นี่มันอะไรกันเนี่ย! สิ่งที่อยากบอกหลัง ลิเวอร์พูล ถล่ม เรนเจอร์ส

นี่มันอะไรกันเนี่ย! สิ่งที่อยากบอกหลัง ลิเวอร์พูล ถล่ม เรนเจอร์ส
พวกพรี่ๆ ผู้อหังการกลับมาแล้ว ???

ก่อนเปิดบ้านเจอศึกหนักกับ แมนฯ ซิตี้ ในวันอาทิตย์นี้ ลิเวอร์พูล บุกถล่ม เรนเจอร์ส 7-1 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก พลางกระชากความมั่นใจกลับมาได้มากมายเลยทีเดียว

และนี่คือสิ่งที่อยากจะบอก

1. เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงใช้กองหน้า 2 คนเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน

ระบบการเล่นไม่ใช่ 4-3-3 เหมือนผังที่ขึ้นในการถ่ายทอดสดแน่ เพราะ ดาร์วิน นูนเญซ เล่นเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นตัวสนับสนุน

ขนาบข้างด้วย ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ทางซ้าย และฮาวี่ย์ เอลเลียตต์ ทางขวา คู่กลางคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโญ่

โจ โกเมซ เป็นแบ็คขวาแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เจ็บ ขณะที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ ลงแทน โฌแอล มาติ๊ป

เรียกว่าเป็นชุดเกือบใหญ่แล้วกัน

กระนั้นก็ยังดูดีกว่าและเหนือกว่าเจ้าบ้านเยอะ

2. พลพรรคหงส์แดงเริ่มต้นได้ไม่ค่อยไฉไลสักเท่าไหร่

คือเล่นกันเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนอีกแล้ว ต่อบอลกันขาดๆ เกินๆ ดูสะเปะสะปะชอบกลจนตั้งเกมของตัวเองไม่ได้สักที

ทันใดก็ถูกคู่แข่งขึ้นนำก่อนตามสูตร

อันนี้กลายเป็นเรื่องปกติของพวกพรี่ๆ เขาไปแล้ว แถมยังเป็นอีกครั้งและอีกครั้งและอีกครั้งที่เสียประตูง่ายๆ 

จังหวะที่ สก๊อตต์ อาร์ฟิลด์ สับไกยิงให้ เรนเจอร์ส นำ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หายไปไหนก็ไม่รู้ ???

หลังจากนั้น อาการของ ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ รูปเกมก็มิได้เหนือกว่าเจ้าถิ่นตามชื่อชั้นของผู้เล่นที่เหนือกว่าจนเกือบเสียประตูที่ 2 อยู่รอมร่อ

แต่ยังดีที่มีทีเด็ดในการเล่นลูกเตะมุม

ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเลยก็ว่าได้ พวกพรี่ๆ ที่เล่นไม่ค่อยดีตีเสมอได้เฉยเลย !!!

3. เปอร์เซ็นต์การครองบอลในครึ่งแรกค่อนข้างสูสีนะครับ ทว่าจังหวะการเข้าทำ เรนเจอร์ส ได้น้ำได้เนื้อกว่าชัดเจน

เข้าใจว่าคงเกิดอะไรสักอย่างในห้องแต่งตัวระหว่างพักครึ่ง

บางทีอาจมีระเบิดลง โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่น่าจะพูดอะไรบางอย่างกับลูกทีมแบบเปิดอก

เพราะ ลิเวอร์พูล ลงมาเล่นในครึ่งหลังเหมือนเป็นคนละทีมจากในครึ่งแรก

พวกพรี่ๆ เขาดูกระตือรือร้น & หื่นกระหายมากยิ่งขึ้น ต่อบอลกันรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

เกมรุกดุดันขึ้นอย่างมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

...ว่าแล้ว โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก็กระทุ้งให้ ลิเวอร์พูล พลิกกลับมานำ 2-1 และหลังจากนั้นคือเหตุฆาตกรรมหมู่เลื่อยไฟฟ้าแห่ง กลาสส์โกว์

4. หลังจาก ดาร์วิน นูนเญซ กดดอกที่ 3 ให้ ลิเวอร์พูล

สารภาพตามตรงว่าผู้ชมทางบ้านอย่างผมเผลอหลับไป

ตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีตอน โม ซาล่าห์ ทำแฮตทริคได้สำเร็จเรียบร้อย

อ้าว...พี่แกถูกส่งลงมาตอนไหนเนี่ย ???

เท่านั้นไม่พอ

ดิโอโก้ โชต้า ยังทำแฮตทริค-แอสซิสต์ อีกตะหาก

ก่อนสืบทราบภายหลังว่ามันเป็นการทำแฮตทริคที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

นี่มันอะไรกันเนี่ย

5. แม้นจะเป็นการถล่มหมู

อย่างน้อย ลิเวอร์พูล ก็เรียกขวัญและกำลังใจกลับมาได้เยอะเลยทีเดียว ก่อนเปิดบ้านเจอ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และพวกพ้องในวันอาทิตย์นี้ 

สิ่งที่น่าสังเกตคือถ้าจะเล่นให้ดี ลิเวอร์พูล ก็เล่นได้นะครับ แถมน่ากลัวด้วย เพราะหงส์แดงชุดนี้เป็นทีมที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงอยู่แล้ว

สันนิษฐานว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะทำอะไรสักอย่างกับลูกทีมในช่วงพักครึ่ง

บอ.บู๋


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport