ปาฎิหารย์(ไม่)มีจริง?ส่อง 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ซ้อมก่อนบุกฟาดแข้ง มาดริด

ปาฎิหารย์(ไม่)มีจริง?ส่อง 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ซ้อมก่อนบุกฟาดแข้ง มาดริด
ลิเวอร์พูล ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอีกครั้งสำหรับการทำศึก แชมเปี้ยนส์ลีก โดยพวกเขามีคิวบุกไปต่อกรกับ เรอัล มาดริด ในวันพุธนี้เพื่อแย่งกันผ่านเข้ารอบแปดทีมสุดท้ายของถ้วยหูใหญ่

จากสถานการณ์ล่าสุด หงส์แดง ลงซ้อมครั้งสุดท้ายไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ 14 มี.ค.หลังจากเกมแรกที่ลงเล่นใน แอนฟิลด์ พวกเขาเสียท่าให้กับ ราชันชุดขาว ขาดลอย 5-2 ซึ่งส่อเค้าว่ามีแววกระเด็นตกรอบสูง

แม้จะออกสตาร์ตได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจโดยยิงประตูนำแชมป์เก่าได้ตั้งแต่ไก่โห่สองตุงจากฝีเกือกของ ดาร์วิน นูนเญซ และ โม ซาลาห์ แต่เป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างยิ่งที่ทีมจาก ลา ลีกา แผลงฤทธิ์ซัดห้าประตูรวดจากความร้ายกาจของ วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า ที่กดคนละสองตุง บวกกับอีกประตูจาก เอแดร์ มิลิเตา กำชัยกลับถิ่นได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์

แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ หงส์แดง ต้องประสบกับเกมที่แสนตึงเครียด และหลายครั้งที่ผ่านมาพวกเขาแสดงให้เห็นว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในเกมฟุตบอล

แต่ไม่ว่าคืนวันพุธนี้ผลลัพธ์จะออกมาในแนวทางไหน นี่คือ 5 สิ่งที่น่าสนใจจากสนามซ้อมของ เร้ด แมชีน เมื่อวันอังคารก่อนที่พวกเขาจะก้าวเท้าขึ้นเครื่องบินสู่เมืองกระทิงดุ

1. มาดริด ไม่ใช่ บาร์ซ่า

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลิเวอร์พูล เคยสร้างวีรกรรมจอมคัมแบ็คถ้วยหูใหญ่มาก่อนแล้วหลายหน อย่างในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เป็นเกมในรอบตัดเชือกกับ บาร์เซโลน่า ซีซั่น 2018/19 ซึ่ง หงส์แดง ซิวแชมป์ไปครองเป็นผลสำเร็จจากการสยบ สเปอร์ส 2-0

หลังบุกไปโดน บาร์ซ่า สอยกลิ้ง 3-0 ในเกมแรกที่ คัมป์นู จากฝีเท้าของ หลุยส์ ซัวเรซ อดีตหัวหอก และ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ตะบันสองเม็ด เป็นใครต่างก็มั่นใจว่าทีมยักษ์ของกาตาลันจะตบเท้าเข้าชิงชนะเลิศได้ล้านเปอร์เซนต์

อย่างไรก็ดี ขึ้นชื่อว่า ลิเวอร์พูล แถมพวกเขาได้เล่นในสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ ด้วยแล้ว หากเสียงนกหวีดสุดท้ายยังไม่ดังขึ้น ทุกอย่างก็สามารถเป็นไปได้ทั้งนั้น

และในที่สุด ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ก็สร้างความสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอีกจนได้เมื่อจัดการฆาตกรรม บาร์ซ่า อย่างเหี้ยมโหด 4-0 โดยมี ดิว็อค โอริกี้ กับ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม แบ่งกันซัดคนละสองตุงพาทีมโกงความตายกำชัยไปได้ด้วยสกอร์รวม 4-3

แต่ก็นั่นแหละ บาร์ซ่า ไม่ใช่ มาดริด ซึ่ง ลิเวอร์พูล มีสถิติเป็นรองหลายขุมจากการพะบู๊กันในรายการนี้รวม 10 ครั้ง หงส์แดง ชนะได้แค่ 3 ครั้ง และพ่ายไปถึง 6 ครั้ง

และที่สำคัญ คืนวันพุธนี้ต่างไปจากสามปีก่อนเนื่องจาก หงส์แดง ลงเล่นในบ้านไปก่อนแล้ว และโดนยำใหญ่ก่อนมีคิวต้องบุกไปเยือน เบร์นาเบว

นอกจากนี้ สถิติเกมเยือนในซีซั่นนี้ของ ลิเวอร์พูล ก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่เกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งพวกเขาแพ้หลายนัด และเสียประตูเป็นเข่ง

2. บายเซติช พร้อมลุย

ถือเป็นปีที่ดีของดาวรุ่งอย่าง สเตฟาน บายเซติช มิดฟิลด์อนาคตไกลซึ่งแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในซีซั่นนี้ และได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจาก คล็อปป์ อย่างเต็มที่กับการถูกส่งลงสนามอย่างต่อเนื่องแซงหน้า ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ไปแล้ว

ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่ออกไปแพ้ บอร์นมัธ 1-0 บายเซติช ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกหนก่อนโดนเปลี่ยนออกในช่วงสองนาทีสุดท้ายให้ คาร์วัลโญ่  ลงไปเล่นแทน แต่ในการซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหนูสแปนิชไม่ปรากฏตัวว่าร่วมซ้อมกับทีมจนส่งผลให้เกรงกันว่าเขาจะพลาดบินไปที่เมืองมาดริด

อย่างไรก็ดี จากการแจ้งรายชื่อนักเตะของ ลิเวอร์พูล บายเซติช ติดอยู่ในโผด้วยซึ่งหมายความว่าเขาพร้อมฟาดเกือกกับ ราชันชุดขาว แน่หากได้รับการเรียกใช้บริการจากเจ้านาย

3. กัปตันจับไข้

นอกจาก บายเซติช จะไม่ได้ซ้อมเมื่อวันอังคารแล้ว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็ไม่ปรากฏตัวที่ แอ็กซ่า เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ เช่นกันแม้ในเกมกับ เดอะ เชอร์รีส์ เขาจะลงเล่นเป็นตัวสำรองได้โดยลงไปรับช่วงแทน ฟาบินโญ่ ในนาทีที่ 65

อย่างไรก็ดี มีคำชี้แจงจาก คล็อปป์ ว่ากัปตัน เฮนโด้ จับไข้เล็กน้อย และในที่สุดก็เป็นอันชัดเจนว่ามิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ไม่ได้ร่วมออกเดินทางไปกับทีมที่ท่าอากาศยาน จอห์น เลนน่อน

ถึงอย่างนั้นก็เชื่อได้เลยว่า เฮนเดอร์สัน พร้อมกลับมาลงสนามในเกมต่อไปอย่างแน่นอนเนื่องจาก หงส์แดง จะต่อกรกับ เรอัล มาดริด เป็นเกมสุดท้ายก่อนได้พักเบรกเกมทีมชาติด้วยเหตุที่พวกเขาตกรอบฟุตบอล เอฟเอคัพ ไปแล้วอันหมายความว่า เฮนโด้ จะมีชื่อลงบู๊เกม พรีเมียร์ลีก นัดบิ๊กแมตช์บุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 1 เม.ย.ขึ้นอยู่กับว่า คล็อปป์ จะเลือกส่งเขาลงเล่นเป็น 11 คนแรกหรือเปล่า

4. ดิอาซ รอการคืนสนาม

หลังจากเจ็บเข่าไปนาน หลุยส์ ดิอาซ ก็น่าจะกลับมาลงเล่นได้ในอีกไม่ช้า แม้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเขาจะยังต้องซ้อมเดี่ยวในห้องยิมโดยยังไม่สามารถลงซ้อมในสนามกับเพื่อนร่วมทีมได้

ก่อนหน้านี้ ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย เคยเอ่ยปากตั้งเป้าว่าหวังกลับมาช่วยทีมในเกมบู๊กับ เรอัล มาดริด นัดสอง แต่จากความเป็นจริงมันไม่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากอดีตสตาร์ทีม ปอร์โต้ ไม่มีชื่อร่วมบินไปกับทีมเช่นกัน

และน่าจะเป็นเหมือน เฮนโด้ ตลอดจน ติอาโก้ อัลกันตาร่า ซึ่ง ดิอาซ น่าจะฟิตสมบูรณ์กลับมาลงสนามได้อีกหนในเกมฟัดกับ เรือใบสีฟ้า ต้นเดือนหน้า

5. ปริศนาของ ฟีร์มิโน่

เป็นซีซั่นสุดท้ายแล้วที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่  จะลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ก่อนย้ายออกไปแบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์เนื่องจากหมดสัญญา

แต่ถึงขณะนี้ทั้งเอเยนต์และตัวนักเตะยังปิดปากเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตการค้าแข้งแต่อย่างใดแม้ล่าสุดจะมีข่าวลือว่า แอตเลติโก มาดริด ทีมใน ลา ลีกา ปรารถนาได้เขาไปเสียบแทน ชูเอา เฟลิกซ์ ที่จ่อโดนโละทิ้ง

นอกจากทีม ตราหมี แล้ว สตาร์ชาวเมืองกาแฟก็ถูกคาดหมายว่าอาจกลับไปหากินในถิ่นเกิดเหมือนเพื่อนร่วมชาติหลายรายในช่วงบั้นปลายของอาชีพนักเตะได้เช่นกันแม้จะว่าไปแล้วเขายังสามารถค้าแข้งในลีกยุโรปต่อได้อีกหลายปี

เท่านั้นไม่พอ ฟีร์มิโน่ หนีไม่พ้นเป็นสตาร์ดังอีกรายที่โดนโยงว่าได้รับความสนใจจาก อัล นาสเซอร์ ที่หวังได้เขาไปเป็นคู่ขาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในซีซั่นหน้า

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ฟีร์มิโน่ จะถูกจดจำว่าเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรอย่างไม่ต้องสงสัยเนื่องจากเขาประสบความสำเร็จได้แชมป์กับทีมมาแล้วมากมาย และอาจไม่ใช่เขาคนเดียวที่เตรียมอำลาสังเวียนแข้ง แอนฟิลด์ ในซัมเมอร์นี้ด้วยเนื่องจาก เจมส์ มิลเนอร์ , อาเดรียน , นาบี้ เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ต่างก็ยังไม่ได้รับการต่อสัญญาซึ่งเป็นเหมือนสัญญาณที่บ่งบอกว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องสร้างทีมชุดใหม่ขึ้นมาอีกคำรบ


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport