บาร์เซโลน่า คว้าผลการแข่งขันอันน่าทึ่งออกจาก เอสตาดิโอ ดา ลุซ หลังฝ่าฟันสถานการณ์อันยากลำบากตลอด 82 นาที(รวมทดบาดเจ็บ) นับแต่ เปา กูบาร์ซี่ ถูกอเปหิออกจากสนาม
ใบแดงของ กูบาร์ ชัดเจนครับ เสียบ วานเจลิส พาฟลิดิส ในจังหวะหลุดเดี่ยว ไม่มีอะไรแก้ตัว
เหตุมาจากจังหวะเล่นไฮไลน์ แผงรับดันสูงเกือบถึงวงกลมกลางสนามเพื่อให้ เคเรม อัคตูร์โคกลู กับ อันเดรียส เชลดรุป สองตัวริมเส้นเบนฟิก้าหลุดไปอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าตามสูตรของ ฮันซี่ ฟลิค
ทว่าจังหวะพัวพัน เปดรี เอาไม่อยู่ พาฟลิดิส ดิ้นหนีมาได้ ก่อนตัดสินใจกระชากแหวกตรงกลางคู่เซนเตอร์บาร์ซ่า
อินญิโก้ อ่านจังหวะแล้วไม่กล้าเตะ ปล่อยให้ กูบาร์ซี่ จัดการ
จังหวะตัวต่อตัว เพียงเสี้ยววินาที ความผิดพลาดในการเข้าสกัดกลายเป็นใบแดง
ฝันร้ายเลยครับ บอลน็อคเอาท์, มาเยือน, เหลือ 10 ตัว เกมเพิ่งผ่านไปแค่ 21 นาทีเท่านั้น
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน เป้าหมายในเกมก็ต้องเปลี่ยน จากมองถึงชนะ ฟลิค ต้องพยายามเอาทีมรอดออกไปให้ได้ก่อน
กุนซือเยอรมันแก้เกมตามสูตร ถอด ดานี่ โอลโม่ ออก แล้วส่ง โรนัลด์ อาเราโฮ ลงไปยืนกับ มาร์ติเนซ
โอลโม่ คงเซ็งสุดๆ แต่สถานการณ์บังคับ ก็ต้องรับว่าโชคไม่ดี
จากนั้นเกมก็เป็น เบนฟิก้า เปิดฉากโจมตี แต่จนแล้วจนรอดก็ส่งบอลตุงตาข่ายไม่ได้
เจ้าถิ่นไม่คมเองก็ส่วนหนึ่ง แต่ความดีความอีกก้อนใหญ่ต้องยกให้ วอยเซียค เซสนี่
นายทวารโปแลนด์เซฟช่วยทีมอย่างน้อย 6 ครั้ง ทั้งฟรีคิกหน้ากรอบ ลูกโหม่ง ลูกยิง ใช้ทั้งมือทั้งเท้าอุตลุด
แม้หลายจังหวะบอลไม่ได้ห่างตัวมาก แต่ก็ต้องให้เครดิตไปที่การอ่านเกมของ เซสนี่ ว่ายอดเยี่ยม จนขยับไปอยู่ในระยะที่ป้องกันได้ทันเวลาเสมอ
ส่วนลูกยากๆก็มี เช่นลูกโหม่งของ อัคตูร์โคกลู นาที 42 กับลูกยิงไกลของ เรนาโต้ ซานเชซ ช่วง 30 วินาทีสุดท้ายของการทดเวลา
เซสนี่ ได้คะแนนความสามารถจากสื่อสเปนไป 9 คะแนน ตอบคำถามแบบไม่ต้องใช้คำพูดว่า "ทำไม ฟลิค ถึงเลือกเขา แทนที่จะเป็น อินญากี้ เปนญ่า ?"
กระนั้น บาร์ซ่า คงไม่มีทางชนะกลับออกไปได้ ถ้าไม่ได้ลูกยิงอันเฉียบขาดของ ราฟินญ่า
นัดก่อนในรอบลีกเฟส ก็เป็น ราฟินญ่า ที่ยิงประตูชัย มานัดนี้เขาก็เป็นคนยิงประตูชัยอีก
ความผิดพลาดแบบไม่น่าเชื่อของ อันโตนิโอ ซิลวา ที่จู่ๆก็จ่ายบอลขวางผิดทั้งทิศทางและน้ำหนักไปเข้าทางปืนของ ราฟินญ่า
แต่ที่สุดกว่าก็คือจังหวะยิงของปีกบราซิเลี่ยนที่ลั่นไกตรงหน้าหัวกระโหลก ขนาด อนาโตลี ตรูบิน นายทวารเจ้าถิ่นมองเห็นชัดๆว่าบอลพุ่งไปทางไหน แต่ก็ยังไปถึง น้ำหนักทิศทางมาพร้อมจริงๆ
เบนฟิก้า ได้เปรียบตัวผู้เล่น มีเวลาอยู่กับบอลมากกว่า แถมมีเสียงเชียร์จากแฟนๆตัวเองคอยผลักดัน แต่กลับทำอะไรไม่ได้
โอกาสยิง 26 ครั้ง (เข้ากรอบ 8) เตะมุม 13 ครั้ง ได้ครอสบอลเข้ากรอบเขตโทษ 31 ครั้ง แต่สกอร์คือ 0
ส่วน บาร์ซ่า โอกาส 10 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง แต่จะแจ้งจริงๆก็แค่ครั้งเดียว แล้วก็เป็นประตูเลย
ไอ้ที่เขาว่าฟุตบอลตัดสินกันที่ความเฉียบขาด...มันเป็นแบบนี้สินะ
เบนฟิก้า 0 บาร์ซ่า 1 จะพูดว่าลูกยิง ราฟินญ่า กับการเซฟของ เซสนี่ คือแสงสว่างนำทัพอาซูลกราน่าออกจากความมืด ที่ ดา ลุซ ก็คงไม่เกินเลย
กระนั้นก็ต้องให้เครดิตกับนักเตะคนอื่นๆที่ก็สู้ได้ดีไม่แพ้กัน
ผมชอบคู่ เปดรี-เดยอง เคมีเข้ากันดีมาก เล่นร่วม-สอดประสานลงตัว มีส่วนช่วยผ่อนภาระให้แผงหลังไปมากโข
คู่ อินญิโก้ กับ อาเราโฮ เองก็ทำได้ยอดเยี่ยม พวกตัวรุกอาจไม่โดดเด่นนัก ยามาล,เลวานดอฟสกี้ ไม่ได้มีวันที่ดีที่สุด แต่ถ้านึกถึงผลที่ออกมาก็ไม่มีอะไรให้ต้องหงุดหงิด
ชัยชนะเกมนี้ของ บาร์ซ่า ถือเป็นกำไรมหาศาล คงขออะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
ปล. Estádio da Luz แปลว่าสนามแห่งแสง
#เจมส์ลาลีกา
................................................
คะแนนความสามารถนักเตะบาร์ซ่าจาก สปอร์ต (สื่อกาตาลุนญ่า)
เซสนี่ 9,กุงเด้ 8, มาร์ติเนซ 8,กูบาร์ซี่ 4,บัลเด้ 7,เปดรี 8,เดยอง 7,โอลโม่ 6,ยามาล 6,ราฟินญ่า 6,เลวานดอฟสกี้ 6,อาเราโฮ 8,เฟร์ราน ตอร์เรส 7,กาซาโด้ 7,เคราร์ด มาร์ติน 7