ไม่มีปาฏิหาริย์สำหรับ บาเยิร์น มิวนิค หลังจากพวกเขาทำได้เพียงเปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา จนทำให้สกอร์รวม 2 นัด "เรือใบสีฟ้า" เป็นฝ่ายชนะไป 4-1
เพื่อเป็นการส่งท้ายหนึ่งในบิ๊กแมตช์ของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ วันนี้เราเลยมีเกร็ดหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากเกมนี้ทั้งสำหรับของ แมนฯ ซิตี้ และ บาเยิร์น มาบอกเล่ากันสักหน่อย
- วัน 2 อารมณ์ของ ฮาลันด์
ที่จริงเกมนี้ เออร์ลิง ฮาลันด์ มีโอกาสทำให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำได้ตั้งแต่นาทีที่ 37 จากการที่ทีมเยือนได้ลูกจุดโทษ แต่เขากลับยิงไม่เข้า ซึ่งนี่ถือเป็นการยิงลูกจุดโทษพลาดหนแรกของเจ้าตัวนับตั้งแต่ที่ย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ซิตี้ โดยก่อนหน้านี้เขายิงเข้าครบทั้ง 7 ลูก
อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวนอร์เวย์ก็มาแก้ตัวได้จากประตูในนาทีที่ 57 ส่งผลให้เขาทาบสถิติการเป็นนักเตะที่ทำประตูให้สโมสรจากอังกฤษได้มากที่สุดต่อการเล่นศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ฤดูกาล ด้วยจำนวน 12 ลูก โดยคนที่เคยยิงได้เยอะขนาดนั้นก่อนหน้าเขาคือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ทำได้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่น 2002-03 ซึ่งแน่นอว่า ฮาลันด์ มีโอกาสที่จะขึ้นครองสถิติแบบเดี่ยวๆ หลังจากนี้ด้วย
- ทูเคิ่ล กับการสตาร์ตที่ติดขัด
ตอนที่ บาเยิร์น แต่งตั้งให้ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามารับงานต่อจาก ยูเลี่ยน นเากิลส์มันน์ นั้น หลายคนเชื่อว่าเขาจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ซึ่งกุนซือชาวเยอรมันก็เปิดตัวได้สวยหรูซะด้วยจากการพาทีมพิชิต โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-2 ในเกมลีก
ถึงกระนั้น จนถึงตอนนี้มันเท่ากับว่า ทูเคิ่ล พาทีมชนะได้เพียง 2 เกมจาก 6 นัดในทุกรายการ โดยที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอกับแพ้อย่างละ 2 หน ทำให้เขาเป็นกุนซือ บาเยิร์น คนแรกนับตั้งแต่ปี 1991 ที่เก็บชัยชนะในช่วง 6 เกมแรกได้เพียง 2 นัด โดยคนที่ออกสตาร์ตเลวร้ายแบบเขาเมื่อปี 1991 ได้แก่ โซเรน แลร์บี้
- ผลงานที่สวนทางกัน
ต้องบอกว่า แมนฯ ซิตี้ ของ กวาร์ดิโอล่า มีความคงเส้นคงวาที่ดีในระดับหนึ่งกับการเล่นถ้วยยุโรป เพราะมันเท่ากับว่าพวกเขาเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอย่างน้อยได้ถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" เป็นทีมจากเกาะอังกฤษทีมที่ 3 ที่ทำอย่างนั้นได้ ต่อจาก เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด
ในทางตรงกันข้าม นี่ถือเป็นซีซั่นที่ 3 ติดต่อกันที่ บาเยิร์น ไปไม่ถึงรอบตัดเชือกของศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ และมันก็ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006-2009 ที่พวกเขามีผลงานในถ้วยยุโรปน่าผิดหวังติดต่อกันอย่างนี้
- เดอ บรอยน์ จอมปั้น
จากการที่นัดล่าสุดเขาผ่านบอลให้ ฮาลันด์ ทำประตูได้ ทำให้นั่นถือเป็นการแอสซิสต์ครั้งที่ 23 ของ เควิน เดอ บรอยน์ จากการลงเล่นในทุกรายการประจำซีซั่นนี้ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้นี่เป็นฤดูกาลที่เขาทำแอสซิสต์ต่อ 1 ซีซั่นได้มากที่สุดแบบเดี่ยวๆ ตามไปด้วย หลังก่อนหน้านี้เขาทำได้ 22 แอสซิสต์เท่ากับตอนฤดูกาล 2019-20
นอกจากนี้ หากเทียบกับนักเตะจาก 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรปด้วยกันแล้วล่ะก็ เดอ บรอยน์ ก็ถือเป็นคนที่ทำแอสซิสต์ในการเล่นทุกรายการประจำฤดูกาล 2022-23 ได้เยอะที่สุดเช่นกัน โดยที่ 2 ในชาร์ตดังกล่าวคือ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทำได้ 18 หน
- เด็กเกร็ดบอล -