เป๊ป ล่าโทรฟี่แรกของซีซั่น ! 5ประเด็น แมนซิตี้ ดวลลูกโทษดับ เซบีย่า ศึกซูเปอร์คัพ

เป๊ป ล่าโทรฟี่แรกของซีซั่น ! 5ประเด็น แมนซิตี้ ดวลลูกโทษดับ เซบีย่า ศึกซูเปอร์คัพ
แมนฯ ซิตี้ แชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ประสบความสำเร็จได้แชมป์ใบแรกของซีซั่นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังดวลลูกโทษสยบ เซบีย่า แชมป์ ยูโรปาลีก 5-4 ในเกม ซูเปอร์คัพ ที่กรุง เอเธนส์ , กรีซ เมื่อวันพุธที่ 16 ส.ค. หลังจากทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาปกติ 1-1

ก่อนหน้านี้ เรือใบสีฟ้า ซึ่งคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เมื่อซีซั่นก่อนพลาดท่าพ่ายการดวลลูกโทษให้กับ อาร์เซน่อล ในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ แต่ในที่สุดพวกเขาก็แก้ตัวได้สำเร็จหยิบแชมป์ใบแรกของซีซั่นไปประดับตู้โชว์จนได้

1. เรือใบเปิดซิง กวาร์ดิโอล ตัวจริง


แมนฯ ซิตี้ จัดทัพด้วยการส่ง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนใหม่ลงสนามเป็นตัวจริงเกมแรก รวมแล้วพวกเขาเปลี่ยนโผตัวจริงสี่รายจากเกมเปิดซีซั่น พรีเมียร์ลีก ที่บุกไปอัด เบิร์นลีย์ 3-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นอกจากอดีตสตาร์ทีม แอร์เบ ไลป์ซิก ที่ถูกจับให้เล่นเป็นแบ็คซ้ายเกมนี้แล้ว เรือใบสีฟ้า เลือกใช้งาน โคล พาลเมอร์ , มาเตโอ โควาซิช และ แจ็ค กรีลิช แทนที่ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งเจ็บหนัก ขณะที่ ริโก้ ลูอิส กับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ หล่นไปนั่งข้างสนาม ส่วน แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่พร้อมต่อสัญญาใหม่หลุดโผเนื่องจากป่วย

ขณะเดียวกัน เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ปราการหลังทีมชาติ สเปน มีชื่อเป็นตัวสำรองด้วยแม้จะมีข่าวระบุว่าแชมป์ แชมเปี้นส์ลีก ตอบรับข้อเสนอขายเขาให้กับ อัล นาสเซอร์ ทีมลูกหนังในลีก ซาอุดิ อาระเบีย แล้วก็ตาม

2. กัปตัน นาวาส ฟาดเกือกทีมเก่า


โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ กุนซือทีม เซบีย่า โรเตชั่นนักเตะตัวจริงสองตำแหน่งจากเกม ลา ลีกา นัดแพ้ บาเลนเซีย คารัง 2-1

แชมป์ ยูโรปาลีก เลือกดร็อป แฟร์นานโด กับ ซูโซ่ อดีตกองกลาง แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ให้นั่งสำรองโดยมี โจน จอร์ดาน กับ โอลิเบร์ ตอร์เรส ได้เสียบแทน

ขณะเดียวกัน เฆซุส นาวาส กัปตัน เซบีย่า ได้ออกสตาร์ตดวลกับอดีตสโมสรใน พรีเมียร์ลีก หากแต่ในวัย 37 ปี อดีตปีกทีมชาติ สเปน หันมาสวมบทแบ็คขวาในเกมนี้

3. ปีทองของ เอ็น เนเซรี่


แม้เกมในครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ จะบุกได้เหนือกว่าตามความคาดหมาย แต่เป็น เซบีย่า ที่พังประตูนำหน้าได้ก่อนในนาทีที่ 25 จากลูกโขกของ ยุสเซฟ เอ็น เนเซรี่  ที่ มาร์กอส อคุนญ่า สาดมาให้จากทางซ้าย

สำหรับจังหวะนี้บอกเลยว่าไม่ง่ายเนื่องจากกองหน้าทีมชาติ โมร็อกโก โดนประกบสองด้วยจาก นาธาน อาเก้ และ กวาร์ดิโอล แต่เขาเอาชนะการถูกแซนด์วิชได้อย่างร้ายกาจพาแชมป์ ยูโรปาลีก ขึ้นนำในจังหวะที่พวกเขาส่งบอลเข้ากรอบเป็นครั้งแรกซะด้วย

ถึงขณะนี้ เอ็น เนเซรี่ กระทุ้งประตูในปี 2023 เป็นเม็ดที่ 18 แล้วซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในบรรดานักเตะของ ลา ลีกา ที่เช็กบิลได้ในทุกรายการ ขณะที่อันดับสองได้แก่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่งทำได้ 15 ประตู

และอย่างที่บอก จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ซึ่งเล่นได้ดีกว่าแต่ตกเป็นรองมีเปอร์เซนต์การครองบอลเหนือกว่าถึง 74:26% และได้สับไก 9:4 ครั้ง อีกทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 3:1 ครั้ง แต่ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลัง

ถึงกระนั้น หาก เอ็น เนเซรี่ มีความเฉียบคมมากกว่านี้ในครึ่งหลังซึ่งเขาหลุดเดี่ยวไปสับไกถึงสองหน แต่ดันยิงไปให้ เอแดร์ซอน เซฟได้จึงทำให้ เรือใบสีฟ้า ยังไม่ตายสนิท และนับเป็นจุดบกพร่องที่กองหน้าตัวความหวังของ เซบีย่า สมควรแก้ไขให้ได้เพราะการทิ้งโอกาสทองอย่างพร่ำเพรื่อไม่ใช่คุณสมบัติของนักเตะที่ต้องการผงาดขึ้นเป็นศูนย์หน้าระดับเวิลด์คลาส

4. พาลเมอร์ แจ้งเกิดเต็มตัว


ว่ากันตามจริง แมนฯ ซิตี้ ออกสตาร์ตครึ่งหลังได้อย่างเลวร้ายโดยเกือบตาข่ายขาดเพิ่มหลายหนด้วยซ้ำ แต่ปรากฏว่า เอ็น เนเซรี่ ออกอาการเกือกทื่อหลุดเดี่ยวไปซัดเพิ่มสกอร์ให้ทีมไม่สำเร็จ

และในที่สุด จู่ๆ เรือใบสีฟ้า ที่เกมเริ่มเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดก็คายพิษสงตีเสมอได้ในนาทีที่ 63 จากลูกโขกของ พาลเมอร์ ที่ โรดรี้ สาดมาให้ช่วยพลิกสถานการณ์ให้ทีมจากเมืองผู้ดีได้สำเร็จ  และทำให้เขาเป็นนักเตะอิงลิชคนแรกที่ซัดประตูได้ในรายการนี้ต่อจาก แกรี่ เคฮิลล์ ในปี 2012

ถึงตรงนี้ ดาวเตะวัย 21 ปีสอยตาข่ายในซีซั่นนี้ได้สองประตูแล้วเนื่องจากเขาคลำเป้าได้เช่นกันในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ และยิ่ง เดอ บรอยน์ เจ็บยาวจึงเชื่อขนมกินได้เลยว่า กวาร์ดิโอล่า จะส่งเขาลงเล่นอย่างต่อเนื่องซึ่งหากเป็นอย่างนั้นเราก็น่าจะได้เห็นเขาผลิตประตูให้กับทีมได้มากขึ้นอย่างแน่นอนจากสัญชาติญาณการทำประตูที่น่าจับตามองโดยก่อนหน้านี้ สาวก เรือใบสีฟ้า ได้ปลื้มกับการแจ้งเกิดของ ฟิล โฟเด้น มาแล้ว และในเวลานี้ พาลเมอร์ เด็กปั้นอีกรายของทีมกำลังเจริญรอยตามอย่างเห็นได้ชัด

แม้ช่วงห้านาทีสุดท้าย พาลเมอร์ จะโดนเปลี่ยนออกให้ อัลวาเรซ ลงไปเล่นแทน และกองหน้าอาร์เจนไตน์ยิงลูกโทษไม่พลาด แต่ประตูตีเสมอของเขามีส่วนสำคัญทำให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้เป็นสมัยแรกซึ่งแม้จะต้องอาศัยการดวลความแม่นเป้า แต่รวมแล้ว เรือใบสีฟ้า สมควรเป็นผู้ชนะหากเราจะมองดูผลงานใน 90 นาทีซึ่งทีมของ กวาร์ดิโอล่า ครองบอลได้มากกว่า 74:26% และได้ยิงมากกว่า 23:8 ครั้ง รวมทั้งเข้ากรอบมากกว่า 7:4 ครั้ง

5. เกมหน้าต้อนรับสาลิกามีอ้วก


แม้จะประสบความสำเร็จได้แชมป์ ซูเปอร์คัพ แต่อย่างที่รู้กันว่า กวาร์ดิโอล่า ไม่ปลื้มเท่าไหร่ที่ทีมมีคิวลงสนามถี่ยิบตั้งแต่ต้นซีซั่น และต้องลงเล่นนัดกลางสัปดาห์ก่อนเปิดบ้านฟัดกับ นิวคาสเซิ่ล ทีมแกร่งอีกรายในเกม พรีเมียร์ลีก วันที่ 19 ส.ค.

แน่นอนว่าแม้เกม ซูเปอร์คัพ จะเล่นกันโดยไม่มีการต่อเวลาพิเศษ แต่ยังไงซะขุนพล เรือใบสีฟ้า ย่อมเสียเปรียบ สาลิกาดง แน่ในเรื่องสภาพความฟิตเนื่องจากขุนพลของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว ได้พักมากกว่า แถมไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางอีกด้วย อีกทั้งเกมเปิดซีซั่นพวกเขาแผลงฤทธิ์ถล่ม แอสตัน วิลล่า 5-1 ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค นำเป็นจ่าฝูงของตารางตั้งแต่หัววัน

กระนั้นก็ดี เหมือนว่ากุนซือสแปนิชจะมองหาทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว และไม่แน่ใจว่ามันจะสื่อไปถึงการจัดทัพรับมือกับทีมอีสานหรือเปล่าดังจะเห็นว่าเกมที่ เอเธนส์ ยอดผู้จัดการทีมสกินเฮดไม่มีการเปลี่ยนตัวสำรองเลย ยกเว้น พาลเมอร์ รายเดียวที่โดนถอดออกในช่วงห้านาทีสุดท้ายให้ อัลวาเรซ ลงไปร่วมสังหารลูกโทษ


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport