แม้ว่ารูปเกมจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ของเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสองระหว่าง เชลซี กับ เรอัล มาดริด ก็ออกมาไม่ต่างกับนัดแรก นั่นคือ "ราชันชุดขาว" เป็นฝ่ายชนะไปได้ 2-0 จนทำให้พวกเขาได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศจากการชนะด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-0
แน่นอนว่าเมื่อเกิดผลการแข่งขันแบบนี้มันก็ทำให้เกิดเกร็ดที่ดีหลายอย่างเกี่ยวกับ มาดริด และหลายอย่างที่ถือเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับ เชลซี ลองไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
- อันเชล็อตติ มาดีเสมอ
อย่างที่รู้กันดีว่านี่เป็นสมัย 2 ของ คาร์โล อันเชล็อตติ กับการกุมบังเหียน มาดริด หลังจากเขาเคยอยู่กับทีมในช่วงปี 2013-2015 ซึ่งถ้านับเป็นฤดูกาลแล้วล่ะก็ นี่ก็ถือเป็นฤดูกาลที่ 4 ของเขากับทีมแล้ว
ที่น่าทึ่งก็คือมันกลายเป็นว่าในทั้ง 4 ฤดูกาลดังกล่าว อันเชล็อตติ สามารถนำทีมทะลุถึงรอบตัดเชือกของ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอย่างน้อยได้ทั้งหมด เริ่มจากฤดูกาล 2013-14 ที่ได้แชมป์, ซีซั่น 2014-15 ที่จอดป้ายในรอบรองชนะเลิศ, ฤดูกาล 2021-22 กับตำแหน่งแชมป์ และในซีซั่นปัจจุบัน ซึ่งต้องรอดูกันว่าชะตากรรมจะออกมาแบบเดียวกับตอนฤดูกาล 2014-15 หรือจะไปได้ไกลกว่านั้น
- วินิซิอุส ฟอร์มสุดเข้มในถ้วยยุโรป
ในตอนนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ มาดริด แทบจะขาดไม่ได้ไปแล้ว หลังจากที่สามารถช่วยทีมได้เป็นอย่างดี โดยนัดล่าสุดเขาก็ได้เครดิตการทำ 1 แอสซิสต์ จากชอตที่ช่วยให้ โรดรีโก้ ทำประตูขึ้นนำให้กับทีมได้
ผลงานดังกล่าวทำให้เท่ากับว่า วินิซิอุส มีส่วนร่วมกับประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก มากถึง 21 ลูกจากการลงเล่น 21 นัดหลังสุดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก แบ่งเป็นการยิงเอง 10 ลูกกับการทำอีก 11 แอสซิสต์ ซึ่งหากนับตั้งแต่ตอนเริ่มฤดูกาลก่อนแล้วนั้น เขาก็เป็นนักเตะคนเดียวที่ทั้งทำประตูได้อย่างน้อย 10 ลูก และทำแอสซิสต์ได้แตะเลข 2 หลัก
- ความเลวร้ายของ เชลซี
ความพ่ายแพ้ในนัดล่าสุดทำให้ตอนนี้ เชลซี แพ้ถึง 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1993 ที่พวกเขามีผลงานย่ำแย่แบบนั้น โดยตอนนั้นพวกขาเคยแพ้ 6 เกมติดต่อกันในทุกรายการด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ นี่ก็เป็นอีกเกมที่แสดงให้เห็นว่า เชลซี มีปัญหาในด้านเกมรุกอย่างมาก เพราะมันถือเป็นเกมที่ 18 จากทุกรายการในฤดูกาลนี้ที่พวกเขาทำประตูไม่ได้ ทำให้นี่นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1980-81 ที่พวกเขาเท้าบอดต่อ 1 ซีซั่นเยอะขนาดนี้ โดยตอนนั้น เชลซี ยิงไม่ได้ถึง 21 เกมด้วยกัน
- แลมพาร์ด อาการหนัก
ตอนที่ แลมพาร์ด เข้ามารับงานกุนซือชั่วคราวของทีมเมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมานั้น หลายคนก็ไม่ได้ถึงขนาดที่คาดหวังว่าเขาจะพลิกสถานการณ์ให้ทีมจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ โดยมองกันว่าขอแค่ทำให้ทีมเล่นได้ดีขึ้นนิดหน่อยก็พอ
อย่างไรก็ตาม มันกลับกลายเป็นว่า แลมพาร์ด พาทีมแพ้ครบทั้ง 4 นัด นับตั้งแต่ที่เข้ามาคุมทีม จนทำให้เขาถือเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ 118 ปีของ เชลซี ที่พาทีมเก็บชัยชนะไม่ได้แม้แต่นัดเดียวในช่วง 4 เกมแรกที่คุมทีม แถมถ้านับย้อนกลับไปถึงตอนคุม เอฟเวอร์ตัน ด้วยล่ะก็ อดีตมิดฟิลด์คนดังก็เก็บชัยชนะได้แค่นัดเดียวใน 18 เกมหลังสุด โดยที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอ 2 เกมกับแพ้ 15 นัดเลยทีเดียว
- เด็กเกร็ดบอล -