แมนซิตี้ เกือบจะ 'ตุยเย่' แล้วนะครับ หลังโดนนำก่อนพร้อมคาถามหาอุดของคู่แข่ง แต่สุดท้ายกลับมาชนะ 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 'เพลย์-ออฟ' ของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
1.คลับ บรูซ มาเล่นแบบ 'พาร์ค เดอะ บัส' ด้วยการตั้งรับลึกและปิดพื้นที่ในกรอบเขตโทษแน่นหนาตามสูตรทีมรอง โดยเล่นได้อย่างมีวินัย ใฝ่คุณธรรม และไม่พลาดเลยในครึ่งแรก
ทีมเรือใบครองบอลมากกว่า 70% ทว่าได้แต่เล่นหน้าไลน์ เพราะเจาะเข้าไปไม่ได้ และไม่มีจังหวะทำประตูที่ใกล้เคียงเลย
2.นอกจากจะเล่นเกมรับเหนียวแน่น
เวลาครองบอล ทีมเยือนไม่มีเตะทิ้งเตะขว้าง แต่จะต่อบอลและทำชิ่งกันแม่นยำ ก่อนหาจังหวะวางยาวข้ามแผงหลังของ ซิตี้ ที่ดันขึ้นมาสูง
เท่านั้นไม่พอ สวนแต่ละทีมักหาจังหวะจบด้วยการยิงได้ซะด้วย
ว่าแล้วก็ขึ้นนำ 1-0 ให้ดูซะเลย
3. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แก้หมากใหม่ในครึ่งหลังได้ไฉไลมาก
ครึ่งแรกเล่นในระบบ 3-2-2-3 (WM) เซ็นเตอร์แบ็คตัวเดียว เวลาครองบอลขึงเหมือนมีแผงหน้า 5 ตัว อัดแน่นไปหมดจนไม่มีพื้นที่ในกรอบเขตโทษคู่แข่ง
ครึ่งหลังปรับใหม่ให้ปีก 2 ข้างในครึ่งแรกอย่าง ฟิล โฟเด้น กับ แบร์นาโด้ ซิลวา ที่มีความคล่องตัวหุบเข้ามาทำเกมตรงกลางแล้วให้ ซาวินโญ่ กับ มัตติอัส นูเนซ เล่นเป็นปีกซ้ายและปีกขวา
4.จุดเปลี่ยนคือ แมนซิตี้ ตีเสมอเป็น 1-1 ได้เร็วในช่วงต้นครึ่งหลังจากจังหวะที่ผู้เล่นทีมเยือนตามประกบตัวผู้เล่นของ แมนซิตี้ จนกลายเป็นการเปิดช่องว่างให้มิดฟิลด์ตัวรับอย่าง มาเตโอ โควาซิซ ลากโซโล่ขึ้นไปตรงๆ เป็นท่อ ก่อนสับไกยิงโดยแทบไม่มีใครขวางกั้น
เมื่อถูกตีเสมอ เกมเลยเปิดมากขึ้น เรือใบสีฟ้าเลยมีพื้นที่ว่างมากขึ้น
จบข่าว
5. แมนซิตี้ จบรอบฟุตบอลลีกด้วยอันดับที่ 22 ของตาราง โดยในรอบ 'เพลย์-ออฟ' จะต้องเจอกับทีมอันดับที่ 11 หรือ 12 ของตาราง โดยจะมีการจับสลากประกบคู่วันพรุ่งนี้ (ศุกร์ที่ 31 มค.)
อันดับ 11 คือ เรอัล มาดริด
อันดับ 12 คือ บาเยิร์น มิวนิค
อืมมมมมมมม...นะ