แชมป์เก่าฉลุย! แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตบเท้าผ่านเข้าไปเล่นใน รอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ หลังนัดสอง รอบ 16 ทีม ย้ำชัย โคเปนเฮเก้น ด้วยสกอร์เดิม 3-1 (รวมสองนัด 6-2) เพิ่มสถิติชนะ 8 นัดรวดในชปล.ซีซั่นนี้ โดยการประกบคู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายจะมีขึ้นใน วันศุกร์ที่ 15 มีนาคมนี้
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม รับมือ เอฟซี โคเปนเฮเก้น จาก เดนมาร์ก โดยนัดแรกทัพ "เรือใบสีฟ้า" บุกไปคว้าชัย 3-1
เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พักสตาร์รายหลายไว้ข้างสนามเพื่อเก็บไว้สดไว้ในเกมบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ โดยส่งสำรองอย่าง มาเตอุส นูเนส, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ ออสการ์ บ็อบบ์ ลงตัวจริงร่วมกับ โรดรี้ และเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ส่วนทางฝั่ง ยาค็อบ นีสทรู๊ป นายใหญ่ โคเปนเฮเก้น ปรับทัพหลายตำแหน่งโดยแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ และ เอเลียส อาชูรี่
เปิดฉากครึ่งแรกมาไม่ถึง 5 นาที แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว บอลจากลูกเตะมุมของ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เปิดมาเสาแรกให้ มานูเอล อาคันจี เบียดแข้งโคเปนเฮเก้นก่อนแปด้วยขวาเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม
จากนั้นนาทีที่ 9 "เรือใบสีฟ้า" ทะยานนำห่างเป็น 2-0 ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เปิดเตะมุมทางฝั่งซ้ายมาเสาไกล โรดรี้ ขึ้นโขกไปชนคานอย่างจัง บอลกระดอนมาถึง อัลวาเรซ ก่อนตะบันเต็มแรงพุ่งไปตรง คามิล กราบาร่า นายด่านโคเปนเฮเก้นก่อนรับไม่อยู่บอลหลุดมือเข้าประตูไป สกอร์รวมสองนัดตอนนี้ "แชมป์เก่า"นำห่าง 5-1
ทว่า นาที 29 ลูกทีมของ เป๊ป มาเสียสมาธิโดน เอฟซี โคเปนเฮเก้น ตีไข่แตกไล่มา 1-2 จากจังหวะบอลสวนกลับของ โคเปนเฮเก้น โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ พาบอลขึ้นมาก่อนแทงทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษ ออร์รี่ ออสการ์สสัน วิ่งไปรับก่อนตอกส้นจังหวะเดียวให้ เอลยูนุสซี่ วิ่งมาซัดบอลผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าไป
ช่วงทดเจ็บ นาที 45+3 ลูกทีมของ เป๊ป มาหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะวางบอลยาวของ โรดรี้ ให้ ฮาลันด์ หลุดไปพักบอลก่อนดึงเข้าซ้ายซัดเปรี้ยงพุ่งเลียดเสียบเสาแรก
จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เอฟซี โคเปนเฮเก้น 3-1 (สกอร์รวมสองนัด 6-2)
กลับมาต่อในครึ่งหลัง เป๊ป ถอดเอา โรดรี้ ไปพักแล้วส่ง เซร์คิโอ โกเมซ ลงมาเล่นแทน
นาที 66 โคเปนเฮเก้น มีโอกาสลุ้นได้เม็ดที่สองไล่ตีตื้นขึ้นมาหลัง แม็กนุส แม็ตตส์สัน ที่เพิ่งเปลี่ยนลงมาซัดไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน
นาที 74 "เรือใบสีฟ้า" ต้องเสีย มาเตอุส นูเนส ที่มีอาการเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวก่อนที่ เป๊ป จะส่งดาวรุ่งอย่าง ไมกาห์ ฮามิลตัน ลงเล่นแทน
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นเม็ดสี่ หลัง ริโก้ ลูอิส เติมขึ้นมาซัดบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ทุบเอาชนะ โคเปนเฮเก้น 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 6-2
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน - ริโก้ ลูอิส, มานูเอล อาคันจี, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล - โรดรี้, มาเตโอ โควาชิช - มาเตอุส นูเนส, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ออสการ์ บ็อบบ์ - เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
โคเปนเฮเก้น (5-3-2) : คามิล กราบาร่า - ปีเตอร์ แอนเกอร์เซ่น, เอเลียส เยเลิร์ต, เดนิส วาฟโร, สกอตต์ แม็คเคนน่า, เควิน ดิ๊กส์ วิกตอร์ โฟรโฮล์ดท์, ออร์รี่ ออสการ์สสัน, วิลเลี่ยม เคลม - โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่, เอเลียส อาชูรี่