ด้วยรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จึงวางหลักการจับสลากประกบคู่ในรอบน็อคเอ๊าต์ไม่เหมือนเดิม..
รูปแบบเก่า ก่อนรอบน็อคเอ๊าต์มี 32 ทีม จัดการแข่งขันออกเป็น 8 กลุ่ม ๆ ละ 4 ทีม คัดเอาอันดับ 1 กับ 2 ของแต่ละกลุ่มเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
แชมป์กลุ่มทั้ง 8 ถือเสมือนว่าอยู่ในระดับเดียวกัน แม้บางทีมจะชนะรวดทั้ง 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่มขณะที่บางทีมได้แชมป์กลุ่มแบบสูสี
รองแชมป์กลุ่มทั้ง 8 ก็เช่นเดียวกัน ยูฟ่าถือว่าอยู่ในระดับชั้นเท่ากัน รองแชมป์กลุ่มที่มีแค่ 4 แต้มก็มีศักดิ์ศรีเท่ากับรองแชมป์กลุ่มที่มี 15 แต้มเหมือนกัน
การประกบคู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจึงไม่ซับซ้อน เอารองแชมป์กลุ่มทั้ง 8 พบกับแชมป์กลุ่มทั้ง 8 แบบคละกันไปเลย ข้อจำกัดมีเพียงทีมจากชาติเดียวกันและทีมจากกลุ่มเดียวกันในรอบก่อนหน้าจะไม่พบกัน
ง่าย ๆ แค่นั้น
แต่กับรูปแบบใหม่.. ไม่ใช่
เพราะทั้ง 36 ทีมล้วนถูกจับอยู่ในลีกเดียวกัน ใช้ตารางคะแนนร่วมกัน ทุกทีมจึงมีอันดับติดตัวเมื่อแข่งครบ 8 นัด แม้ความหนัก-เบาของโปรแกรมเตะแต่ละทีมจะไม่เท่ากันก็ตาม
จาก 8 กลุ่มย่อยในรูปแบบเก่า สู่ 1 ลีกใหญ่ที่รวมทุกทีมไว้ด้วยกันทั้งหมดในรูปแบบใหม่ บทสรุปที่ออกมาจึงไม่อาจใช้หลักการ "อยู่ในระดับเท่าเทียมกัน" เหมือนที่มองแชมป์/รองแชมป์กลุ่ม ได้อีกต่อไป
ทุกทีมต่างมีลำดับติดตัวจากรอบฟุตบอลลีก - League phase - ที่นำมาใช้แทนรอบแบ่งกลุ่ม เรียงกันไปตามผลงาน
36 ทีม 36 อันดับ.. ตั้งแต่ 1 ถึง 36
หลักการที่นำมาใช้ในรอบน็อคเอ๊าต์จึงต้องเปลี่ยนไป จะมาคละกันแบบเก่าไม่ใช่เรื่องที่ควรเพราะทุกทีมมีผลงานจากรอบลีกเป็นตัวกำหนด
ยูฟ่าเลือกรูปแบบสากลเหมือนที่ใช้ในกีฬาหลายประเภทอย่างเช่นเทนนิส แบดมินตัน สนุ้กเกอร์ ฯลฯ คือทีมอันดับสูงเจอทีมอันดับต่ำ ทีมอันดับหนึ่งเจอทีมอันดับสุดท้าย มือวางอันดับ 2 เจอมือวางอันดับรองสุดท้าย.. ลดหลั่นกันไป
มือวางอันดับ 1 เจอมือวางอันดับ 16.. มือวางอันดับ 2 เจอมือวางอันดับ 15.. อันดับ 3 เจออันดับ 14.. อันดับ 4 เจออันดับ 13 ไล่เรื่อยไปจนกระทั่งอันดับ 8 เจออันดับ 9
นั่นคือที่มาและหลักการของการจับสลากรอบเพลย์ออฟยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
16 ทีมที่ได้สิทธิ์เพลย์ออฟ (ทีมอันดับ 9 ถึงทีมอันดับ 24) เพื่อหาผู้ชนะ 8 ทีมผ่านเข้าไปพบกับอีก 8 ทีมที่ได้บายไปยืนรออยู่ก่อนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะจับสลากประกับคู่ด้วยหลักการนี้
อันดับ 9 เจออันดับ 24.. อันดับ 10 เจออันดับ 23.. อันดับ 11 เจออันดับ 22.. ไปจนถึงอันดับ 16 เจออันดับ 17
เพียงแต่ยูฟ่าปรับรายละเอียดอีกนิดเพื่อให้เกมสุดท้ายของรอบลีกยังไม่มีใครมองเห็นคู่ต่อสู้ในรอบต่อไปของตัวเองชัดเจน และเพื่อให้พิธีการจับสลากยังคงมีไฮไลต์ให้ติดตาม
ไม่ได้ล็อกอันดับเจอกันตายตัว แต่เลือกใช้วิธีการรวมกลุ่ม 2 ทีมพบกับรวมกลุ่มอีก 2 ทีม
ทีมอันดับ 9 กับ 10 ที่ปกติจะอยู่คนละสายโดยอัตโนมัติ ก็หยิบมาทำให้มันไม่อัตโนมัติเสีย แม้สุดท้ายแล้วทั้ง 2 ทีมต้องแยกสายบน/สายล่างกันอยู่ดีก็ตาม
ทีมอันดับ 23 กับ 24 ก็เช่นกัน แทนที่ทีมอันดับ 24 จะล็อกคู่เตะกับทีมอันดับ 9 และทีมอันดับ 23 จะล็อกเป้าหมายต้องเตะกับทีมอันดับ 10 ก็นำ 4 ทีมนี้มาจับกลุ่มกันเสีย
ทีมอันดับ 9 จะเจอทีมอันดับ 23 หรือ 24
ทีมอันดับ 10 จะเจอทีมอันดับ 24 หรือ 23
จับคู่กันแค่ 4 ทีมนี้ รู้ว่าคู่แรกเป็นใครปุ๊บก็จะรู้คู่ที่สองทันที
เช่นเดียวกับการประกบคู่ในอันดับอื่น ๆ
ทีมอันดับ 11 กับ 12 จะเจอทีมอันดับ 21 กับ 22
ทีมอันดับ 13 กับ 14 จะเจอทีมอันดับ 19 กับ 20
ทีมอันดับ 15 กับ 16 จะเจอทีมอันดับ 17 กับ 18
-โถจับสลากวันศุกร์นี้ (31 ม.ค.) จะมี 8 โถ
-แต่ละโถมีลูกบอล 2 ลูกแทนทีม 2 ทีม ตามลำดับการจับคู่ 9-10, 11-12, 13-14, 15-16, 17-18, 19-20, 21-22 และ 22-23
-เริ่มจับจากโถสุดท้ายอันดับ 23-24 ก่อน
-จับทีมไหนขึ้นมาทีมแรก ทีมนั้นอยู่สายสีเงิน (สายบน) อีกทีมที่เหลือจะไปอยู่สายสีฟ้า (สายล่าง) โดยอัตโนมัติ
-จากนั้นไล่จับเรียงมาแต่ละโถ 21-22, 19-20 และ 17-18
-ถึงตอนนั้นจะมีทีม unseeded team - ไม่ใช่ทีมวาง - ไปประจำตำแหน่งกันหมดแล้ว
-จากนั้นจะเริ่มจับโถทีมวาง - seeded team - กันต่อ เริ่มจากโถของทีมอันดับ 15-16 เพื่อหาทีมไปประกบทีม unseeded อันดับ 17-18 ที่รออยู่
-จับทีมไหนขึ้นมา ทีมนั้นไปอยู่สายบน และเราจะได้คู่เตะ 2 คู่แรกทันที เพราะอีกทีมในโถจะลงไปอยู่สายล่าง (เช่น ทีมอันดับ 16 เจอทีมอันดับ 18 ที่สายบน ทีมอันดับ 15 ก็จะเจอทีมอันดับ 17 ที่สายล่าง)
-จับโถทีมวางโถถัดไป (อันดับ 13-14) เพื่อแยกสายเตะกับทีมอันดับ 19 กับ 20
-จับโถทีมวางโถถัดไป (อันดับ 11-12) เพื่อแยกสายเตะกับทีมอันดับ 21 กับ 22
-และจับโถทีมวางโถสุดท้าย (อันดับ 9-10) เพื่อแยกสายเตะกับทีมอันดับ 23 กับ 24
การจับสลากในวันศุกร์นี้จะได้ผลการประกบคู่ทั้ง 8 คู่ในรอบเพลย์ออฟ ส่วนทีมอันดับ 1-8 จากรอบฟุตบอลลีกที่ได้บายจะรู้เพียงคร่าว ๆ ว่าคู่แข่งของตัวเองในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเป็นใคร
ทีมอันดับ 1-2 จะแยกสายบน/ล่างไปพบกับ 2 ทีมผู้ชนะเพลย์ออฟจากสายอันดับ 15-16-17-18
ทีมอันดับ 3-4 จะแยกสายบน/ล่างไปพบกับ 2 ทีมผู้ชนะเพลย์ออฟจากสายอันดับ 13-14-19-20
ทีมอันดับ 5-6 จะแยกสายบน/ล่างไปพบกับ 2 ทีมผู้ชนะเพลย์ออฟจากสายอันดับ 11-12-21-22
ทีมอันดับ 7-8 จะแยกสายบน/ล่างไปพบกับ 2 ทีมผู้ชนะเพลย์ออฟจากสายอันดับ 9-10-23-24
การจับสลากรอบ 16 ทีมสุดท้ายของทีมอันดับ 1-8 จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. 2025 สองวันหลังได้ผู้ชนะทั้ง 8 ทีมจากรอบเพลย์ออฟ โดยจะจัดวางสายยาวไปถึงรอบชิงชนะเลิศ
นี่คือขั้นตอนและหลักการของการจับสลากรอบน็อคเอ๊าต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ครับ
บางท่านอาจจะทราบแล้ว แต่หลาย ๆ ท่านยังไม่ทราบ จึงถือโอกาสอธิบายให้เข้าใจกันครับ
ผมชอบและเห็นด้วยกับการประกบคู่ในรอบเพลย์ออฟโดยดูจากอันดับในลีกนะครับ
มันยุติธรรมดีที่ทีมอันดับดีที่สุดจะได้พบกับทีมอันดับแย่ที่สุด เพื่อให้แต่ละอันดับในรอบฟุตบอลลีกมีความหมาย และเป็นไปตามหลักการสากลที่ใช้กัน
(ฟุตบอลเพลย์ออฟของอังกฤษก็ลักษณะนี้ครับคือทีมอันดับ 3 จะพบกับทีมอันดับ 6 และทีมอันดับ 4 จะวัดกับทีมอันดับ 5)
แต่ติดขัดอยู่เรื่องเดียวตรงรอบถัดไป (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) ที่บรรดาทีมวางอันดับ 1-8 จะเริ่มลงเตะ ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าพวกเขาน่าจะได้โอกาสเจอคู่ต่อสู้ในหลักการเดียวกันด้วย
ทีมอันดับ 1 (ในที่นี้คืออันดับ 1 กับ 2) ควรได้เจอทีมอันดับแย่ที่สุดที่ผ่านเพลย์ออฟเข้ามาได้ และทีมอันดับ 8 (ในที่นี้คืออันดับ 7 กับ 8) จะไปเจอกับทีมอันดับดีที่สุดที่ผ่านเพลย์ออฟเข้ามา
ถ้าทีมวางอันดับ 9-16 ชนะกันหมดในรอบเพลย์ออฟ ทีมอันดับ 1-2 ก็จะเจอทีมอันดับ 15-16 ตามเกณฑ์ปกติ
แต่ความสำคัญอยู่ตรงกรณีที่รอบเพลย์ออฟมีคู่พลิกล็อกครับ เช่นทีมอันดับ 24 สามารถเอาชนะทีมอันดับ 9 ได้
ตรงนี้ถ้าเป็นระบบสากลทั่วไปอย่างเทนนิส แบดมินตัน หรือสนุ้กเกอร์ มันก็จะดำเนินไปตามนั้นเลย คนที่เป็นมือวางอันดับ 1 อาจเจอคู่แข่งที่แข็งกว่าคนที่เป็นมือวางอันดับ 5 หรือ 6 ก็ได้ถ้าคู่ต่อสู้ที่ควรจะเป็นของมือ 5 หรือ 6 นั้นไม่มาตามนัด
(เช่น มือ 1 ชนะในรอบ 32 คนผ่านเข้าไปเจอมือ 16 ในรอบ 16 คนสุดท้าย แต่มือ 6 ได้เจอกับมือ 93 ของโลกที่พลิกล็อกโค่นมือ 10 มาได้)
แต่ถ้าเป็นระบบอเมริกันเกมส์อย่างบาสเกตบอล NBA หรือ อเมริกันฟุตบอล NFL ทีมอันดับ 1 จะได้รับการการันตีว่าจะได้แข่งกับคู่ต่อสู้ที่อันดับต่ำที่สุดในแต่ละรอบไปจนถึงนัดชิง
ในมุมมองผม รอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งเป็นรอบน็อคเอ๊าต์ด่านแรกของบรรดาทีมวาง 1-8 ควรจะยังใช้ระบบนี้ คือทีมอันดับ 1 ควรได้เจอทีมอันดับต่ำสุดแทนที่จะเป็นอันดับ 15-16-17-18 อย่างที่ล็อกเอาไว้ล่วงหน้า
อยากให้ยังใช้อยู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายครับ แต่นับจากรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไปก็ว่ากันตามสายไปเลย ไม่ต้องใช้ระบบนี้แล้ว
ยกตัวอย่าง..
8 ทีมที่ชนะเกมเพลย์ออฟเข้ามาได้คือทีมอันดับ 16-17-13-20-12-22-9-24
ในกติกาปัจจุบัน โปรแกรมเตะรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ล็อกเอาไว้ตายตัวแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ
อันดับ 1-2 พบ อันดับ 16 กับ 17 (ผู้ชนะจากสาย 15-16-17-18)
อันดับ 3-4 พบ อันดับ 13 กับ 20 (ผู้ชนะจากสาย 13-14-19-20)
อันดับ 5-6 พบ อันดับ 12 กับ 22 (ผู้ชนะจากสาย 11-12-21-22)
อันดับ 7-8 พบ อันดับ 9 กับ 24 (ผู้ชนะจากสาย 9-10-23-24)
แต่ถ้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายยังใช้หลักการเดียวกับรอบเพลย์ออฟ การจับสลากจะออกมาในรูปแบบนี้แทนคือ
อันดับ 1-2 พบ อันดับ 22 กับ 24
อันดับ 3-4 พบ อันดับ 17 กับ 20
อันดับ 5-6 พบ อันดับ 13 กับ 16
อันดับ 7-8 พบ อันดับ 9 กับ 12
ผมคิดว่ามันดูสมเหตุสมผลกว่าสำหรับทีมวางอันดับ 1-8 ที่เพิ่งจะลงเตะรอบน็อคเอ๊าต์
แค่คิดล่ะครับว่าถ้าเป็นแบบนี้น่าจะลงตัวกว่า แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะระบบไหน ทุกทีมก็แข่งขันในกติกาเดียวกัน
ที่สำคัญคือฝ่ายจัดเองก็ย่อมเก็บเอาข้อดีข้อเสียของกติกาที่ใช้อยู่ไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงต่อไปในอนาคต เพื่อการแข่งขันที่สมบูรณ์ขึ้น
หกโมงเย็นวันพรุ่งนี้มาลุ้นการประกบคู่รอบเพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ ลีก กันครับ
ตังกุย