ลิเวอร์พูล รัวแซงหรู, เปิดหัว ชปล. โดนใจ

ส่วนเจ้าบ้านพึ่งชนะเวเนเซีย 4-0 หลังออกตัวเสมอ 2 แพ้ 1 

โค้ชคือ เปาโล ฟอนเซกา ชาวโปรตุกีส ที่พึ่งเข้ารับงานซีซั่นแรก

ทีมเล่นระบบ 4-2-3-1 โดยไลน์เกมรับยืน 4-3-3 

ไมย็อง ; คาลาเบรีย, โทโมรี, พาฟโลวิช, เตโอ

; โฟฟานา, ลอฟตัส-ชีค, ไรน์เดอร์

; โมราตา, พูลิสิช, เลอาว 

อาร์เน่อ โรเตชั่น อย่างที่ตั้งข้อสังเกต 

กัคโป แทน ดิอาส แผงกองกลางชุดเดิม แบ๊กซ้าย ซิมิกาส นอกนั้น9 คนคือตัวจริงชุดแพ้ฟอเรสต์.... 

หงส์โดนเร็วมาก

เหมือนจะเป็นโรคติดต่อซะแล้ว แค่ 167 วินาที ไมย็อง ออกบอลมาทางด้านขวา ซิมิกาส แย่งโหม่งสู้ไม่ได้ บอลหลุดถึง โมราต้า ตวัด ไปพื้นที่หลัง ซิมิกาส ว่างโล่งโจ้ง

พูลิสิช ควบทะลุเขตโทษก่อนสับไกยิงง่ายๆ จังหวะสุดท้ายแมคก้า วิ่งไปช่วยแล้วยังไม่ทัน 

พูลิสิช นี่ชอบยิงลิเวอร์พูลตั้งแต่ไหนแต่ไร.....

ลิเวอร์พูลโดนนำเร็ว 1-0 จากจังหวะบุกของ "ปีศาจแดงดำ" ครั้งแรก

15 นาทีตั้งลำได้ลุยแหลก

ใช้เวลาประมาณนี้หลังจากโดนก่อน โดยมิลาน ของ ฟอนเซกา ยืน  shape 4-3-3 รับแดนสอง แต่พอเล่นไปเด็กหงส์คุมสถานการณ์ได้หมด สร้างจังหวะเข้าแดนสามมากขึ้น มี จังหวะ โม ซาลาห์ ยิงชนคาน อีกด้วย

แดนกลางและแดนบน พยายามเพรสซิงอย่างหนักเพื่อให้มิลานออกบอลยาก 

แดนสองเกมคืนนี้เป็นของหงส์แดงสิ้นเชิง เรียกว่ามิลานแทบไม่ได้บุกเลย รับอย่างเดียว จนกระทั่งเสียประตูสองลูกให้หงส์แดง

เซตพีส ได้ผล

ประตูตีเสมอจากจังหวะ เข้าบอลพรวดพราดของกัปตัน คาลาเบรีย เลยโดนเหลืองและเสียฟรีคิก เทร้นต์ ปั่นเข้าหัว โกนาเต้ ตุงตาข่าย จังหวะนั้น ไมย็อง ออกมาไม่เจอบอลเพราะ โทโมรี บังทางประตูตัวเองซะงั้น.... 1-1 น.24

จากนั้นพายุเกมรุกหงส์โถมเข้าหามิลานอย่างหนักหน่วง

โชต้า ทะลุเขตโทษ กัคโปว่าง ไมย็อง ออกมาปิดมุม โชต้า เลือกยิง เลยออกหลัง

ถ้าผ่านให้ กัคโป ใส่สกอร์ได้ อีกจังหวะ กัคโป ทะลุริมเส้นจ่าย 90 องศา ไมย็องปัดออกมา ซาลาห์ เก็บได้ยิงชนคาน....

ก่อนที่จังหวะเตะมุม น.40 โดย ซิมิกาส เข้าหัว ฟานไดจ์ 2-1 ให้ลิเวอร์พูลนำ

ลูก3 สวนกลับ

เกมครึ่งหลัง มิลานเริ่มกระเตื้องชึ้นบ้าง แต่หงส์ ยังครองบอลบุกมากกว่า แต่ไม่เนี้ยบเหมือนครึ่งแรก 

จนถึงจังหวะ มิลานจ่ายบอลเสีย ในแดนหงส์ 

พอโดนตัดได้บอลเปลี่ยนทรานสิชั่น สวนเร็วถึง กัคโป พาเข้าเขตโทษ ก่อนจ่ายยัดเข้ากลางบอลโดน โซโบ เข้าไป3-1 น.67 

กฟบ มาตรฐาน, กัคโป ใช้ได้ 

ไรอัน กราเฟนแบรก ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ตัดบอลบ่อย เปลี่ยนบอลเร็วได้ดี  เป็นตัวคุมแดนกลางได้ดีต่อเนื่องทุกๆเกม อีกคนที่โดดเด่น คือกัคโป ทั้งการร่วมเล่นกับเพื่อนและใช้ความเร็วโจมตี ฝั่งซ้ายได้ดี 

แน่นอน...การกลับมาชนะหลังจากแพ้ คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น หากทีมหวังแก้ตัวและไม่เสียขบวน เสียความมั่นใจไปมากกว่าเดิม นั่นคือแรงกดดันของ อาร์เน่อ และนักเตะอย่างไม่ต้องสงสัย

จุดที่ยอดเยี่ยมเกมนี้คือการโดนยิงก่อนแล้ว ค่อยๆตั้งสติ ตั้งหลักกลับมาลุยคืนง

จริงๆน่าจะได้จากโอเพ่น เพลย์ มากกว่า ซาลาห์ คนเดียวล่อไปสองคาน แต่มาได้จากจังหวะเซตพีส ที่ต้องถือว่า "ทีเด็ด" และเป็นอาวุธที่ต้องมาติดทีมและงัดมาใช้ได้ตลอดเวลา

3 แต้มแรกในช.ป.ล รูปแบบใหม่ ถือว่ามีชื่อติดอยู่ในตาราง 8 ทีมแรกที่จะผ่านเข้ารอบน้อคเอาต์ไปเลย...แม้ว่า สำนักสถิติของเนลเซ่น จะปรามาสหงส์แดงว่าจบรอบนี้ในอันดับ 9 ต้องไปเพลย์ออฟ 

นั่นต้องรอดูต่อไป...

เช่นเดียวกันกับการรับมือบอร์นมัธ ในแอนฟิลด์ วันเสาร์นี้ เป็นอีกเกมหนึ่งที่ อาร์เน่อ คงจะต้องกำชับลูกทีมและติวอย่างหนัก เพื่อไม่ให้งานสร้างของเขา สะดุด อย่างที่เขาบอกหลังเกมแพ้ฟอเรสต์ว่า 3 นัดที่ทำได้ดีกลับต้องมาเริ่มต้นใหม่ หรือ  set back กับงานสร้างที่เริ่มต้นไปแล้ว