หลังจากไม่ได้ดูเกมที่พวกพรี่ๆ ยัดเยียดความปราชัยให้ นาโปลี 2-0 แล้วก็อยากบอกว่า...
1. ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมเลือกดูเกมระหว่าง มาร์กเซย กับ สเปอร์ส ด้วยคิดว่ามันเป็นเกมที่มีความหมายมากกว่า และเข้าใจว่าน่าจะมีอัตราความสะเด่ามากกว่า
ที่ไหนได้นะครับ !!!
เรียนตามตรงว่าเกมที่คลับไก่บุกไปมีชัยทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เล่นกันไม่ค่อยเมามันเท่าไหร่ ดูไปก็ง่วงไป ก่อนจะดูแบบหลับๆ ตื่นๆ
รู้สึกตัวอีกที ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0 อ้าว...เฮ๊ย !!!
2. เข้าไปอ่านรายละเอียดของเกมนี้ในเพจ siamsport แล้วก็พบว่าคอมเมนต์ยอดนิยมคือ...
แมนฯ ยูไนเต็ด เตะวันไหนครับ ???
อืมมมมมม...ดีใจครับ ดีใจที่พวกพรี่ๆ กลับออกมาแล้ว กลับมาหลังหายหน้าหายตาไป 2-3 วัน
เมื่อกลับมาแล้วก็แน่นอนจริงๆ 55555
3. ฟอร์มการเล่นและผลงานของพลพรรคหงส์แดง และฤดูกาลนี้อาจไม่ค่อยโสภาสถาพรสักเท่าไหร่
แต่พวกเขาคือทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้เต็งหนึ่งและว่าที่แชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้
พวกเขาคือทีมเดียวที่เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ได้ในพรีเมียร์ลีก
และพวกเขาคือทีมแรกที่หยุดสถิติชนะ 13 นัดรวดของ นาโปลี แถมเป็นทีมแรกที่ไล่ต้อนจ่าฝูงของ กัลโช่ เซเรีย อา อีกตะหาก
4. โจ โกเมซ หายไปไหนทำไมไม่ยอมส่งลงสนาม ???
5. สเปอร์ส ไปเล่นตั้งรับนะครับ เนื่องเพราะแค่เสมอก็เข้ารอบน็อคเอาต์ 100%
ว่าแล้วจึงถูกเจ้าถิ่นอย่าง โอแอม บุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว ก่อนมีอันต้องสังเวยผู้เล่นสำคัญอย่าง ซน ฮึง มิน ให้อาการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
อันโตนิโอ คอนเต้ ที่คุมทีมจากบนอัฒจันทร์เลือกที่จะส่งมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง อีฟส์ บิซูม่า ลงมาอัดกลางพลางปรับระบบจาก 3-4-3 เป็น 3-5-2 แต่ก็มาโดนนำจนได้ก่อนจบครึ่งแรก
ตอนนั้น สเปอร์ส ตกรอบนะครับ
ต่อเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง 'น้องไก่' ก็แปลงร่างเป็น 'พญาโต้ง' แล้วเร่งเกมรุกในครึ่งหลังจนยิงกระหน่ำได้ถึง 2 ดอก พลิกกลับมาเป็นผู้ชนะพลางเข้ารอบต่อไปในญานะแชมป์กลุ่มซะด้วย
ข่าวดีสำหรับ ลิเวอร์พูล คือเกมที่ต้องบุกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม วันอาทิตย์นี้
ซน ฮึง มิน ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงสนาม เพราะหากถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ตามกฎต้องพัก และห้ามลงสนามอย่างต่ำๆ เป็นเวลา 6 วัน
ย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้ชมเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ นาโปลี (ก่อนสำนึกได้ว่า...คิดผิด)
ขอบคุณพวกพรี่ๆ ที่ช่วยอ่าน รวมถึงช่วยกดแชร์และกดไลค์ให้ด้วยนะครับ
"บอ.บู๋"