เปแอสเช พบ ลิเวอร์พูล ! 5 ข้อหงส์หนังเหนียวเคี้ยวยาก , อลิสซง 10 คะแนนเต็ม

1. ควารัตสเคเลีย คัมแบ็คตัวจริง

หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โรเตชั่นนักเตะสามรายจากเกม ลีกเอิง นัดเปิดบ้านทุบ ลีลล์ ย่อยยับ 4-1

นายใหญ่สแปนิชเลือกส่ง ควิชา ควารัตสเคเลีย , วิลเลี่ยน ปาโช่ และ วิตินญ่า ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อนหน้า ลูคัส เบรัลโด้ , เดซิเร่ ดูเอ้ และ กอนซาโล่ รามอส

2. กัคโป เดี้ยงไร้ชื่อร่วมบู๊

ลิเวอร์พูล ตัดสินใจไม่เสี่ยงใช้งาน โคดี้ กัคโป ที่บาดเจ็บข้อเท้าจนพลาดซ้อมโดยสตาร์ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ไม่มีชื่อนั่งเป็นตัวสำรองด้วยแม้จะเดินทางมากับทีม

รวมแล้ว อาร์เน่อ สล็อต กุนซือ หงส์แดง เปลี่ยนโผ 11 คนแรกแค่รายเดียวจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฝ้าบ้านพิชิต นิวคาสเซิ่ล 2-0 โดย แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายทีมชาติ สกอตแลนด์ ได้กลับมาออกสตาร์ตก่อนหน้า คอสตาส ซิมิคาส

จากโผรายชื่อดังกล่าวนับเป็นครั้งที่หกแล้วที่นายใหญ่ดัตช์ใช้งานทีมชุดเดียวกันนี้มากกว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตผู้จัดการทีมคนก่อนจากการคุมทีมลงสนามทั้งสิ้น 491 นัด

3. สัญญาณอันตราย

ก่อนเกมการฟาดแข้ง เอ็นรีเก้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อด้วยคาดว่า ลิเวอร์พูล ไม่น่าจะเน้นครองบอลในเกมนี้ และเชื่อว่าทีมของเขาจะได้ครองบอลมากกว่า

เป็นจริงตามนั้นเนื่องจากตลอด 45 นาทีแรก เปแอสเช เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่ หงส์แดง ข้างเดียว และน่าจะได้ประตูนำหลายหน แต่แผงหลังทีมเยือนยังแข็งแกร่งมากพอ อีกทั้ง อสิสซง งัดฟอร์มหนึบเซฟลูกอันตรายหลายหนช่วยให้ทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ยันเสมอได้ 0-0

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังได้วีเออาร์ช่วยด้วยเช่นกันจากจังหวะที่ ควารัตสเคเลีย ยิงปั่นอย่างสวยตุงตาข่าย แต่เป็นลูกออฟไซด์เฉียดฉิวก่อนที่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ จะกระแทกใส่ แบรดลีย์ บาร์โคล่า ล้มโดยกองหลังเฟรนช์แมนน่าจะเป็นแนวรับคนสุดท้ายของ หงส์แดง และมีโอกาสได้ใบแดงสูง แต่วีเออาร์ชี้ว่าเป็นการเข้าปะทะที่ใสสะอาด

อย่างไรก็ดี แม้จะรอดตัว แต่สถิติในครึ่งแรก เปแอสเช ข่ม หงส์แดง แบบสู้กันไม่ได้ทั้งการครองบอลที่เหนือกว่า 67.9%:32.1% และได้ยิง 12 ครั้งเข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ได้ยิงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และไม่เข้ากรอบ

4. เปแอสเช หมดมุก

กลับสู่ครึ่งหลังยังเป็นหนังม้วนเดิม แต่ที่แตกต่างไปคือจังหวะสุดท้ายของ เปแอสเช เริ่มห่างไกลจากโอกาสที่จะได้ประตู ขณะที่เกมรับของ ลิเวอร์พูล ดูจะเอาอยู่เนื่องจากแทบไม่เปิดพื่นที่ให้เจ้าบ้านได้ทำเสียวอย่างถนัดถนี่เหมือน 45 นาทีแรก

ทำไปทำมา เกมรุกของเจ้าบ้านจึงลดพิษสงลงไปทุกที และไม่อาจหาช่องทางทะลุเข้าไปทำประตูแม้จะเป็นฝ่ายได้บุกใส่อยู่ข้างเดียวเหมือนเดิม แต่ต้องยอมรับว่านัดนี้ หงส์แดง เล่นเกมป้องกันได้อย่างเหนียวแน่นจนยากที่จะโดนสอยตาข่าย

สุดท้าย เปแอสเช จึงหมดมุกไปเองในเมื่อเอาชนะเกมรับของทีมเยือนไม่ได้เลยจริงๆ แถมที่แย่กว่านั้นก็คือพวกเขาพลาดท่าปราชัยคารังอย่างน่าช็อกอีกด้วยจากการเสียประตูในนาทีที่ 87 ทั้งๆที่มีเกมที่เหนือกว่า ลิเวอร์พูล บานเบอะ

จบ 90 นาที เจ้าบ้านครองบอลได้มากถึง 70.5%:29.5% และได้ตะบัน 27 ครั้งเข้ากรอบ 10 ครั้ง ขณะที่ เร้ด แมชีน ได้ยิงแค่ 2 ครั้ง และเข้ากรอบครั้งเดียวแถมเป็นประตูที่ล้ำค่าอีกต่างหาก

และที่แน่ๆ อลิสซง มีผลงานเซฟ 10 หนในเกมนี้พร้อมสร้างสถิติเป็นนายทวาร ลิเวอร์พูล ที่เก็บคลีนชีตในรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มากที่สุด 22 นัด

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ถือครองสถิติร่วมของเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาต์ในฐานะทีมที่มีผลต่างของโอกาสยิงประตูด้อยกว่าคู่แข่งมากถึง 25 ครั้ง แต่เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้นับจากซีซั่น 2003/04 เป็นต้นมา

5.สถิติโดนทำลาย

ในที่สุด เศรษฐีลีกเมืองน้ำหอมก็จอดป้ายเสียสถิติไร้พ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากพิษสงของ หงส์แดง ซึ่งอาศัยเกมโต้กลับที่เชื่อขนมกินได้พังประตูได้สำเร็จจากโอกาสสัมผัสบอลครั้งแรกของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่ถูกส่งลงเล่นแทน โม ซาลาห์ แค่อึดใจเดียวเท่านั้น

นอกจากจะเซฟเป็นพัลวันแล้ว อลิสซง ยังมีส่วนทำให้ ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์เป็นฝ่ายได้เฮด้วยจากการเตะบอลยาวแล้ว ดาร์วิน นูนเญซ ตัวสำรองอีกรายขึ้นโขกก่อนจ่ายให้ เอลเลียตต์ สับไกผ่านมือของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ได้สำเร็จทั้งๆที่ตลอดทั้งเกมนายทวารอิตาเลี่ยนไม่ได้เซฟลูกยิงของอาคันตุกะเลยแม้แต่หนเดียว

หลังพาทีมกำชัยได้ เป็นอีกเกมที่ สล็อต แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนตัวสำรองลงไปพลิกสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมเพราะแค่คว้าผลเสมอ 0-0 ได้สำเร็จ แฟนบอล เดอะ ค็อป ก็น่าจะพอใจกันมากแล้ว แต่ปรากฏว่าทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์คลำเป้าได้ผิดกับทีมของ เอ็นรีเก้ ที่พยายามแล้วพยายามอีกจนหมดความพยายาม

จากความปราชัยคารัง หมายความว่า เปแอสเช ถูกหยุดสถิติไม่แพ้ในทุกรายการเอาไว้ที่ 22 นัดโดยพวกเขายิงประตูได้อย่างระเบิดเถิดเทิง 66 ลูก แต่ไม่ดีพอที่จะส่งบอลตุงตาข่าย หงส์แดง เลยแม้แต่ครั้งเดียว

นอกจากนี้จากการลงสนาม 20 นัดหลัง ทีมเงินถังของฝรั่งเศสชนะมากถึง 19 นัด และเป็นการชนะ 10 นัดรวด แต่สุดท้ายก็โดน หงส์แดง บุกมาจิกสลบเหมือดถึงรังอย่างเจ็บแสบ