2-0
(รวมสองนัด ชนะ 5-0)
บาเยิร์น มิวนิค ชื่อนี้ยังคงน่าเกรงขามในเวทียุโรป โดยถึงแม้ฟอร์มไม่ดีในรอบ ลีก เฟส แถมเกือบไม่ผ่าน เซลติก ในการเตะเพลย์ออฟ แต่จากผลงานทั้งสองเกมที่เจอ เลเวอร์คูเซ่น ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แสดงให้เห็นว่า "เสือใต้" ภายใต้การนำทัพของกุนซือ แว็งซ็องต์ กอมปานี เป็นทีมที่ประมาทไม่ได้จริงๆ
----------
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 10 : 15 แต้ม ชนะ 5, เสมอ 0, แพ้ 3)
- ชนะ คลับ บรูช (เยือน) 3-0
- ชนะ เซลติก (เหย้า) 7-1
- แพ้ เรอัล มาดริด (เยือน) 2-5
- ชนะ สตวร์ม กราซ (เหย้า) 1-0
- ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ (เยือน) 3-0
- แพ้ บาร์เซโลน่า (เหย้า) 2-3
- แพ้ โบโลญญ่า (เยือน) 1-2
- ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (เหย้า) 3-1
เพลย์ออฟ
- ชนะ สปอร์ติง ลิสบอน (เยือน) 3-0
- เสมอ สปอร์ติง ลิสบอน (เหย้า) 0-0
(รวมสองนัด ชนะ 3-0)
รอบ 16 ทีม
- เสมอ ลีลล์ (เหย้า) 1-1
- ชนะ ลีลล์ (เยือน) 2-1
(รวมสองนัด ชนะ 3-2)
ฟอร์มอาจไม่หรู แต่ "เสือเหลือง" ที่เป็นรองแชมป์เก่า ตอนนี้มาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว แถมไร้พ่ายในช่วง 5 เกมหลังสุด
----------
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 4 : 19 แต้ม ชนะ 6, เสมอ 1, แพ้ 1)
- เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) 0-0
- ชนะ เซอร์เวนา ซเวซดา (เหย้า) 4-0
- ชนะ ยัง บอยส์ (เยือน) 1-0
- ชนะ อาร์เซน่อล (เหย้า) 1-0
- ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก (เหย้า) 1-0
- แพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยือน) 0-1
- ชนะ สปาร์ตา ปราก (เยือน) 1-0
- ชนะ อาแอส โมนาโก (เหย้า) 3-0
รอบ 16 ทีม
- ชนะ เฟเยนูร์ด (เยือน) 2-0
- ชนะ เฟเยนูร์ด (เหย้า) 2-1
(รวมสองนัด ชนะ 4-1)
รองแชมป์เก่าเมื่อสองซีซั่นก่อน เข้ามาถึงรอบก่อนรองฯ ด้วยผลงานที่น่าประทับใจไม่น้อย โดยเฉพาะเกมรับที่แข็งแกร่งสุดๆ เสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น จากการลงเล่น 10 เกม ทำให้ "งูใหญ่" ของกุนซือ ซิโมเน อินซากี้ กลายเป็นทีมที่ไม่มีใครอยากเจอด้วย
----------
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 15 : 13 แต้ม ชนะ 4, เสมอ 1, แพ้ 3)
- ชนะ จีโรน่า (เหย้า) 1-0
- แพ้ อาร์เซน่อล (เยือน) 0-2
- เสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (เหย้า) 1-1
- แพ้ แอตเลติโก มาดริด (เหย้า) 1-2
- แพ้ บาเยิร์น มิวนิค (เยือน) 0-1
- ชนะ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (เยือน) 3-0
- ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า) 4-2
- ชนะ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท (เยือน) 4-1
เพลย์ออฟ
- ชนะ แบรสต์ (เยือน) 3-0
- ชนะ แบรสต์ (เหย้า) 7-0
(รวมสองนัด ชนะ 10-0)
รอบ 16 ทีม
- แพ้ ลิเวอร์พูล (เหย้า) 0-1
- ชนะ ลิเวอร์พูล (เยือน) 1-0
(รวมสองนัด เสมอ 1-1 ก่อนชนะดวลจุดโทษ 4-1)
ทีมของกุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ออกสตาร์ทในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยฟอร์มที่ไม่ค่อยจะสู้ดี คว้าชัยได้แค่นัดเดียวจาก 5 เกมแรก แต่หลังจากนั้นสุดยอดเลย คว้าชัยรัวๆ โดยเฉพาะการยิง 10 ประตู ใส่ แบรสต์ ในการเตะเพลย์ออฟ ก่อนเขี่ยยอดทีมอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล ออกจากเส้นทางในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
----------
เรอัล มาดริด (สเปน)
รอบ ลีก เฟส (อันดับ 11 : 15 แต้ม ชนะ 5, เสมอ 0, แพ้ 3)
- ชนะ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท (เหย้า) 3-1
- แพ้ ลีลล์ (เยือน) 0-1
- ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เหย้า) 5-2
- แพ้ เอซี มิลาน (เหย้า) 1-3
- แพ้ ลิเวอร์พูล (เยือน) 0-2
- ชนะ อตาลันต้า (เยือน) 3-2
- ชนะ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (เหย้า) 5-1
- ชนะ แบรสต์ (เยือน) 3-0
เพลย์ออฟ
- ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) 3-2
- ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า) 3-1
(รวมสองนัด ชนะ 6-3)
รอบ 16 ทีม
- ชนะ แอตเลติโก มาดริด (เหย้า) 2-1
- แพ้ แอตเลติโก มาดริด (เยือน) 0-1
(รวมสองนัด เสมอ 2-2 ก่อนชนะดวลจุดโทษ 4-2)
แชมป์เก่าเล่นผิดฟอร์มในรอบ ลีก เฟส โดยจบที่อันดับ 11 แต่ เรอัล มาดริด ก็คือ เรอัล มาดริด แถมมียอดกุนซืออย่าง คาร์โล อันเชลอตติ คุมทัพ เพราะสุดท้ายผ่านทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แอตเลติโก มาดริด มาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว ซึ่งไม่มีใครอยากเล่นด้วยแน่นอน
----------
ประกบคู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
- ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) พบ แอสตัน วิลล่า (อังกฤษ)
- อาร์เซน่อล (อังกฤษ) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)
- บาร์เซโลน่า (สเปน) พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี)
- บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) พบ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
ทั้งนี้ ทีมที่ขึ้นต้นจะได้เตะในบ้านนัดแรก ช่วงวันที่ 8 และ 9 เมษายน ส่วนนัดสอง จะฟาดแข้งในช่วงวันที่ 15 และ 16 เมษายน
Subinho