นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ อินเตอร์ มิลาน สโมสรชั้นนำของศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หลังจากล่าสุดพวกเขาชนะ เอซี มิลาน 1-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสองได้ จนทำให้ตีเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3-0 เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
สำหรับ อินเตอร์ แล้วนั้น นี่ถือเป็นการได้เข้าไปเล่นนัดชิงดำของศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 เลยทีเดียว แต่นอกจากเรื่องนั้นแล้วก็ยังมีเกร็ดที่น่าสนใจอีกบางอย่างเช่นกัน
- สายเลือดอาร์เจนไตน์ในรัง เนรัซซูรี่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ อินเตอร์ แทบจะขาดไม่ได้ไปแล้ว โดยนัดล่าสุดเขาเป็นคนทำประตูชัยให้กับทีมจนทำให้ตลอดทั้งซีซั่นนี้ยิงไปแล้ว 25 ลูกในทุกรายการ ซึ่งในจำนวนนั้นเกิดขึ้นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 หน
ทั้งนี้ หากนำไปนับรวมกับผลงานของเขาในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นก่อนๆแล้วล่ะก็ มาร์ติเนซ ก็ทำประตูให้ อินเตอร์ ในถ้วยนี้แตะหลัก 10 ลูกพอดิบพอดี ส่งผลให้ มาร์ติเนซ ถือเป็นนักเตะชาวอาร์เจนไตน์คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับ อินเตอร์ ได้อย่างน้อย 10 ลูก ต่อจาก ฮูลิโอ ครูซ (13 ประตู) และ เอร์นัน เครสโป (11 ประตู)
- คนอิตาเลียน เพื่อทีมอิตาลี
นี่ถือเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของ อินเตอร์ ที่จะได้เข้าไปเล่นนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งมันถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของ ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือชาวอิตาเลียนที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2021 เพราะตอนแรกหลายคนยังไม่เชื่อมือเขาเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าฤดูกาลก่อนเขาพาทีมไปถึงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า อินเตอร์ จะได้เล่นนัดชิงชนะเลิศถึง 6 หน แต่เชื่อหรือไม่ว่า อินซากี้ นับเป็นกุนซือเชื้อสายอิตาเลียนคนที่ 2 เท่านั้นที่สามารถนำทีมเข้าไปเล่นนัดชิงดำของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ โดยคนแรกคือ โจวานนี่ อินแวร์นิซซี่ ที่ทำได้เมื่อฤดูกาล 1971-72 แต่ตอนนั้น อินเตอร์ แพ้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 0-2
- สัมผัส 3 นัดชิงดำอีกครั้ง
ในฤดูกาลนี้ อินเตอร์ ได้แชมป์ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า ไปแล้ว และพวกเขายังได้ลุ้นแชมป์ โคปปา อิตาเลีย อีก จากการเข้าไปดวลกับ ฟิออเรนติน่า ในนัดชิงชนะเลิศ นั่นหมายความว่าตอนนี้พวกเขากำลังมีลุ้นที่จะได้แชมป์ถึง 3 รายการในซีซั่น 2022-23
ในหน้าประวัติศาสตร์ของ อินเตอร์ นี่นับเป็นฤดูกาลที่ 4 ที่พวกเขาจะได้ลงเล่นเกมที่เป็นนัดตัดสินแชมป์ในฟุตบอลถ้วยอย่างน้อย 3 รายการภายในซีซั่นเดียวกัน โดยหนแรกเกิดขึ้นในฤดูกาล 1964-65 ที่พวกเขาได้แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ กับ อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ แต่ชวดแชมป์ โคปปา อิตาเลีย, ซีซั่น 2009-10 ที่ได้แชมป์ โคปปา อิตาเลีย กับ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่แห้วแชมป์ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า ตามด้วยฤดูกาล 2010-11 ที่พวกเขาได้เล่นนัดตัดสินแชมป์ในฟุตบอลถ้วย 4 รายการเลย ก่อนจะได้แชมป์ โคปปา อิตาเลีย, ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า และศึกชิงแชมป์สโมสรโลก แต่วืดแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
- เด็กเกร็ดบอล -