นาโปลี รุกจัดหนัก! "โอซิมเฮน-ควารัตส์เคเลีย"ควงบุก แฟร้งค์เฟิร์ต วาง"เกิทเซ่"บู๊ยกแรก16ทีมชปล.

ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก 

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 

แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน) - นาโปลี (อิตาลี)

เวลา : 03.00 น. ถ่ายทอดสด : บีอินส์ สปอร์ต 3     

สนาม : แฟร้งค์เฟิร์ต สตาดิโอน

แฟร้งค์เฟิร์ต

    โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เทรนเนอร์แฟร้งค์เฟิร์ต พาทีมมาเล่นรอบนี้ ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ดี ก่อนชนะเบรเมน 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัยนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม 

    ความพร้อมเกมนี้ "น้ากลาสเนอร์" ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม ขาดแค่เอริค ดิน่า เอบิมเบ้ (ข้อเท้า) ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้ว 

    ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเควิน ทรัปป์, เอว็อง เอ็นดิคก้า, ตูต้า, ไดจิ คามาดะ, ฌิบริล ซาว, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม, มาริโอ เกิทเซ่ และ ร็องดัล โกโล มูอานี่ ต่างพร้อมบู๊เหมือนเดิม 

    แต่ในรายของเฮอร์โวเย่ สโมลชิช, คริสติยาน ยาคิช และ มาโคโตะ ฮาเซเบะ 3 แข้งที่ติดคาดโทษก็ต้องระวัง เพราะถ้าโดนเพิ่มก็จะชวดนัด 2 ทันที 

นาโปลี

    ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ นายใหญ่นาโปลี พาทีมเข้ารอบนี้มาในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ ก่อนอัดซาสซูโอโล่นิ่มๆ 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 5 นัดติด 

    สภาพทีมเกมนี้ "น้าสปัลเล็ตติ" ต้องลุ้นเล็กน้อยกับความฟิตของวิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้าตัวเก่งที่เดินกระเผลก หลังถูกเปลี่ยนออกในช่วงท้ายเกมล่าสุด แต่เชื่อว่าน่าลงช่วยทีมได้ตามปกติ

แต่ในรายของจาโคโม่ ราสปาโดรี่ ดาวยิงอีกรายที่เจ็บกล้ามเนื้ออยู่ก่อนแล้ว ยังชวดเหมือนเดิม

    แดนกลางปิโอเตอร์ เซลินสกี้ มิดฟิลด์โปลตัวเก่ง ที่ถูกพักไว้เป็นสำรอง ก็จะคัมแบ็กตามปกติ แต่ในรายของมัตเตโอ โปลิตาโน่ ที่ติดคาดโทษอยู่ ก็ต้องระวัง หากโดนใบเหลืองเพิ่ม ก็จะหมดสิทธิ์บูีในนัด 2 ทันที 

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม    

    แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-2-1) : เควิน ทรัปป์ - เฮอร์โวเย่ สโมลชิช, เอว็อง เอ็นดิคก้า, ตูต้า - เอาเรลิโอ บูต้า, ไดจิ คามาดะ, ฌิบริล ซาว, ฟิลิปป์ มักซ์ - เยสเปอร์ ลินด์สตรอม, มาริโอ เกิทเซ่ - ร็องดัล โกโล มูอานี่

    นาโปลี (4-3-3) : อเล็กซ์ เมเร็ต - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, คิม มิน-แจ, อาเมียร์ ราห์มานี่, มาริโอ รุย - สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, ฟร้องค์ อ็องเดร ซ็องโบ อ็องกิสซ่า, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ - เอร์วิ่ง โลซาโน่, วิคเตอร์ โอซิมเฮน, ควิช่า ควารัตส์เคเลีย  

    ผู้ตัดสิน : อาร์ตูร์ ดิอ๊าส (โปรตุเกส)