ลาก่อน เรอัล มาดริด ! 6 เหตุผล แมนซิตี้ ลิ่วน็อกเอาต์แชมเปี้ยนส์ลีก

ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก และแชมป์หูใหญ่มีคิวบู๊กันนัดแรกของรอบเพลย์ออฟวันอังคารนี้ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เพื่อหาผู้ชนะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายจึงถือได้ว่ามันเป็นเกมบิ๊กแมตช์ที่เกิดขึ้นเร็วเกินคาด

แม้ ราชันชุดขาว จะมีดีกรีเป็นเจ้าพ่อตัวจริงของฟุตบอลรายการนี้ แต่มีทางเป็นไปได้เช่นกันว่ายักษ์ใหญ่จาก ลา ลีกา จะจอดป้ายในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก แต่เพียงเท่านี้จากเหตุผลทั้งหกข้อ

1. ชุดขาวหลังโบ๋

แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาในเกมรับของซีซั่นนี้เช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เรอัล มาดริด กำลังเผชิญกับวิกฤตในแดนหลังเนื่องจากพวกเขาประสบกับปัญหาสตาร์ตัวหลักนัดกันล้มเจ็บ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ล่าสุด อันโตนิโอ รือดิเกอร์ กองหลังที่ดีที่สุดของทีมหนีไม่พ้นล้มหมอนนอนเสื่อเพิ่มไปอีกรายโดยเขาจะพลาดเกมแรกในวันอังคารนี้อย่างแน่นอนแล้ว และอาจรวมถึงนัดสองด้วยจากอาการเจ็บแฮมสตริง

ก่อนหน้านี้ เอแดร์ มิลิเตา ดวงแตกมีปัญหาเอ็นเข่าฉีกขาดหนสองเมื่อเดือนพ.ย.และต้องร้างสนามไปอย่างยาวนาน ขณะที่ ดาบิด อลาบา ซึ่งเดี้ยงไปนานเกินกว่าหนึ่งปี และเพิ่งคืนสนามได้เมื่อเดือนก่อนหลังผ่าเข่ามีปัญหาเจ็บขาหนีบเพิ่มไปอีกเมื่อช่วงต้นเดือน

จากสาเหตุดังกล่าวจึงหมายความว่าทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เหลือเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอาชีพแค่รายเดียวเท่านั้นคือ ราอูล อเซนซิโอ ซึ่งได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่หมาดๆในเดือนพ.ย. และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดาวเตะวัย 21 ปียังอ่อนประสบการณ์

นอกจากจะต้องอาศัย ออเรเลียง ชูอาเมนี่ กองกลางตัวรับสวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นแล้ว เรอัล มาดริด ยังมีปัญหาในตำแหน่งฟูลแบ็คเช่นกันเนื่องจาก ดานี่ การ์บาฆาล เจ็บเข่าอย่างหนักในต้นซีซั่น กระทั่งล่าสุดเกมลีกเมื่อวันเสาร์นัดเฝ้าบ้านเสมอกับ แอตเลติโก มาดริด 1-1 ลูกัส บาซเกซ ต้องเดินออกจากสนามเนื่องจากเจ็บแฮมสตริง

2. วินิซิอุส ฟอร์มหลุด

ผ่านมาถึงซีซั่นนี้ ฟอร์มของ วินิซิอุส ไม่น่าเกรงขามเหมือนเดิมแล้ว และเป็น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่เริ่มฉายแววสอยตาข่ายได้ดีขึ้นเป็นลำดับกระทั่งหัวหอกทีมชาติ ฝรั่งเศส กลายมาเป็นที่พึ่งคนสำคัญของทีมแทน

จากการลงเล่น 10 นัดหลังของทุกรายการ วินิซิอุส เท้าบอดมากถึง 8 นัด และยิงประตูเกมลีกไม่ได้เลยนับตั้งแต่เดือนพ.ย.

หลังพลาดรางวัล บัลลงดอร์ ซึ่งเจ้าตัวตั้งความหวังเอาไว้สูงลิบก็ดูเหมือนสตาร์ทีมชาติ บราซิล จะมีฟอร์มการเล่นที่ตกลงไปแม้จะเคยสอยตาข่ายได้ 10 เม็ดจาก 8 เกมกระทั่งการบาดเจ็บในช่วงปลายเดือนพ.ย.ส่งผลกระทบต่อฟอร์มของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น พ่อค้าแข้งแซมบ้าได้รับข้อเสนอที่ยั่วยวนจากลีก ซาอุดิ อาระเบีย ด้วยจึงเชื่อกันว่าใจเขาลอยไปที่ โปรลีก แล้ว และเป็นเหตุผลที่เจ้าตัวบอกปัดการขยายสัญญากับ ราชันชุดขาว

ในทางกลับกัน แม้จะกระเสือกกระสนในลีกกระทิงดุช่วงต้นซีซั่น แต่หลังจากเริ่มปรับตัวได้ เอ็มบัปเป้ ก็เริ่มคายพิษสงให้เห็นโดยในแปดเกมหลังเขายิงประตูได้ถึงเก้าเม็ด

ฉะนั้นแล้ว แม้อดีตดาวยิงทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะระเบิดฟอร์มเก่งได้สำเร็จ แต่หาก วินิซิอุส ไม่อาจสำแดงพิษสงอย่างที่เคยเป็นได้ อย่างน้อย เรือใบสีฟ้า ก็สามารถเบาใจลงไปได้เยอะ

3. เสียท่าเกมบิ๊กแมตช์

แมนฯ ซิตี้ มีผลงานที่เลวร้ายในซีซั่นนี้หลายนัดทั้งแพ้ อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ในเกม พรีเมียร์ลีก รวมทั้งแพ้เกมในถ้วยยุโรปให้กับ ยูเวนตุส และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

อย่างไรก็ดี เรอัล มาดริด ก็ไม่ต่างกันเนื่องจากทีมของ อันเชล็อตติ โดน บาร์เซโลน่า บุกมาขยี้เละ 4-0 ถึงบ้าน และพ่ายทีมดังของกาตาลันในเกม ซูเปอร์โกปา นัดชิงชนะเลิศที่ ซาอุดิ อาระเบีย ด้ว

แม้จะครองความเป็นเจ้าของถ้วยหูใหญ่ แต่ ราชันชุดขาว พ่ายทั้ง เอซี มิลาน และ ลิเวอร์พูล จนต้องหล่นมาเล่นเกมเพลย์ออฟมันจึงฟ้องให้เห็นว่าซีซั่นนี้พวกเขาไม่ใช่ทีมที่น่ายำเกรงอีกต่อไปแล้ว

4. แข้งใหม่เรือใบกระหายสร้างชื่อ

หลังมีผลงานตกต่ำในซีซั่นนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกแก้ปัญหาด้วยการใช้เงินซื้อนักเตะใหม่มาร่วมทัพในเดือนม.ค.

รวมแล้ว เรือใบสีฟ้า ทุ่มเงินไปอีกระลอก 180 ล้านปอนด์เซ็นสัญญากับ โอมาร์ มาร์มุช , อับดูโกดีร์ คูซานอฟ , วิเตอร์ เฮส และ นิโก้ กอนซาเลซ

หลังสร้างชื่อสอยตาข่ายให้ แฟร้งค์เฟิร์ต 20 ประตูในครึ่งแรกของซีซั่นนี้ และมีส่วนร่วมกับ 30 ประตู มาร์มุช จึงมีผลงานในด้านนี้้เป็นรองแค่ โม ซาลาห์ เพื่อนร่วมชาติรายเดียวเท่านั้นในห้าลีกใหญ่ของยุโรป

จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสตาร์ทีมชาติ อียิปต์ หมายพิสูจน์ตัวเองกับ แมนฯ ซิตี้ เนื่องจากถึงขณะนี้เขายังเช็กบิลให้กับสโมสรใหม่ไม่ได้

นอกจากนี้ คูซานอฟ ก็เป็นเช่นเดียวกันหลังประเดิมสนามได้อย่างเลวร้ายจากการเล่นที่ผิดพลาดจนทีมเสียประตูตั้งแต่นาทีที่ 5 ในเกมเฝ้าบ้านบู๊กับ เชลซี จนโดนเปลี่ยนตัวออกก่อนที่ เรือใบสีฟ้า จะพลิกแซงชนะ 3-1

กระทั่งล่าสุด เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ อุซเบกิสถาน ลบฝันร้ายได้สำเร็จด้วยการโขกตีเสมอ เลย์ตัน โอเรี้ยนท์ ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะบุกไปเขี่ยทีมรองบ่อนตกรอบสี่ถ้วย เอฟเอ คัพ ด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

5. ฮาลันด์ เก็บกด

หลังโดนเย้ยในเกม พรีเมียร์ลีก นัดออกไปแพ้ อาร์เซน่อล 5-1 ชนิดที่ ไมล์ส ลูอิส สเคลลีย์ กองหลัง ปืนโต ฉลองประตูด้วยท่าล้อเลียน เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ได้พักแข้งพักขาในเกม เอฟเอ คัพ นัดบู๊กับทีมระดับ ลีก วัน เพื่อให้เขาสดชื่นเต็มเปี่ยมก่อนปะทะกับ เรอัล มาดริด

และที่สำคัญ กองหน้าทีมชาติ นอรเวย์ ไม่เคยยิงประตู ราชันชุดขาว ได้เลยจากการโม่แข้งกันสี่หน จึงแน่นอนว่าเกมวันอังคารนี้ศูนย์หน้าร่างโย่งมีความหิวกระหายอย่างยิ่งโดยเฉพาะทีมจาก ลา ลีกา ประสบกับปัญหาในแผงหลัง

6. เป๊ป รู้วิธีกำราบราชัน

เรอัล มาดริด อาจยัดเยียดความปราชัยให้กับ กวาร์ดิโอล่า ได้หลายหนก็จริง แต่สถิติของกุนซือสแปนิชในการดวลกับทีมดังของลีกกระทิงดุจัดว่าน่าประทับใจไม่น้อย

จากการต่อกรกัน 25 นัดนับตั้งแต่ยึดอาชีพกุนซือ กวาร์ดิโอล่า กำชัยได้มากกว่าพ่ายแพ้โดยเขาชนะ เรอัล มาดริด 13 นัด เสมอ 6 นัด และแพ้ 6 นัด

เท่านั้นไม่พอ กวาร์ดิโอล่า เคยพาทีม บาร์เซโลน่า ถล่ม เรอัล มาดริด ด้วยสกอร์ที่ขาดลอย 6-2 และ 5-0 มาแล้ว

สำหรับการคุมทีม แมนฯ ซิตี้ กวาร์ดิโอล่า มีชัยเหนือ เรอัล มาดริด 4 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้นัดเดียวเท่านั้น อีกทั้งเขาพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จตลอดทั้ง 15 ซีซั่นในฐานะผู้จัดการทีม แม้รวมแล้วจะคุมทีมได้แชมป์รายการนี้สามหน น้อยกว่า อันเชล็อตติ เจ้าของสถิติสองหน