ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ หรือศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ประจำปี 2023 จบลงด้วยความชื่นมื่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของถ้วยบิ๊กเอียร์ซีซั่นล่าสุดที่พวกเขาเอาชนะ เซบีย่า ไปได้ในช่วงดวลจุดโทษ หลังจากตอนแรกมันจบด้วยการเสมอกัน 1-
นี่นับเป็นแชมป์รายการที่ 4 ของ แมนฯ ซิตี้ ภายในปี 2023 ต่อจากการได้ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ ของซีซั่นก่อน แถมถือเป็นหนแรกที่พวกเขาได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ด้วย ซึ่งมันก็มีเกร็ดหลายอย่างที่น่าพูดถึงเกี่ยวกับเกมนี้
- สโมสรจากอังกฤษผูกพันกับดวลเป้า
ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ที่ศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ต้องตัดสินผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งมันก็เป็นเหมือนเรื่องบังเอิญที่ทั้ง 4 หนที่ว่านั้นมันต้องเป็นเกมที่มีสโมสรจากอังกฤษลงเล่นด้วยทั้งหมด
สำหรับ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ประกอบด้วยเกมระหว่าง บาเยิร์น (แชมป์ ชปล.) กับ เชลซี (แชมป์ ยูโรปา ลีก) เมื่อปี 2013, ลิเวอร์พูล (แชมป์ ชปล.) กับ เชลซี (แชมป์ ยูโรปา ลีก) เมื่อปี 2019 และนัดที่ เชลซี (แชมป์ ชปล.) ดวลกับ บียาร์เรอัล (แชมป์ ยูโรปา ลีก) เมื่อปี 2021 ซึ่งทั้ง 3 ครั้งที่ว่าทีมที่ชนะในช่วงดวลจุดโทษก็เป็นทีมที่ลงเล่นเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในฐานะแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นเดียวกับในปีนี้ด้วย
- สถิติของเจ้าหนู พาลเมอร์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า โคล พาลเมอร์ ถือเป็นหนึ่งในฮีโร่ของ แมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้ เพราะเขาเป็นคนทำประตูตีเสมอให้กับทีมในนาทีที่ 63 จนทำให้ทีมรอดตายในช่วงเวลาปกติมาได้ก่อนจะไปชนะในช่วงดวลจุดโทษ
ผลงานดังกล่าวทำให้ พาลเมอร์ นับเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ทำประตูในเกม ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ได้ ด้วยวัย 21 ปีกับ 102 วัน โดยอันดับ 1 ในชาร์ตนี้คือ มาร์โก อเซนซิโอ ที่เคยทำประตูได้ตอนอายุ 20 ปีกับ 201 วัน ให้กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2016
นอกจากนี้ พาลเมอร์ ก็ถือเป็นนักเตะคนที่ 2 ที่ทำประตูทั้งในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ได้ภายในปีเดียวกันด้วย โดยคนแรกคือ ไมเคิ่ล โอเว่น ที่ทำเอาไว้ตอนอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2001
- อาถรรพ์
หลายคนตั้งฉายาให้กับ เซบีย่า ว่าเป็น "เจ้าพ่อ ยูโรปา ลีก" ซึ่งมันก็เป็นฉายาที่สมเหตุสมผลเพราะนี่คือแชมป์ ยูฟ่า คัพ/ยูโรปา ลีก มากที่สุดตลอดกาล ที่จำนวน 7 สมัย โดยมันมาจากการเข้าชิงชนะเลิศ 7 ครั้ง พูดอีกแบบก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่ไปถึงนัดชิงดำ เซบีย่า ก็จะได้แชมป์อยู่เสมอ
น่าเสียดายที่เทรนด์แบบนั้นไม่เกิดกับพวกเขาใน ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เพราะจากทั้งหมด 7 ครั้งที่ได้ลงเล่นรายการนี้ เซบีย่า ได้แชมป์แค่หนเดียว นั่นคือปี 2006 และความพ่ายแพ้ครั้งนี้ก็เป็นการตอกย้ำ เซบีย่า ในฐานะทีมที่เป็นรองแชมป์รายการนี้มากที่สุดตลอดกาลต่อไปจากการที่มันเพิ่มเป็น 6 สมัย โดยอันดับ 2 คือ บาร์เซโลน่า ที่เคยแพ้ในรายการนี้ 4 ครั้ง
- ความยอดเยี่ยมของ เป๊ป
กวาร์ดิโอล่า ได้โอกาสนำทีมลงเล่นเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ เป็นสมัยที่ 4 และเขาก็ได้แชมป์ครบทั้ง 4 ครั้ง ซึ่งมันก็ทำให้เขาเป็นกุนซือที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 1 ร่วมกับ คาร์โล อันเชล็อตติ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต่างไปจาก อันเชล็อตติ ก็คือ กวาร์ดิโอล่า กลายเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ 3 ทีม โดยก่อนหน้านี้เขาพา บาร์เซโลน่า ได้แชมป์รายการนี้ 2 สมัย ประกอบด้วยปี 2009 กับ 2011 และกับ บาเยิร์น มิวนิค 1 ครั้งเมื่อปี 2013
- เด็กเกร็ดบอล -