"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีหวังเล็กๆ ในการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่ บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านเจ๊า เอฟซี โคเปนเฮเก้น 0-0 โดยที่เกือบได้ลูกจุดโทษช่วงทดเจ็บครึ่งหลัง
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดห้า ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค พบ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ที่สังเวียนแข้ง อัลลิอันซ์ อารีน่า คืนวันพุธที่ 29 พฤศจิกายน
ถึงแม้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มเรียบร้อย และไม่จำเป็นต้องเน้นอะไรมาก แต่กุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล ก็ยังส่ง แฮร์รี่ เคน ล่าประตูเช่นเคย พร้อมให้โอกาส โธมัส มุลเลอร์ สตาร์ทตัวจริง เช่นเดียวกับ มาติส แตล
ช่วงต้นเกม บาเยิร์น ครองบอลบุกมากกว่า แต่หาโอกาสจบสกอร์แบบเน้นๆ ไม่ได้ จนกระทั่งถึงนาทีที่ 31 ซึ่ง โธมัส มุลเลอร์ ได้โขกระยะไม่กี่หลา แต่ คามิล กราบาร่า นายทวารทีมเยือน พุ่งเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
"เสือใต้" เล่นดูดีกว่า แต่ โคเปนเฮเก้น ก็สู้ได้ดี ไม่ปล่อยให้เจ้าถิ่นเข้าจบสกอร์ง่ายๆ
จบครึ่งแรก บาเยิร์น เสมอ โคเปนเฮเก้น 0-0
ครึ่งหลัง บาเยิร์น ยังครองเกมได้มากกว่า แต่ก็ไม่ค่อยเน้น หาโอกาสจบสกอร์สวยๆ ไม่ได้ แถมช่วงท้ายเกมกลายเป็น โคเปนเฮเก้น ที่ได้เสียว จากจังหวะชุลมุนหน้าประตู ซึ่ง มานูเอล นอยเออร์ ยอดนายทวาร "เสือใต้" ต้องออกแรงเซฟบนเส้น
ช่วงทดเจ็บ บาเยิร์น ได้ลูกจุดโทษจากการทำแฮนด์บอลของผู้เล่นทีมเยือน แต่สุดท้ายผู้ตัดสินหญิง สเตฟานี ฟรัปปาร์ กลับการตัดสินใจ หลังจากที่ VAR เช็คเรียบร้อย
สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ จบเกม บาเยิร์น เปิดบ้านเสมอ โคเปนเฮเก้น 0-0 โดย "เสือใต้" ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่มเรียบร้อย มี 13 แต้ม ส่วน โคเปนเฮเก้น ขึ้นมาอยู่ที่สอง มี 5 แต้ม เท่ากับ กาลาตาซาราย ทีมอันดับสาม ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รั้งอันดับสุดท้าย มี 4 แต้ม ซึ่งทั้งสามทีมนี้ต่างมีลุ้นผ่านเข้ารอบในนัดสุดท้าย ที่จะฟาดแข้งกันในวันอังคารที่ 12 ธันวาคม โดย "ปีศาจแดง" จะเปิดบ้านรับมือ บาเยิร์น ส่วน โคเปนเฮเก้น เจอ กาลาตาซาราย ที่บ้านตัวเอง