ดาร์วิน นูนเญซ ซัลโวประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล บุกไปเชือด กระทิงแดง ไลป์ซิก ถึงถิ่น แต่ขอบอกว่า "พระเอก" ของพวกพรี่ๆเขา คือเกมรับที่เหนียวแน่น และแข็งแกร่งโคตร !!!
1.ฤดูกาลนี้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เพิ่งเสียไปแค่ 5 ประตูเท่านั้น แถมก่อนเดินทางไป เยอรมัน พวกเขารักษา "คลีนชีต" ได้ถึง 6 จาก 11 เกมในทุกรายการ เกมรับดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาจนผมรู้สึกว่ามันกลายเป็นจุดเด่นของทีมนี้จากการทำงานของ อาร์เน่อ ชล็อต นี่หว่า นั่นทำให้ผมตั้งใจดู "เกมรับ" ของพวกเขาเป็นพิเศษ
2. เกมล่าสุด กุนซือ ลิเวอร์พูล ปรับหมากจาก 4-2-3-1 มาเป็น 4-3-3 โดยทิ้ง ไรอัน กราเฟนแบร์ค ปักหลักเป็นมิดฟิลด์ตัวรับอยู่หน้าแผงแบ็คโฟร์คนเดียว ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางอีก 2 คน บวกกับกองหน้า 3 คน จะดันขึ้นไปเล่นเกมรับ ตั้งแต่ในแดนของคู่แข่งเลย เกมรับที่แข็งแกร่งเกิดจาก 2 อย่างบวกกัน หนึ่งคือคู่เซ็นเตอร์แบ็คอย่าง อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่มีคุณภาพสูงอยู่แล้ว ไม่พลาดง่ายๆ แถมยังมีมิดฟิลด์ตัวรับคอยลงมาช่วยสอดช่วยซ้อนประหนึ่งเป็นกองหลังอีกคน หนึ่งคือวิธีการเล่น เมื่อฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้างจะไม่ดันขึ้นสูงมากเกินไปแตกต่างจากตอนที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคุมทีมที่ฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้าง เล่นเหมือนเป็นปีกเท่านั้นไม่พอ เวลาลิเวอร์พูลเล่นเกมรับ พวกเขาจะถอยลงมารับทั้งทีม ขนาดกองหน้ากึ่งปีกทั้ง 2 ข้าง ยังต้องขยับลงมาช่วยฟูลแบ็คตามจังหวะ เฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากขึ้นนำ พลพรรคหงส์แดงจะให้ความสำคัญกับเกมรับเป็นพิเศษ
3. ยัง ยังไม่จบแค่นั้นนะครับ ขอโทษ เมื่อเป็นฝ่ายครองบอล พวกเขาจะลดสปีดของเกมรุกให้ช้าลง บางจังหวะเล่นเร็วได้ก็จะไม่รีบร้อน นั่นเพราะไม่ต้องการเสียการครองบอลให้คู่แข่ง (เอามาบุกใส่ตัวเอง) เร็วเกินไป ผิดกับตอน "เจเค" เป็นกุนซืออย่างชัดเจน
4. ช่วง 20 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ครองบอลได้มากกว่าก็จริง แต่เกมรุกยังดูตื้อๆ หาจังหวะทะลวงตาข่ายไม่ค่อยเจอ ขณะที่เกมรุกของ ไลป์ซิก ดูวูบวาบ และหาจังหวะเข้าทำแบบได้น้ำได้เนื้อมากกว่า
ทันใด...เมื่อมีโอกาสจู่โจม ลิเวอร์พูล ทำกันเร็วแล้วยิงประตูได้อย่างเด็ดขาด อันแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ สามารถขึ้นนำได้โดยไม่ต้องบุกกดดันต่อเนื่องอะไรมากนัก ประหนึ่งถูกไฟชอตที่ลูกกระโปก
เพราะหลังจากนั้น เจ้าบ้านก็เสียขบวนไปเลย และเมื่อ ลิเวอร์พูล ตั้งใจเล่นเกมรับ ถ้าไม่แสดงความผิดพลาดออกมาเองแบบง่ายๆ มันยากที่จะเสียประตู
5. เมื่อผมเห็นเกมรับของพวกพรี่ๆ เขาจากการตั้งใจดูและสังเกตเป็นพิเศษ ขอเรียนตามตรงว่าน่าหนักใจแทน อาร์เซน่อล ในศึกใหญ่วันอาทิตย์นี้ยิ่งนัก ปืนโตยังไม่มี มาร์ติน โอเดการ์ด และหากมีอันต้องปราศจาก บูกาโย่ ซาก้า ไปอีกคน ประสิทธิภาพของเกมรุกจะถดถอยลงไปมิใช่เบา
อืมมมมม...นะ