โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ บาเยิร์น ระบุ เห็นใจ เอริค เทน ฮาก สุดๆ ที่เจอปัญหาหลายอย่างในการทำงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เชื่อว่ากุนซือชาวดัตช์มีดีพอที่จะพาทีมกลับมาได้
โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวว่าตนรู้สึกเห็นใจ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เจอปัญหาหลายอย่างจนทำให้มีข้อจำกัดพอตัวในการทำทีม หลังจาก "เสือใต้" บุกไปชนะอีกฝ่าย 1-0 ถึงสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ เมื่อวันอังคารที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ก่อนลงเล่นเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องชนะให้ได้รวมถึงลุ้นให้ โคเปนเฮเก้น เสมอกับ กาลาตาซาราย เพื่อที่จะได้เข้ารอบ ต่างกับ บาเยิร์น ที่การันตีการเป็นแชมป์กลุ่มไปแล้ว ซึ่งสุดท้าย "ปีศาจแดง" ก็ทำไม่สำเร็จจนทำให้พวกเขาจบด้วยการเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่ม รวมถึงยังมีผลงานที่เลวร้ายอย่างต่อเนื่องในซีซั่นนี้
หลังโดนถามว่าเขาเห็นใจ เทน ฮาก ที่ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือไม่แล้วนั้น ทูเคิ่ล ก็ตอบว่า "ผมจะรู้สึกเห็นใจโค้ชคนอื่นเกือบตลอดเวลานั่นแหละ แต่เมื่อต้องลงเล่นแล้วนั้นเราก็จะพยายามทำทุกทางเพื่อเอาชนะเกมของเราให้ได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ มันก็แค่นั้น นี่เป็นเหมือนกฎของกีฬาระดับสูง เราเล่นด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อที่จะเอาชนะเกมของเราเองให้ได้"
"แน่นอนว่าผมเห็นใจเขา ผมคิดว่านักเตะตัวหลักหลายคนของเขาได้รับบาดเจ็บจนทำให้พลาดเกมสำคัญไป นอกจากนี้คุณก็จะเห็นได้เลยว่าพวกเขาขาดบุคลิกและคุณภาพที่สำคัญๆ รวมถึงขาดตัวสำรองที่จะเปลี่ยนเกมได้ ผมคิดว่าพวกคุณเองก็คงเห็นถึงเรื่องนั้น"
"ใช่ มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ง่าย (สำหรับ เทน ฮาก) เลย แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขารู้ดีว่าต่อจากนี้ต้องทำอะไร เขารู้ดีว่ามันต้องทำยังไงถึงจะสร้างอิทธิพลที่ดีต่อทีมของตัวเองได้ เขาไม่ต้องการคำปรึกษาจากผมหรอก เขาไม่จำเป็นต้องให้ผมไปตบไหล่เพื่อให้กำลังใจเลย เขามีประสบการณ์มากพอที่จะผ่านพ้นปัญหาทุกอย่างไปได้"
"เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมเองก็ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีเท่าไหร่ (แพ้ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 5-1) ผมบอกเลยว่าบางครั้งในฐานะโค้ชแล้วน่ะคุณก็จะรู้สึกโดดเดี่ยวได้เหมือนกัน โดยรวมแล้วผมเห็นใจเพื่อนร่วมงานทุกคน เพราะผมรู้ดีว่ามันต้องทำอะไรเพื่อที่จะทำให้ทุกอย่างยังเดินหน้าต่อไปได้"
พอถูกถามเพิ่มว่าเขาแปลกใจหรือไม่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นบ๊วยของกลุ่มนี้นั้น ทูเคิ่ล ก็บอกว่า "แน่นอนว่าผมแปลกใจ นี่เป็นสโมสรใหญ่และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดว่าจะเจอในตอนที่ผลจับสลากมันออกมาในตอนแรก ตอนนั้นคุณคงคิดทันทีว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีลุ้นเป็นแชมป์กลุ่มและได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย"
"อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของผมมันบอกกับผมตั้งแต่แรกว่านี่เป็นกลุ่มที่หิน เราอาจจะดูเหนือกว่าทีมอื่นในเรื่องของจำนวนแต้มที่ทำได้ ฯล แต่จริงๆ แล้วเกมแต่ละนัดมันสูสีกันมากๆ และผลการแข่งขันมันก็เป็นการชนะแบบฉิวเฉียด คู่แข่งแต่ละทีมเป็นทีมที่หิน และมีสไตล์การเล่นที่ต่างกันไป"
"คุณจะเห็นได้เลยว่าก่อนลงเล่นเกมนี้ทุกอย่างมันยังเป็นไปได้สำหรับ ยูไนเต็ด และในบางเกมสถานการณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในชั่วพริบตา พวกเขาเคยนำห่างใน อิสตันบูล แต่แล้วก็ปล่อยแต้มหลุดมือไป พวกเขาเคยนำห่างใน โคเปนเฮเก้น ซึ่งอาจจะเป็นเกมที่มีส่วนตัดสินชี้ขาด (ต่อการเข้ารอบ) ได้เลยเช่นกัน"
"อย่างที่ผมบอกไปนั่นแหละว่าพวกเขาเป็นทีมใหญ่, เป็นสโมสรใหญ่, เป็นทีมที่อันตราย นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราดีใจมากๆ ที่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ เราแสดงให้เห็นว่าเราสามารถกลับมาได้ (จากความพ่ายแพ้นัดล่าสุด) และแสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาที่ดีได้ด้วยผลการแข่งขันที่ดี เราดีใจที่ทำแบบนั้นได้"