ลิเวอร์พูล ปิดจ็อบถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ ลีกเฟส อย่างเป็นทางการได้เรียบร้อยแล้วเมื่อเปิดบ้านพิชิต ลีลล์ ที่เหลือสิบคนไปแบบเหนื่อยเกินคาดด้วยสกอร์ 2-1 ตบเท้าเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายเป็นผลสำเร็จจากการลงบู๊ที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันอังคารที่ 21 ม.ค. โดย หงส์แดง สร้างผลงานกำชัยได้แบบ 100% ทั้งเจ็ดนัด
1. หงส์ส่ง นูนเญซ ล่าตาข่าย
อาร์เน่อ สล็อต กุนซือทีม ลิเวอร์พูล ตอบแทนความดีความชอบของ ดาร์วิน นูนเญซ ด้วยการส่งเขาลงเล่นเป็นตัวจริงหลังสตาร์ทีมชาติ อุรุกวัย สวมบทซูเปอร์ซับยิงสองตุงในช่วงทดเวลาให้ทีมบุกไปสยบ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก
นอกจาก นูนเญซ แล้ว เจ้าบ้านโรเตชั่นอีกสามตำแหน่งโดย อิบราฮิม่า โกนาเต้ ,เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ , อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โคดี้ กัคโป ได้พักเป็นตัวสำรอง
สำหรับนักเตะที่ได้ออกสตาร์ตเกมนี้อีกสามรายประกอบไปด้วย เคอร์ติส โจนส์ , คอเนอร์ แบรดลีย์ และ จาเรลล์ ควานซาห์ โดยรายหลังได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกในรายการนี้ด้วย
ด้าน โม ซาลาห์ ถูกส่งลงเล่นเป็น 11 คนแรกครบทุกเกมในศึก พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นนี้ ขณะที่ อลิสซง และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รับใช้ หงส์แดง ในเกมหูใหญ่เป็นนัดที่ 50 พอดีด้วยกันทั้งคู่ และเป็นครั้งที่สองของสโมสรที่มีสองนักเตะลงเล่นรายการนี้ครบครึ่งร้อยนัดพร้อมกันต่อจากคู่ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ ซามี่ ฮูเปีย ในเกมบุกดวลกับ อินเตอร์ มิลาน เดือนมี.ค.2008
2. ลีลล์ ได้น้อง เอ็มบัปเป้ ฟิตนั่งสำรอง
ลีลล์ ทีมอันดับสามของ ลีกเอิง ได้ เอธาน เอ็มบัปเป้ กองกลางวัย 18 ปีน้องชายของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่เจ็บต้นขาไปนานฟิตกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง
เทียบจากเกมลีกนัดชนะ นีซ 2-1 เมื่อวันศุกร์ ทีมเยือนโรเตชั่นโผตัวจริงสามรายโดย อาอิสซ่า แมนดี้ และ กาเบรียล กุดมุนด์สสัน ได้กลับมาประจำการณ์ในตำแหน่งฟูลแบ็คแทน โธมัส มูนิเยร์ และ อิสไมลีย์ ที่โดนดร็อปเป็นตัวสำรอง
สำหรับอีกโผ เอ็นกัล อาเยล มูเคา ได้ลงเล่นแทน อังเดร โกเมส อดีตกองกลาง เอฟเวอร์ตัน ที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ ขณะที่ อังเคล โกเมส อดีตกองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด มีชื่อนั่งอยู่ในซุ้ม
3. สถิติใหม่อุบัติ
แม้ ลิเวอร์พูล จะอึดอัดกันไม่น้อยเนื่องจาก ลีลล์ เล่นกันได้ดีโดยไม่ออกอาการหวาดผวาบรรยากาศใน แอนฟิลด์ เลย แต่ในที่สุดความอดทนของ หงส์แดง ก็ได้รับผลตอบแทนเมื่อพวกเขาตัดเกมรุกของทีมเยือนได้ และใช้วิธีโต้กลับเร็วจนได้ประตูจากการผ่านบอลยาวที่ได้น้ำหนักของ โจนส์ จนทำให้ ซาลาห์ หลุดไปซัดตุงตาข่ายเป็นสกอร์นำ 1-0 ในนาทีที่ 34
นับจากนั้นเกมรุกของ ลิเวอร์พูล ก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเนื่องจาก ลีลล์ เดินหน้าสู้หวังทวงสกอร์คืนจนทำให้ เร้ด แมชีน มีพื้นที่ในการทำเกมรุกแบบเต็มตัวมากขึ้น และเกือบได้สกอร์เพิ่มมากกว่าหนึ่งเม็ดในช่วง 45 นาทีแรก
นอกจาก ซาลาห์ จะยิงประตูในถ้วยยุโรปให้ ลิเวอร์พูล ครบ 50 เม็ดพอดีแล้ว ทีมเจ้าบ้านยังสร้างสถิติใหม่ของสโมสรได้สำเร็จอีกด้วยเมื่อไม่โดนเจาะตาข่ายหลังจากเกมดำเนินไปได้ 36 นาทีซึ่งเป็นการไม่เสียประตูในถ้วยยุโรปอย่างต่อเนื่องนานที่สุดเกินกว่า 572 นาทีที่เคยเป็นสถิติในยุคของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ เมื่อซีซั่น 2005/06 โดยเกมสุดท้ายในรายการนี้ที่ ลิเวอร์พูล ชุดนี้โดนสอยตาข่ายเป็นแมตช์แรกสุดที่พวกเขาบุกไปสยบ เอซี มิลาน 3-1
สำหรับ ซาลาห์ ซึ่งเป็นนักเตะ เร้ด แมชีน คนแรกที่ซัดได้ครบ 50 เม็ดพอดีในถ้วยยุโรปสอยตาข่ายเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นัดเหย้าให้ต้นสังกัดเกมนี้ครบ 20 เม็ดพอดีเช่นกัน และเป็นรองแค่ เซร์คิโอ อเกวโร่ กับ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่สอยตาข่ายนัดเหย้าถ้วยหูใหญ่ในสนามของประเทศอังกฤษได้มากที่สุด 23 ประตูเท่ากันที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม และ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
4. จบเห่ที่ 21 นัด
ก่อนบุกมาเยือน แอนฟิลด์ ลีลล์ พกสถิติน่าประทับใจติดตัวมาด้วยเนื่องจากพวกเขาไม่แพ้เลยตลอดการลงเล่นในทุกรายการรวม 21 นัด
ในจำนวนนี้ ทีมจากเมืองน้ำหอมกำชัยได้ 12 นัด (หนึ่งนัดเป็นการชนะดวลลูกโทษหลังเสมอ) แลเสมอ 9 นัด แถมสร้างผลงานชิ้นโบแดงชนะทั้ง เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อีกต่างหาก
อย่างไรก็ดี หลังบุกมาต่อกรกับทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก แถมเป็นเต็งจ๋าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เช่นกันก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะสานต่อผลงานไร้พ่ายให้ยืดยาวออกไปอีกแม้อันที่จริง ลีลล์ ซึ่งเหลือสิบคน แถมตีเสมอ 1-1 ได้เกือบตีเสมอ 2-2 ได้ด้วยซ้ำ
หลังจบสถิติไร้พ่ายเอาไว้ที่ 21 นัดเท่ากับว่าทีมจากเมืองน้ำหอมได้ลิ้มรสชาติความพ่ายแพ้อีกครานับตั้งแต่หนล่าสุดที่พวกเขาออกไปพ่าย สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-0 ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2024 ซึ่งขณะนั้นทีมดังของลีกโปรตุกีสยังมี รูเบน อโมริม คุมทีม
5. ขุมกำลังเชิงลึก
ชัดเจนอย่างยิ่งว่าเหตุที่ ลิเวอร์พูล มีลุ้นประสบความสำเร็จทั้งสี่รายการในซีซั่นนี้เป็นผลมาจากการมีขุมกำลังเชิงลึกที่เหนือกว่าหลายสโมสร
ดังจะเห็นว่าบรรดาตัวสำรองของ เร้ด แมชีน มีศักยภาพด้อยกว่านักเตะขาประจำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และทั้งหมดสามารถลุกจากม้านั่งข้างสนามลงไปพลิกสถานการณ์ หรือพังประตูเพิ่มสร้างความอุ่นใจในการคว้าผลลัพธ์ให้ต้นสังกัดได้เสมอ
อย่างเกมบู๊กับ ลีลล์ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ลุกไปตะบันประตูชัยให้ทีมได้หลังจากโดน ลีลล์ ที่เหลือสิบคนตีเสมอ 1-1 ได้ไม่นานซึ่งการมีตัวสำรองที่ดีส่งผลให้ เร้ด แมชีน สร้างผลงานแข็งแกร่งได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายอย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน
สำหรับประตูของ เอลเลียตต์ ทำให้ ลิเวอร์พูล สอยตาข่ายจากตัวสำรองได้ 4 เกมติดต่อกันในทุกรายการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พวกเขาเคยทำได้ 5 นัดติดต่อกันในยุคของ เบนิเตซ ระหว่างเดือนพ.ย.-ธ.ค.2007
ไม่เพียงเท่านั้น อย่าลืมว่า เฟเดริโก้ เคียซ่า ตัวสำรองชั้นยอดอีกรายของ ลิเวอร์พูล เกือบยิงประตู ลีลล์ ได้เช่นกัน มันจึงฟ้องให้เห็นว่า สล็อต มีไพ่ที่ดีอยู่ในมือเพียบไปหมด และไม่ว่าเขาจะเลือกส่งใครลงสนามก็สามารถทำให้ทีมกลับมากำราบคู่แข่งได้เสมอ
ลิเวอร์พูล 4- แอคคริงตัน 0 (เอฟเอคัพ) : ดีโอโก้ โชต้า น.29, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ น.45, เจย์เดน แดนส์ น.76 (สำรอง), เฟเดริโก้ เคียซ่า น.90 (สำรอง)
ฟอเรสต์ 1- ลิเวอร์พูล 1 (พรีเมียร์ลีก) : ดีโอโก้ โชต้า น.66 (สำรอง)
เบรนท์ฟอร์ด 0- ลิเวอร์พูล 2 (พรีเมียร์ลีก) : ดาร์วิน นูนเญซ น.90+1, น.90+3 (สำรอง)
ลิเวอร์พูล 2- ลีลล์ 1 (แชมเปี้ยนส์ลีก) : โม ซาลาห์ น.34, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.67 (สำรอง)