ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก...ยุคใหม่เริ่มต้นแล้ว

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก...ยุคใหม่เริ่มต้นแล้ว
จากยูโรเปี้ยนคัพ 1955....ระบบน็อคเอาต์ ช.ป.ล 1992 รูปแบบลีก+น็อคเอาต์ มาถึง ช.ป.ล. โฉมใหม่ ยุค 2024 "สวิส โมเดล"+น็อคเอาต์ ยูฟ่าบอก….new era begins

เมื่อคืนที่ โมนาโก มีการจับสลากฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โฉมใหม่ ที่เล่นเอาวุ่นวาย ยืดเยื้อ กันไปทั้งโลกกับขั้นตอนการจับสลาก

จริงๆก็ไม่มีอะไรซับซ้อนขนาดนั้น เพราะหลักการก็เริ่มจาก "ทีมวาง" ที่ทางยูฟ่า จัดลำดับตามแรงกิ้งสำหรับสโมสรที่ผ่านคัดเลือกเข้ามาจากอันดับในลีก และโคต้าพิเศษ เพียงแต่พอเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันจาก "แบ่งกลุ่ม" พบกันหมด เหย้าและเยือน มาเป็น Swiss Model 

ก็เลยสงสัยกัน

มันคือรูปแบบที่การเล่นหมากรุกดั้งเดิมที่ชาวสวิสเป็นผู้คิดค้นและริเริ่มเมื่อปี 1895 โน่นเลย แนวคิดเพื่อประกบคู่แข่งขันทัวร์นาเม้นต์ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก แต่ไม่ต้องการให้ตกรอบแบบ "น็อคเอาต์" มันคือรูปแบบน็อคเอาต์ ที่ยังไม่แพ้คัดออก แต่ต้องเล่นให้ครบโปรแกรมที่จับสลากประคู่ อะไรทำนองนั้น

ก็อาจดูงงๆในตอนแรก แต่เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนเข้าใจหมดแล้วว่าไม่มีอะไรซับซ้อน หลังการจับสลากออกมาทั้งสี่โถแล้ว

ผมนั่งดูการถ่ายทอดสดการจับสลากช.ป.ล ทาง beIN Sports1 ที่ผมจ่ายเงินผ่านแอพบีอินรายปี ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นก่อนเข้าการจับสลาก ซึ่งจากการที่เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันทำให้ ยูฟ่า ไม่มีทางเลือก 36 ทีม 4 โถ เนี่ย...ถ้าจับมือละก้อ 4 ช.ม. ไม่รู้จะจบมั้ย จึงต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วย

แนวทางการจับแบบ "ไฮบริด" ใช้ทั้งมือและคอมพิวเตอร์ มาช่วยทำให้ประหยัดเวลาไปได้เยอะ กระนั้นผู้ชมเริ่มรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจเมื่อถึงโถ 3 เพราะความตื่นเต้นมันอยู่โถ 1 และ 2

ก่อนการจับสลากเริ่มต้นขึ้น ยูฟ่า ทำความเข้าใจกับแขกในฮอลล์ และ ผู้ชมทั่วโลกเพื่ออธิบาย ช.ป.ล รูปแบบใหม่เพื่อให้ผู้คนคล้อยตาม เริ่มจากปล่อย  VTR 

ที่ พระเอก (หรือตัวร้าย) อเลกซานเดอร์ เซเฟริน ประธานยูฟ่า ชาวสโลวีเนีย แสดงนำ โดยมี ตำนานระดับ หลุยส์ ฟิโก้, จีจี บุฟฟ่อน, รอบบี้ คีน, โรดริ, รูเบน ดิอาส, เดมเบเล่, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ร่วมแสดง

เปิดเรื่องที่เมือง ปิอาเชนซ่า, อิตาลี โดยกลุ่มตำนานและนักเตะปัจจุบัน อ่านเนื้อหาของ ช.ป.ล รูปแบบใหม่  จีจี บุฟฟ่อน ตัวเดินเรื่อง ตั้งคำถามว่ามันคืออะไรช.ป.ล ยุคใหม่ นักเตะหลายคนพูดว่าซับซ้อน ยุ่งยาก ดูงงๆ กัน เช่น

"ไม่มีรอบแบ่งกลุ่ม"...."ทีมวาง 4 โถ"..... จับกันไง..

เป็นการตั้งคำถามเพื่อให้ เซเฟริน ตอบ ซึ่งพระเอกอย่าง เซเฟริน พอลงจากรถก็เดินเข้าอาคาร เดินไปตอบคำถามทั้ง บุฟฟ่อน, ฟิโก้, เดล บอย ว่าไม่มีอะไรยุ่งยาก ไม่มีเวลาอธิบาย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ก่อนถึงฮอลล์ ที่มีวงออเครสต้า รออยู่พร้อมกันกับ สลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่รอถามอยู่เรื่องรูปแบบใหม่ 

ท่อนหนึ่ง...อำกันขาด 

อิบรา บอกว่าช.ป.ล มักจะมีปัญหา

เซเฟริน แซวว่า "ทำไม คุณไม่เคยได้แชมป์" 555

อิบรา บ่น ตามแคแรกเตอร์ของเขา พร้อมทั้งบอกว่าทำอะไรให้มันง่าย ดีกว่าซับซ้อน แล้วก็ให้ โดนี วาทยากร นำเล่นเพลง (เพลงประจำยูฟ่า ช.ป.ล) พร้อมพูดทบทวนรูปแบบการแข่งขันแบบใหม่แทรกโดย เซเฟริน ตอบ

โดย อิบรา พูดอวยการแข่งขันว่า....นี่คือการแข่งขันที่ดีสุดในโลก...บลา บลา 

ก่อนบอกว่าและนี่คือการเแข่งขัน "ซุ้ปเพ่อ...ลี..."  

จังหวะนั้น เพลงหยุด เซเฟริน รีบห้ามและบอกว่า "มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น" 

ก่อนที่ อิบรา จะให้ โดนี บรรเลงเพลงยูฟ่า ต่อพร้อม...ประโยคที่ว่า

football's never stanstill it's always evolved.... 

ฟุตบอลไม่หยุดนิ่ง มันมีวิวัฒนาการตลอดเวลา

เซเฟริน ทำ VTR โดยมีตำนานนักเตะมาตั้งคำถามก็จริง แต่มันคือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นแหละครับ

-ก้าวสู่ช.ป.ลยุคใหม่

การจับสลากฤดูกาลใหม่ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกพร้อมรูปแบบใหม่ทั้งการจับสลากและการแข่งขันในระบบ Swiss Model ที่ไม่มีการแบ่งกลุ่มเพื่อพบกันหมด แต่เป็นการแข่งขันตามโปรแกรมจับคู่ พร้อมสุ่มประกบคู่ว่าแข่งในหรือนอกบ้าน ไม่มีการแก้มือในคู่แข่งเดียวกัน 

4 โถๆละ9 ทีม ใช้การจับสลากแบบมือและคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็น  software ออกแบบโดย  AE Live,  ที่เขียนโปรแกรมเอาไว้แล้วว่า ชาติเดียวกันจะไม่เจอกันเอง และคู่แข่งแต่ละชาติได้ไม่เกินสองทีม เช่นเดียวกันกับการพบกับคู่แข่งในโถตัวเองได้แค่ 2 ทีมเท่านั้นครบ 4 โถคือ 8 ทีม 

จีจี บุฟฟอน มารับรางวัล "เกียรติยศประธานยูฟ่า" เป็นผู้ใช้มือจับชื่อทีมขึ้นมา ส่วน คริสเตียโน โรนัลโด มารับรางวัล "ดาวยิงช.ป.ล ตลอดกาล" ใช้มือกดปุ่มเพื่อให้ คอมพิวเตอร์ (software random)สุ่มเลือกทีมคู่แข่งว่าเป็นเหย้าหรือเยือน

ใช้เวลาสุ่ม....5-10 วินาทีไม่เกินนี้ ก็ได้คู่แข่งทั้ง 8 ทีม เหย้า 4 และเยือน 4 

โดยไล่ไปตั้งแต่โถ 1 ถึง 4 ให้ครบ ซึ่งแต่ละครั้งจะทราบว่าใครเจอกับใคร

ในการแข่งขันนั้นนับคะแนน 8 นัดทั้งหมด คัดเลือกที่ 1-8 เข้าไปรอในรอบ16 ทีม ส่วนอีก 8 ได้จากการเพลย์ออฟทีมที่มีคะแนน 9-24 ประกบคู่เพลย์ออฟ เหย้าเยือน  ผู้ชนะได้ไปต่อ ผู้แพ้รวมทั้งอันดับ 25-36 ตกรอบรอใหม่ปีหน้าไม่มีลดระดับไปเล่นยูโรปา ลีก เหมือนก่อนอีกแล้ว

จำนวนแมตช์แข่งขันทั้งหมดเพิ่มจาก 125 เป็น 189 แมตช์ อย่างน้อยสุดถ้าตกรอบ ก็แข่ง 8 แมตช์ มากกว่า 6 ซึ่งเงินรางวัลเพิ่มขึ้นจากเดิม และถ้าทะลุไปถึงชิงชนะเลิศ จะต้องลงสนามทั้งสิ้น 17 แมตช์  (กรณีที่อันดับ9-24ชนะเพลย์ออฟ) 

ส่วนโปรแกรมแข่งขันเริ่มแมตช์แรก 17 ก.ย. จบแมตช์ที่ 8 วันที่ 29 ม.ค. เท่ากับว่ามีแข่งทุกเดือนนับจาก ก.ย. ถึง ม.ค. ข้ามปี และเพลย์ออฟ ก.พ. ก่อนที่รอบน็อคเอาต์ ซึ่งแข่งเหมือนเดิมเหย้าเยือนสองนัด จนถึงรอบชิง 31 พ.ค. ที่มิวนิค

นี่คือหลักการง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน

จากโปรแกรมที่สุ่มมาได้ทั้ง 8 นัด มีหลายคู่น่าสนใจและกลับมาเจอกันอีกอย่างเช่น ลิเวอร์พูล-เรอัล มาดริด หรือ บาเยิร์น มิวนิค ไปเยือนแอสตัน วิลล่า อดีตคู่ชิงยูโรเปี้ยน คัพเดิม ปี 1982 ที่ ปีเตอร์ วิธ อดีตโค้ชทีมชาติไทยยิงประตูให้ วิลล่า ชนะ เสือใต้ 1-0 คว้าแชมป์ไปครอง

-คำถามคือว่า...รูปแบบใหม่ นั้นดีอย่างไร 

1 สนุกและตื่นเต้นขึ้น เพราะการเจอแต่ละนัดมันหมายถึงนัดเดียวจบ คือจะไม่เจอกันจนกว่ารอบน็อคเอาต์ แถมเล่นนัดเดียว ไม่เหย้าก็เยือน ไม่มีแก้มือ ดังนั้นต้องเอาชนะกันให้ได้ก่อน เพื่อ3 แต้ม

นั่นรวมทั้งโปรแกรมในกลุ่มทีมวางแต่ละโถ เจอกันเองแค่ 2 ทีม จึงมีทีมใหญ่ได้ฟาดฟันกันมากกว่า 2 คู่ เช่น ลิเวอร์พูล-เรอัล มาดริด, บาเยิร์น-บาร์เซโลนา, 

ลิเวอร์พูล-เลเวอร์คูเซน, แมนฯซิตี้-อินเตอร์ 

2 คู่แข่งหลากหลายขึ้น

ด้วยจำนวนทีมที่เพิ่มจากของเดิม 3 เป็น 8 เพิ่มมา 5 ทีม จึงได้เจอกับทีมแรงกิ้งจาก 10-36 เพิ่มขึ้นอีกห้าทีม ดังนั้นเท่ากับว่าคู่แข่งนั้นมีหลากหลายสไตล์กันออกไป อย่างน้อย 8 ทีมที่ต้องเจอตลอด 5 เดือนรอบลีก สวิส โมเดล ก่อนถึงน็อคเอาต์ คงเจอทีมขาประจำ ทีมเต็งนั่นแหละ 

3 กระจายการแข่งขันไปทั่วยุโรป 

อันนี้เป็นภาพที่ยูฟ่า ต้องการให้ทีมใหญ่ได้มีโอกาสเจอทีมแรงกิ้งระดับโถสามและสี่ ทั่วยุโรป อย่างแมนฯซิตี้ แข่งกับทีมในทอปลีกยุโรป อินเตอร์และยูเวนตุส จากนั้นเจอลีกรองยุโรป เฟเยนอร์ด, สปอร์ติง , คลับ บรูช และเจอทีมลีกระดับ ยูโรปาและคอนเฟอเร้นส์ , สปาร์ต้า ปราก, สโลวัน บราติสสลาว่า ฝั่ง เชคและสโลวะเกีย อย่างเรือใบสีฟ้า เดินทางไปอิตาลี, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, และเช็ก 

4 เงินมากขึ้น

8 นัดก็บวกเงินรางวัลแต่ละแมตช์ เข้าไป หากทะลุถึงรอบชิง ถ้าไม่เพลย์ออฟคือ 15 ถ้าเพลย์ออฟคือ 17 ซึ่งยูฟ่า มีงบแต่ละปีประมาณ £1 พันล้าน หรือ 45,000 ล้านบาท

ก็ขึ้นกับว่าทีมไหนจะคว้าสิ่งแบ่งเค้กชิ้นใหญ่ไปได้มากกว่ากัน

เรื่องเงินเรื่องใหญ่ละครับ เพราะกว่าที่ โมเดล นี่จะคลอดมาดักหน้า "ซุปเปอร์ ลีก" ในปี 2018 "เงิน" นี่แหละคือสิ่งที่เป็นแรงจูงใจให้สมาชิกสโมสรของยูฟ่า ทั้งหมด และมันเป็นการรับประกันว่า "มีเงิน" ให้เยอะ เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมแยกตัวออกไปตั้งลีกใหม่มาแข่ง (ซึ่งทำได้และกำลังจะทำ) 

คำถามสุดท้าย.... นี้ทีมไหนโอกาสแชมป์มากสุด

แม้ยูฟ่าสร้างความตื่นเต้นในรูปแบบใหม่ "สวิส โมเดล" แต่สุดท้ายแล้ว "แชมป์" คงหนีไม่พ้นทีมหน้าเก่าที่เคยเป็นกันมาแล้วนั้นแหละ มันเป็นเพียงแค่ความพยายามในการสร้างเอกภาพในบอลยุโรป เพื่อป้องกันการแยกตัวเองไปจัดตั้ง ซุปเปอร์ ลีกของทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย

ไม่รู้เหมือนกันว่านี้คือการซื้อเวลา....รอการกำเนิดของซุปเปอร์ลีก หรือไม่ เพราะจะว่าไป เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา, ยูเวนตุส สามทีมนี้ไม่เห็นด้วยกับ "สวิส โมเดล" หรือ ช.ป.ล โฉมใหม่ และมั่นใจว่า "ซูปเปอร์ลีก" ดีกว่า

ณ จุดนี้เรามีหน้าที่ชมอย่างสนุกและตื่นเต้นไปก่อน 

ส่วนโฉมใหม่ดีหรือด้อย....รอชมกันยาวๆ บอกไปตอนนี้ก็เหมือนคาดเดากันไปต่างนานา เท่านั้นเอง

JACKIE


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X